8 เกม Steam ที่ซื้อมาแล้วดูพอไปวัดไปวา ปี 2019

ก็มาถึงช่วงเวลาสรุปเกม Steam ที่ผมซื้อมาแบบที่ทำเป็นประจำทุกปีกันแล้ว จากปีก่อนเอาไป 7 เกม ปีนี้ก็มากขึ้นอีกเป็น 8 เกม😅 ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าทั้งปีผมซื้อมาแค่ 8 เกมนี่นะ แค่ตัดมาเฉพาะเกมที่รู้สึกว่าพอไปวัดไปวาได้ ตามชื่อ...

และก็ตามเดิม เกมจะเรียงลำดับจากการซื้อก่อนหลัง ไม่มีการสนใจว่าเกมนั้นจะออกปีไหน ออกก่อนหรือหลัง เอาแค่ซื้อก่อนมาก่อน ซื้อทีหลังมาทีหลัง แค่นั้น😊 ไปดูกันเลย!



1. Stardew Valley


จริง ๆ ผมเคยซื้อ Stardew มาทีนึงแล้วช่วงต้นปี 2017 แต่ตอนนั้นขอคืนเงินแล้วเอาไปซื้อ Starbound แทน และสาเหตุที่อยากเล่น Stardew อีกครั้งก็เพราะได้ปลูกผักใน Starbound แล้วรู้สึกว่า อา.. ชีวิตดี๊ดี ไม่ต้องบู๊ระห่ำอะไรมากมาย ก็เฝ้ารอจะซื้อ Stardew นี่มาตลอด

พอได้มาเล่นแบบเต็ม ๆ ก็พบว่า.. ชีวิตบ้านไร่ช่างวุ่นวายกว่าที่คิด เพราะต้องไล่ผูกสัมพันธ์ชาวบ้านไปทั่ว แล้วแต่ละคนก็มีตารางชีวิตเป็นของตัวเองว่าวันไหนเวลาไหนจะไปที่ไหน และเราต้องวิ่งตามหาพวกเขาทุกวัน ต้องหาข้อมูลว่าชอบอะไรบ้าง คือแค่จีบสาวคนเดียวมันไม่พอหรอกนะ ชาวบ้านบางคนเราก็ต้องผูกสัมพันธ์เพื่อเปิดทางไปทำเควสต์หรืออีเวนต์ต่าง ๆ ด้วย  มีการรวบรวมของประจำฤดูกาลเพื่อปลดล็อคอะไรต่าง ๆ นา ๆ มากมาย บางทีได้อะไรมาก็ต้องคอยเช็คว่าของนั่นขายได้เลยหรือต้องเก็บไว้ปลดล็อค เป็นเกมที่ต้องเช็คข้อมูลต่าง ๆ ตลอด😑

ด้านการปลูกผักตกปลาก็เพลินดี ส่วนเลี้ยงสัตว์ ผมไม่มีปัญญาซื้อโรงเลี้ยงสัตว์ซะทีแฮะ เลยยังไม่ได้สัมผัสตรงจุดนี้ ก็เปลี่ยนเกมไปซะก่อน😅




2. Disgaea PC 2


เป็นเกมแนว S-RPG (Strategy RPG : เกมแนวกลยุทธ์สวมบทบาท) ที่ผมอยากเล่นมานาน (แต่เล่นไม่ค่อยรอด😂) ออกมาหลายภาคแล้ว ในสตีมจะมีออกมาแล้ว 3 ภาคคือ ภาคแรก ภาค 2 และ ภาค 5 ตอนแรกก็ลังเลว่าจะเอาภาคแรกหรือภาคนี้ดี แต่เพราะความโบราณของภาคแรก (ใช้จอยแล้วขึ้นปุ่มเป็นตัวเลข) ก็เลยตัดสินใจเอาภาค 2 นี่แหละ

ตัวเกมมีจุดเด่นที่พวกท่าพิเศษท่าประสานดูเว่อร์หลุดโลก (ยิ่งภาคหลังยิ่งอาการหนัก) นอกนั้นยังมีเทคนิคที่เป็นซิกเนเจอร์อย่างการต่อตัวกันขึ้นไปได้เรื่อย ๆ แบบไม่สงสารคนอยู่ล่างสุด แล้วสามารถนำไปใช้รุมโจมตีศัตรูได้ (รุมแบบแนวตั้งนี่แหละ) เอาจริง ๆ ตอนแรกผมไม่ยอมรับเทคนิคนี้นะ แต่พบว่ามันจำเป็นต้องใช้ฟ่ะ😅 นอกนั้นเกมยังมีระบบมากมายให้เราสร้างและพัฒนาตัวละครในปาร์ตี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มี tutorial ให้ ต้องอ่านจากคำแนะนำของ NPC อันแสนยืดยาวเอา ถ้าไม่ตั้งใจอ่านดี ๆ หรือกดอ่านผ่าน ๆ อาจจะไม่รู้ระบบพวกนี้ไปเลยก็ได้ (ในไทยก็ไม่ค่อยมีเว็บเขียนเทคนิคการเล่นไว้เท่าไหร่)

ปีที่แล้วและปีก่อน ๆ เกมซีรี่ส์นี้จะเปิดให้เล่นฟรีแบบจำกัดเวลาช่วงนึง (แบบไม่ได้พร้อมกันทุกภาคนะ) แล้วผมก็ได้ลองเล่นภาค 5 ที่คิดว่าเครื่องเล่นไม่ไหวมาตลอด พบว่าระบบ tutorial ทำออกมาได้เข้าใจง่ายกว่าภาค 2 มาก ถ้าไม่กะตามเก็บเนื้อเรื่องทุกภาค ข้ามไปภาค 5 เลยดีกว่านะ




3. DRAGON BALL FighterZ


หลายครั้งที่ผมหลงซื้อเกม fighting มา เพราะเกมพวกนี้เปิดให้ลองเล่นฟรีชั่วคราว และเกมนี้ก็เช่นกัน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีเลยละ เพราะเกมแนวนี้น่ะเล่นเท่าไหร่ก็ไม่พอ (เห็นบางเกมเปิดให้เล่น 7 วันมาแล้ว) ตัวเกมเหมือนจะกินสเป็ค แต่จริง ๆ สามารถเล่นบน Intel HD 630 ได้สบาย ๆ เลย (ปรับ Medium ความละเอียด 768p) เมื่อก่อนสตีมจะลดราคาเกมนี้ต่ำสุด 600 กว่าบาท แต่ไปเจอเว็บนึงขาย 400 กว่าเลยรีบสอยไม่ลังเลเลย มาตอนนี้สตีมขายถูกกว่าที่นั่นแล้ว😭

ตัวเกมเป็นแนว fighting ความไวสูงมาก กราฟิกเป็น 3D แต่ทำให้ดูเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนจริง ๆ โดยเฉพาะเวลาปล่อยท่าอัลตินี่ถอดมาจากการ์ตูนเป๊ะ ๆ โหมดเนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องราวแต่งใหม่ แต่ยังเชื่อมกับเนื้อเรื่องหลัก เพราะหลายครั้งที่ตัวละครบางตัวเจอกัน ก็จะยกเรื่องราวในอดีตมาอ้างอิงด้วย (บางทีก็มีหยอดมุกมากมาย😂) ตัวโหมดเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็น 3 ฝ่าย (ฝ่ายตัวเอก ฝ่ายตัวร้าย ฝ่ายแอนดรอยด์) โดยเหตุการณ์ของแต่ละฝ่ายจะดำเนินไปแบบคู่ขนานกัน ทำให้เราได้เห็นมุมมองของแต่ละฝ่าย จัดว่าทำมาได้น่าติดตามมาก

ข้อเสียของเกมนี้คือ โหมดเล่นคนเดียวโหมดอื่น ๆ ค่อนข้างจืดไปหน่อย คือมันไม่มีแบบพวกโหมด Survival หรือโหมดอะไรที่ให้สู้กับศัตรูแบบสุ่มไปเรื่อย ๆ มีแต่โหมดที่ให้เราสู้กับทีมที่ล็อคตายตัวเรียงลำดับไปเรื่อย ๆ โดยถ้าทำ rank ได้ดีลำดับถัดไปก็จะเจอทีมนึง ถ้าห่วยก็จะเจออีกทีมนึง แต่ถ้าฝีมือคงที่ก็เจอแต่ทีมชุดเดิม ๆ นั่นแหละ โชคดีที่ตอนหลังมีอัพเดตเพิ่มแบบสุ่มมาแล้ว แต่ดันสุ่มตัว DLC โหด ๆ มาได้ด้วย (แม้เราจะไม่มี DLC) เล่นแล้วโคตรท้อ 🤣




4. Mega Man Legacy Collection 2


คงไม่ต้องเขียนอะไรมาก เพราะจัดไปเต็ม ๆ แล้วกับเอ็นทรี่ [รีวิวสาย ๆ] Mega Man Legacy Collection 2 คร่าว ๆ ก็คือตอนแรกคิดว่าสเป็คไม่ถึง แต่ลองซื้อมาดู เล่นไม่ได้ก็คืนเงิน ที่ไหนได้ เล่นได้ฉิว ๆ เลย (กลับกันพวกการ์ดจอแรง ๆ อาจจะเจอปัญหา)

สำหรับคนที่สงสัยว่า เฮ้ย เล่นอีมูเลเตอร์ดีกว่ามั้ง ผมคิดว่าไม่นะ เพราะแต่ละภาคในชุดนี้มันกระจายไปอีมูหลายตัวมาก (หรืออาจจะตัวเดียวแต่ก็ต้องใช้หลายโมดูลตั้งค่าแยกกัน) พอมารวมกันแบบนี้เปิดเล่นได้เลย ลื่นด้วย ไม่มีอาการภาพแตก ๆ มาให้รำคาญใจ

สรุปว่า.. รักร็อคแมนกันจริงต้องจัดมาดอง 😁




5. Mary Skelter: Nightmares


ปีนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น อยากเล่นเกมแนว Dungeon Crawler แบบ 3 มิติดั้งเดิมขึ้นมา ช่วงซัมเมอร์เซลก็มองหาหลายเกม แล้วก็มาลงตัวที่เกมนี้ ตัวเกมเป็นแนวลุยดันเจี้ยนแบบมุมมองเห็นแต่ดันเจี้ยนแบบ 3 มิติ (ไม่เห็นตัวละครเดิน) เป็นแนวเก่าแก่ตั้งแต่ยุคที่ PC ยังเป็นจอเขียว ๆ (เกิดไม่ทันล่ะสิ) ฉากต่อสู้จะเห็นแต่ตัวศัตรู (มีภาพตัวละครฝั่งเราแบบภาพนิ่งโผล่มาตอนโจมตี) ศัตรูก็สุ่มโผล่แบบดรากอนเควสต์ภาคแรก ๆ (และดรากอนเควสต์ก็เอาไอเดียฉากต่อสู้มาจากเกมแนวนี้แหละ)

จุดเด่นของเกมนี้คือตัวละครจะอ้างอิงมาจากเทพนิยายทั้งหลาย แล้วเรียกชื่อตามตัวละครในเรื่องนั้น ๆ เลย (ซึ่งถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่นจะฟังดูเป็นชื่อคนทั่วไปมากกว่า อย่าง Snow White ก็เป็น ชิโรยูกิ ฮิเมะ อะไรประมาณนี้) ตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถที่ใช้ช่วยในการลุยดันเจี้ยนต่างกัน เช่น สร้างจุดเซฟ ทำลายสิ่งกีดขวาง วางระเบิด ยิงธนู  และระบบที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเกมนี้คือระบบเลือดสาด ที่เวลาเราโจมตีศัตรูหนัก ๆ เลือดศัตรูจะกระเด็นโดนตัวคนโจมตี ถ้าเลือดสะสมมาก ๆ จนเต็ม ตัวละครก็จะแปลงร่างเพิ่มพลังได้ แต่การแปลงร่างไม่ได้มีแต่ข้อดี ถ้าตัวละครเกิดเครียดจะทำให้เลือดสีคล้ำ แล้วถ้าดันแปลงร่างตอนนั้นขึ้นมาก็จะควบคุมไม่ได้และโจมตีไม่เลือก ต้องใช้ความสามารถของพระเอกในการเรียกสติกลับมา

เกมนี้พัฒนาโดยค่ายเดียวกันกับเกมที่แสนเฮฮาอย่างซีรี่ส์ Neptunia แต่กลับซีเรียสกว่าทุก ๆ เกมจากค่ายเดียวกัน (เซอร์วิชก็น้อยกว่าด้วย😅) และตลอดทั้งเกมเราจะไม่ได้เห็นตัวละครฝั่งเราเป็นโมเดล 3D แน่นอน ก็จัดเป็นแนวเฉพาะทางที่พอมีแฟนประจำอยู่ล่ะนะ ตัวเกมยังมีระบบมากมายที่น่าสนใจ อ้อ ตัวละครเปลี่ยนชุดตาม Job ด้วยนะ




6. The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition


น่าจะเป็นเกมภาพจริงจังเกมเดียวในเอ็นทรี่นี้ 😅 เป็นหนึ่งในเกมที่ตอนแรกผมแอนตี้มาก เพราะพอเวอร์ชันนี้ออกมา Skyrim เวอร์ชันเดิมก็ถูกซ่อนจากการค้นหาในสตีมและไม่มีการลดราคาอีกต่อไป โดยตอนแรกเวอร์ชันนี้จะแจกฟรีสำหรับคนที่มีเวอร์ชันเดิมพร้อม DLC ครบเท่านั้น (ส่วนคนมีไม่ครบ ก็ซื้อเอาสิครับ🤣) จนปี 2018 จู่ ๆ เกมนี้ก็มามุกเดียวกับเกม fighting คือ เปิดให้เล่นฟรีแบบจำกัดวัน ผมก็ลองไปเอามาเล่นโดยไม่หวังอะไรมาก  แต่มันก็เล่นได้ฉิวอีกแล้วเฮ้ย!  แม้จะปรับได้แค่ Low แต่ภาพก็สวยและลื่นกว่า High ของเวอร์ชันเดิมซะอีก ก็รอลดราคาเรื่อยมา รอยังไงมันก็ไม่ต่ำกว่า 700 ซะที  สุดท้ายก็ซื้อจากร้านข้างนอกที่ขายเป็นคีย์สตีม ราคาแค่ 350 (รับรองความน่าเชื่อถือโดยเพจเกมถูกบอกด้วย) ก็สอยมาเลย!  แล้วตอนนี้ดันเอามาขายกันไม่ถึง 300 เต็มไปหมด😂 (ตอนที่เขียนนี่บนสตีมก็ยังขายไม่ต่ำกว่า 700 อยู่นะ)

หลายคนมักจะคิดว่าเวอร์ชัน Special Edition นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาเวอร์ชันดั้งเดิมมาใส่ม็อดภาพสวย แต่จริง ๆ มันมีความต่างในเชิงเทคนิคอยู่อย่างคือ เอ็นจินมันอัพเกรดเป็น 64 บิต ทำให้เข้าถึงแรมได้มากขึ้นและมีออบเจ็คในฉากได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย ถ้าเทียบกับตัวดั้งเดิมจะพบว่า SE เขาแอบเพิ่มต้นไม้ ใบหญ้า ก้อนกรวด ยิบย่อยเต็มไปหมด นั่นคือแอบโชว์การใส่ออบเจ็คได้มากขึ้นนั่นแหละ

นอกนั้นก็มีการปรับปรุงอื่น ๆ เช่น แยกเซฟแต่ละตัวละครไม่ให้ปนกัน สามารถค้นหาและติดตั้งม็อดได้จากในตัวเกมเลย (หรือจะติดตั้งจากข้างนอกก็ยังทำได้อยู่....บ้าง) แต่ข้อเสียที่ยิ่งใหญ่คือ ถ้าเปิดใช้ม็อดจะไม่สามารถรับ Achievement ใด ๆ ได้เลย ในขณะที่เวอร์ชั่นเดิมไม่มีการจำกัดเรื่องนี้




7. Mega Man X Legacy Collection 1


คงไม่ต้องเขียนอะไรมาก เพราะจัดไปเต็ม ๆ แล้วกับเอ็นทรี่ [รีวิวสายอีก] Mega Man X Legacy Collection 1 คร่าว ๆ ก็คือตอนแรกคิดว่าสเป็คไม่ถึง แต่ลองซื้อมาดู เล่นไม่ได้ก็คืนเงิน ที่ไหนได้ เล่นได้ฉิว ๆ เลย (กลับกันพวกการ์ดจอแรง ๆ อาจจะเจอปัญหา) .... เอ ข้อความตรงนี้มันคุ้น ๆ นะ😅

ตัว Legacy Collection ก่อนหน้านี้คนอาจเอาไปเทียบกับอีมูเลเตอร์ แต่กับ MMXLC นี่เพิ่มอะไรหลาย ๆ อย่างที่อีมูไม่มีมาเพียบ (ยกเว้นระบบเซฟ ที่อีมูทำได้ดีกว่าแน่ ๆ 😂) มีการแอบซ่อนความลับให้ปลดล็อคไว้ตามโหมดต่าง ๆ   Achievement ก็มีความเชื่อมโยงกับเนื้อหาในเกมมากขึ้น

มันจะมีปัญหาก็ตรงเกมดันมีบั๊กที่ทำให้เจอปัญหาเฟรมเรทร่วง (แม้จะใช้การ์ดจอเทพ) แต่คนรีวิวแง่บวกก็เยอะนะ แสดงว่าคนที่ไม่มีปัญหาก็มีไม่น้อย ดังนั้นต้องเสี่ยงดู 😄




8. Superdimension Neptune VS Sega Hard Girls


ก็ยังคงมีซีรี่ส์ Nep ทุกปีไม่ขาด (แล้วเล่นจบสักภาคมั้ย?  อ้อ จบภาคนึงนะ😃) โดยภาคนี้เป็นไซด์สตอรี่ที่แปลกกว่าไซด์สตอรี่ภาคอื่น ๆ ตรงที่มันยังคงเป็นเกม RPG กึ่ง Turn-base แบบเดียวกับเกมหลัก (ปกติไซด์สตอรี่จะเปลี่ยนเป็นแนวอื่นตลอด) แต่ปรับปรุงระบบหลาย ๆ อย่างให้ดูกระชับและเข้าใจง่ายขึ้น อย่างฉากต่อสู้ที่เคยต้องกดคอมโบ 3 ปุ่มเพื่อโจมตี ก็มาเหลือแค่ปุ่มเดียว และยังสามารถใส่คำสั่งได้หลายอย่างใน 1 เทิร์น หรือจะโจมตีศัตรูมากกว่า 1 ตัวก็ได้ โดยแต่ละเทิร์นจะถูกจำกัดด้วย Action Gauge ที่จะเพิ่มเรื่อย ๆ เมื่อกดใส่คำสั่ง เต็มเมื่อไหร่ก็ต้องกดจบเทิร์นลูกเดียว  นอกจากนี้ยังมีการโจมตีแบบใหม่คือกดโจมตีค้างให้ Action Gauge เต็ม จะเป็นการใช้ท่าโจมตีพิเศษของตัวละคร แล้วยังมีระบบ Fever Gauge ที่เต็มเมื่อไหร่ จะสามารถเปิด Fever Mode ที่จะเพิ่มพลังตัวละครและลดเทิร์นศัตรูทำให้โจมตีได้ต่อเนื่องกว่าเดิม (อ้อ ฉากต่อสู้ภาคนี้กระโดดได้ด้วยนะ)

ฉากในดันเจี้ยนก็... ส่วนใหญ่หน้าตาเดิม ๆ แต่จะมีการเพิ่มแอคชั่นมากขึ้น เช่น แดช ปีนบันได ไต่ราว มุดรู ทำลายของหาไอเท็ม เออ ค่อยรู้สึกแปลกใหม่หน่อย เสียตรงเกมล็อคให้ใช้ตัวละครเดินในดันเจี้ยนได้แค่ 2 ตัว คือ IF กับ Segami แล้ว 2 ตัวนี่ก็ดันไม่มีชุดให้เปลี่ยนด้วยนะ แถมอาวุธภาคนี้จะเปลี่ยนยังไงก็หน้าตาเหมือนเดิมตลอดทั้งเกม ไม่รู้จะอู้ทำไม😅  ระบบ Plan จากภาคหลักก็ยังคงมีในภาคนี้ แต่ไม่ต้องหาของมาคราฟท์แล้ว ได้มาก็กดเปิด-ปิดได้เลย

เนื้อหาของภาคนี้จะเป็นการข้ามเวลาไปมา และได้พบเจอกับเหล่า Sega Hard Girls ซึ่งก็มาจากเครื่องเกมต่าง ๆ ของเซก้า (พวก Neptune จริง ๆ ก็เป็นเครื่องเกมของเซก้าแหละ แต่ไม่ได้มีอยู่จริง😂) เราก็ต้องรับมิชชั่น เจอลูป และอื่น ๆ มากมาย เกมน่าจะไม่ยาวมาก อาจจะเล่นจบเพิ่มอีกสักภาคก็ได้🤣




เกมอื่น ๆ ที่ซื้อมา แต่ไม่ติดอันดับ

หลังจากเว้นว่างไป 1 ปี ในที่สุดหัวข้อนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ตรงนี้ก็เป็นเกมอื่น ๆ ที่ซื้อมาแต่ไม่ติดอันดับ เพราะไม่ชอบบ้างละ เอามาดองไม่ได้เล่นบ้างละ ก็ไปดูกัน
  • Worms W.M.D - เกมหนอนยิงกันอันโด่งดังในอดีต นี่คือภาคที่กลับมาเป็น 2D อีกครั้งหลังจากหลงไป 3D ซะนาน และจัดเป็นภาคที่สมบูรณ์ที่สุดด้วย สาเหตุที่ซื้อมาเพราะจู่ ๆ เขาก็แจกคูปองลดราคาให้ทุกคนที่มีเกม Worms ภาคอื่นอยู่ในคลัง มันเสียดายคูปองน่ะ ลดเยอะด้วย😅
      
  • Sky Force Anniversary - เกมยานยิงอันแสนโหยหา ดูเหมือนจะเป็นเกมมือถือมาก่อน (ยังมีอยู่ใน Play Store) ตอนแรกซื้อมากะมายิงมัน ๆ แต่ไม่เลย มันเป็นเกมแนวที่ยานเราจะด๋อยสุดขีด ต้องวนด่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเก็บเงินไปอัพเกรดยานทีละนิด ๆ เกมกึ่งบังคับให้เล่นแบบ No Damage ด้วย ใครไม่ชอบเล่น No Damage หลีกให้ห่างไว้
      
  • Bomber Crew - มันเป็นช่วงที่ผมอยากเล่นเกมแบบล่องเรือไปเรื่อย ๆ แล้วมีการบริหารลูกเรือไรงี้ สุดท้ายได้มาเป็นเกมบริหารเครื่องบินทิ้งระเบิดนี่แหละ หน้าตาดูเป็นเกมงุงิ แต่มีน้ำตาร่วงได้
       
  • Cat Quest - เล่นเดโม่มานานซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอลดราคาต่ำสุดในประวัติศาสตร์ก็ซื้อมา แล้วเกมนี้ก็ทำให้ผมค้นพบตัวเองว่า เบื่อเกมที่ต้องกลิ้งหลบไปซะแล้ว... 
จริง ๆ ยังมีอีกนะ แต่มันเป็นเกมที่ "ไปวัดไปวา" ไม่ได้นะ ไปไม่ได้จริง ๆ ดังนั้น ขอข้ามไปละกัน 😆



ส่งท้าย

ก็เป็นปีที่เริ่มซื้อเกมแพงขึ้น ทะลุไประดับ 300 - 400 จากเดิมไม่ค่อยจะถึง 200 นอกนั้นยังมีการซื้อจากร้านค้านอกสตีม (แต่ได้เป็นคีย์สตีม) มากขึ้นด้วย  ซึ่งร้านพวกนี้มักจะขายถูกกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงเพราะจะขอคืนเงินได้ยากกว่าซื้อจากสตีมโดยตรง (ดังนั้นเกมไหนเสี่ยงจะเล่นไม่ได้ ซื้อตรงดีกว่า) 

ก็จบของปีนี้เพียงเท่านี้ สวัสดี😃




ของปีก่อน ๆ

      ความคิดเห็น

      1. เกมเด็ดในบทความนี้น่าจะเป็น
        The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition
        ล่ะนะ

        ตอบลบ

      แสดงความคิดเห็น

      โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

      Firefox 125 มีอะไรเพิ่มเยอะเหมือนกันนะนี่

      RPG Maker VX Ace กับภาษาไทย

      เก็บตก Torchlight 2

      RPG Maker MZ สอยดีมั้ย ภาษาไทยปกติรึเปล่า?

      เล่นแล้วมาเล่า... Torchlight 2 ตัวจริงเต็ม ๆ !!

      [บันทึก] 3 เดือนนิด ๆ กับจอย DualShock 4 (บน PC)

      [บันทึก] ประสบการณ์โคลนฮาร์ดดิสก์ย้ายวินโดวส์

      RPG Maker MV มีดีอะไร แล้วภาษาไทยล่ะ?

      อัพไม่ได้แล้วไง Windows 10 Ver. 22H2 ในปี 2023

      กลเม็ดเคล็ดลับ FarmVille 2 (ตอนที่ 1)