5 เกม Steam ที่ซื้อมาแล้วติดหนึบปี 2016
แม้จะสัญญาว่าจะเขียนรีวิวเกมให้มากขึ้นทุกปีไป แต่สุดท้ายปีนี้ก็ไม่ได้รีวิวเกมลงบล็อกเลยสักเกมเดียว (แบบไม่มีลืมสนิทว่าเคยรีวิวเกมนึงแบบปีก่อนด้วย) ไว้แก้ตัวปีหน้า...อีกที ก็แล้วกัน
ก่อนอื่นมาทบทวนกันก่อน เหตุที่ผมหันมาเริ่มสรุปเกมที่ชอบตั้งแต่ปีก่อนนี่ เป็นเพราะไม่มีดีวีดีอนิเมให้รีวิวสรุปแบบปีก่อน ๆ แล้วนั่นเอง แต่จริง ๆ ปีนี้มีนะ ก็ไอ้เรื่องที่เลื่อนมาจากปีก่อนนั่นแหละ แต่ออกมาได้ 4 แผ่นก็เลื่อนอีก เฮ้อ จบแล้ววงการดีวีดีบ้านเรา 😔
สำหรับสรุปเกมปีนี้ก็เหมือนเดิม คือหยิบมา 5 เกมที่ชอบ (โดยวัดจากการติดหนึบ) แล้วเรียงไป 5 อันดับตามลำดับที่ซื้อในปีนี้โดยไม่สนว่าเกมออกปีไหน (ไม่ใช่ลำดับความชอบนะ) และเพราะปีนี้ซื้อเกมน้อยเลยขอไม่มีเกมหลุดอันดับแถมนะครับ 😊 อ้อ คลิกที่ชื่อเกมเพื่อเข้าไปดูหน้าร้านค้าสตีมของแต่ละเกมได้นะครับ
ที่มาอยู่ตรงนี้เพราะมันเป็นเกมแรกของปีที่ซื้อมา หลังจากปีก่อนตำแหน่งนี้เป็นของ Final Fantasy VII ซึ่งจริง ๆ แล้วมันอาจกลับกันก็ได้ เพราะตอนซื้อ FF7 ปีก่อน ผมลังเลระหว่างเกมนี้กับ FF7 นี่แหละ 😅
แรกเริ่มเดิมทีเกมนี้เป็นเกม Flash เล่นฟรีบนเว็บ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเปิดให้เล่นฟรีอยู่ ลักษณะเป็นเกม RPG ง่าย ๆ รับเควสท์มั่วซั่วแก้ปริศนา หาไอเท็ม อัพเกรดอาวุธ เก็บเลเวล พัฒนาตัวละคร เรียนรู้สกิล ไปเรื่อยแหละ ฉากในเกมจะเป็นฉากเล็ก ๆ ขนาด 1 หน้าจอ ไม่มีเลื่อน เชื่อมต่อกันไปเรื่อย ๆ ปริศนาก็พวก เลื่อนหิน หาไอเท็ม หากุญแจ ไปเรื่อย... พอขำ ๆ แต่ที่เป็นจุดเด่นคือฉากต่อสู้จัดเต็มมาก ๆ เอฟเฟ็คอลังการ มีสกิลมีท่าพิเศษให้ใช้มากมาย มีเรียกอสูรด้วย แถมไม่ใช่แค่บ้าอัดท่าแรง ๆ กันดื้อ ๆ ต้องใช้กลยุทธพอสมควร บอกเลยว่าไม่หมู แต่สะใจสุด ๆ
ถ้าใครมีคำถามตั้งแต่บรรทัดแรกว่า ถ้ายังเปิดให้เล่นฟรีแล้วทำไมต้องซื้อเวอร์ชั่นสตีมด้วย เหตุผลก็คือระบบเซฟครับ แบบ Flash นี่มันจะเซฟมั่วซั่วมาก อยู่กับเบราว์เซอร์บ้าง อยู่กับ Flash ในระบบบ้าง แค่สลับไปเล่นอีกเบราว์เซอร์เซฟก็หายแล้ว แต่เวอร์ชั่นสตีมมีตำแหน่งเซฟแน่นอน แถมรองรับ Cloud Save ด้วย เล่นเต็มจอก็ได้ ภาพและเสียงก็ดีกว่าอีกต่างหาก
ใครสนใจสามารถเอาชื่อเกมไปใส่ Google ลองเข้าไปเล่นฟรีดูก่อน หรือจะลองเอาภาค 3 ที่เพิ่งลงให้เล่นฟรีบนสตีมมาชิมก่อนก็ได้
เป็นเกมที่ซื้อด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แบบว่า.. ตอนนั้นอยากเล่นเกมภาพแบบนี้อ่ะ แล้วก็ไม่ผิดหวัง เล่นแล้วติดหนึบไปพักใหญ่ ๆ ทีเดียว
ตัวเกมเป็นแนว RPG แบบตายแล้วตายเลย ฉากรีเซ็ท ของหายหมด เลเวลกลับเป็น 1 เหลือแต่เหรียญดำไว้ต่อทุนให้รอบต่อไปพัฒนาตัวละครเร็วขึ้นนิดนึง (แต่ถ้าเผลอทุ่มใช้หมดแล้วตายก็ไม่เหลืออะไรเลย...) เริ่มเกมมาเราจะตัวเปล่า อยากเป็นนักรบหรือนักเวทก็ขึ้นอยู่กับว่าเลือกใช้ไอเท็มอะไร เป้าหมายหลักคือลงลุยดันเจี้ยนปราบบอสให้ครบเพื่อเปิดประตูมิติไปต่างโลก (มั้ง บังเอิญเบื่อก่อนเล่นไปถึง..)
ลักษณะเกมตอนแรกเหมือนจะเป็นเกมสุ่มฉาก แต่พอตายบ่อย ๆ ถึงรู้ว่า มันแค่สุ่มจุดเกิดเรานี่หว่า ฉากเหมือนเดิมเป๊ะ พอรู้งี้แล้วก็จะเบื่อเร็วละ การควบคุมหลัก ๆ ใช้แค่เม้าส์กับคลิกซ้ายปุ่มเดียว แต่จะใช้คีย์บอร์ดช่วยก็ได้ ตอนเทพ ๆ นี่สะใจดีนักแล
สรุปว่าเป็นเกมที่ซื้อมาชั่ววูบ แล้วติดหนึบชั่ววูบ ตอนเขียนนี่ลดเหลือไม่ถึง 25 บาท ลองชั่งใจดูนะ
ปีก่อนภาค Rebirth 1 ติดอันดับ ปีนี้ก็ถึงคราวภาค U (จริง ๆ มีภาค Rebirth 2 ด้วย แต่ยังไม่ได้เล่นน่ะสิ 😅) โดยภาคนี้เปลี่ยนจากแนว RPG มาเป็นแนว Action แบบปะทะศัตรูเป็นฝูง ๆ หรือเรียกว่าแนวมุโซนั่นเอง
ภาคนี้นับเป็นภาค Side Story ไม่จำเป็นต้องเล่นภาคอื่นมาก่อน (แต่จะไม่รู้จักว่าใครเป็นใคร) ตัวเกมจะสั้นมาก หมายถึงตัวเกมที่ให้เราเล่นจริง ๆ สั้นมาก แบบ 30 นาทีเป็นฉากคุยซะมาก ได้เล่นจริง ๆ ไม่ถึง 10 นาทีงี้ (ช่วง Chapter แรก ๆ นะ) ความลุ่มลึกอย่างระบบคราฟไอเท็มก็หายไป มีแต่สะสมเหรียญมอนสเตอร์แล้วปลดล็อค ชุดตัวละครก็มีมาให้ครบแต่แรก มีแค่ปลดล็อคชุดเดิมที่ขาดง่ายหรือยากขึ้นแค่นั้น
ใช่ เกมนี้มีระบบชุดขาด ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับหลาย ๆ คนมาก (จะเล่นกลางบ้านยังไง!!) แม้จะมีชุดแบบขาดยากให้เลือกใช้ แต่บางมิชชั่นนี่การที่ชุดไม่ขาดอาจจะทำให้เล่นไม่ผ่านเลยก็ได้ อีกปัญหานึงก็คือเสียงตอนโจมตีมันขาด ๆ หาย ๆ ทำให้การต่อสู้กับศัตรูเป็นฝูง ๆ ดูไม่สะใจเท่าที่ควร (ไม่รู้เป็นทุกเครื่องรึเปล่า แต่ดูที่เขาแคสท์เกมมาก็เป็นงี้เหมือนกัน)
สรุปก็เป็นเกมสำหรับคนชอบระบบชุดขาดละกัน 😤 แต่ถ้าอยากเล่นเกมแนวนี้ตัวละครชุดนี้ แต่ไม่มีชุดขาด เชิญ Blanc vs Zombies ที่เพิ่งออกตามมา เป็นแนว Action ซัดศัตรูเป็นฝูง ๆ เหมือนกัน แต่พัฒนาขึ้นในทุก ๆ ด้าน (เกมยาวขึ้น ชุดไม่ขาด เสียงไม่ขาด ตัวละครเยอะขึ้น เล่น Co-op ได้)
เกมจากผู้พัฒนาเกม Bastion และมาในงานศิลป์แบบเดียวกัน มีผู้บรรยายพูดมากเหมือนกัน เกมเงียบ ๆ เหมือนกัน ต่างกันที่เกมนี้มีความเป็น RPG แบบ Turn-base เพิ่มเข้ามา คือ ปกติเราก็สู้แบบ Action ได้แหละ แต่สามารถกดหยุดเวลาแล้วใส่คำสั่งมันเข้าไป แล้วพอเวลาเดินต่อตัวละครก็ทำตามนั้น ฟังดูเหมือนกินหมู แต่ก็ต้องวางแผนเอาเรื่องเหมือนกัน
ที่ชอบคือระบบอัพสกิล ซึ่งแม้เราจะติดแอคทีฟสกิลได้แค่ 4 อัน แต่ก็สามารถเอาสกิลที่เหลือมาเสริมให้สกิลเดิมมีรูปแบบที่แปลกไปได้ การหาสูตรที่ใช่จึงสนุกพอ ๆ กับการจัดทีมโปเกม่อนทีเดียว
ถ้าตายในเกมนี้ สกิลจะหายไปทีละช่อง ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาพนั้น จนกว่าจะไปถึงจุดเซฟแล้วกู้คืนมา ทำให้ยิ่งตายบ่อยความท้าทายก็ยิ่งมากขึ้น ในเกมมีห้องลับเป็นมินิเกมให้ฝึกเทคนิคต่าง ๆ กับทำลายสถิติตัวเองเพื่อความท้าทาย
สรุปเลยละกัน ถ้าอยากได้เกมที่เป็นงานศิลป์ชั้นยอด ไปสอยมาให้ได้ แต่ถ้าอยากได้เกม RPG เดินลุยมันส์ ๆ พร้อมเพลงปลุกใจให้ฮึกเหิม ไปหาเกมอื่น....
ตอนแรกหลายคนเห็นชื่อคงคิด เกมอะไรฟระ แต่พอเลื่อนมาเห็นรูป หลายคนถึงกับอ๋อ ดาวน์ทาวน์รวมกีฬานั่นเอง!! เป็นเกมที่ตอนเด็กเอามาเล่นกับเพื่อนบ่อยมาก พอโตแล้วได้กลับมาเล่นอีกนี่มันสุด ๆ จริง ๆ (แต่เล่นคนเดียวกับคอมพ์ไป... 😒)
ตัวเกมต้นฉบับนี่แค่แข่ง 4 รายการก็จบกันไป แต่ตัวเอามาทำใหม่นี่มีเนื้อเรื่อง เป็นการแข่งเวียนไปเรื่อย ๆ แบ่งเนื้อเรื่องเป็น Round รวม 9 Round (มีฉากลับอีก 2) โดยแต่ละ Round ก็จะมีโปรแกรมการแข่งขันไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมก็วนเวียนอยู่แค่กีฬา 4 ชนิดนั่นแหละ เพียงแต่ว่าบาง Round ฉากอาจจะเปลี่ยนไปให้ยากขึ้น หรือสลับตำแหน่งให้เสียจังหวะกันได้
หากอยากเล่นกับเพื่อนก็สามารถเล่นได้ 4 คน ทั้งในเครื่องเดียวกันและออนไลน์ (แต่ออนไลน์เขาว่าหากันไม่ค่อยเจอ) โดยถ้าจะเล่นเครื่องเดียวกัน 4 คนต้องมีจอย Xbox360 (หรือจอยที่รองรับ Xinput) อย่างน้อย 2 ตัว + คีย์บอร์ด 1 ตัวที่เล่นได้ 2 คน (แบ่งคนละฝั่ง) ส่วนตัวยังไม่ได้ลอง เพื่อนไม่มี... 😑
จริง ๆ เคยรีวิวเกมนี้สั้น ๆ บนเพจไปแล้ว ลองไปอ่านดูได้ ใครสนใจรำลึกความหลัง แถมยังได้รู้จักตัวละครที่คุ้นหน้าแต่ไม่เคยรู้นิสัยใจคอ ไอ้อาการหน่วง ๆ ตอนก่อนเข้าเส้นชัยก็ยังอยู่นะ (หรือบังเอิญเครื่องผมอืดเองหว่า) ไปจัดกันได้ ช่วง Sales นี่เหลือราคาไม่ถึง 100 แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้สมัยนู้นมาก่อน แนะนำให้ผ่านเลยไป...
เอ็นทรี่ที่เกี่ยวข้อง :
ก่อนอื่นมาทบทวนกันก่อน เหตุที่ผมหันมาเริ่มสรุปเกมที่ชอบตั้งแต่ปีก่อนนี่ เป็นเพราะไม่มีดีวีดีอนิเมให้รีวิวสรุปแบบปีก่อน ๆ แล้วนั่นเอง แต่จริง ๆ ปีนี้มีนะ ก็ไอ้เรื่องที่เลื่อนมาจากปีก่อนนั่นแหละ แต่ออกมาได้ 4 แผ่นก็เลื่อนอีก เฮ้อ จบแล้ววงการดีวีดีบ้านเรา 😔
สำหรับสรุปเกมปีนี้ก็เหมือนเดิม คือหยิบมา 5 เกมที่ชอบ (โดยวัดจากการติดหนึบ) แล้วเรียงไป 5 อันดับตามลำดับที่ซื้อในปีนี้โดยไม่สนว่าเกมออกปีไหน (ไม่ใช่ลำดับความชอบนะ) และเพราะปีนี้ซื้อเกมน้อยเลยขอไม่มีเกมหลุดอันดับแถมนะครับ 😊 อ้อ คลิกที่ชื่อเกมเพื่อเข้าไปดูหน้าร้านค้าสตีมของแต่ละเกมได้นะครับ
1. Epic Battle Fantasy 4
ที่มาอยู่ตรงนี้เพราะมันเป็นเกมแรกของปีที่ซื้อมา หลังจากปีก่อนตำแหน่งนี้เป็นของ Final Fantasy VII ซึ่งจริง ๆ แล้วมันอาจกลับกันก็ได้ เพราะตอนซื้อ FF7 ปีก่อน ผมลังเลระหว่างเกมนี้กับ FF7 นี่แหละ 😅
แรกเริ่มเดิมทีเกมนี้เป็นเกม Flash เล่นฟรีบนเว็บ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเปิดให้เล่นฟรีอยู่ ลักษณะเป็นเกม RPG ง่าย ๆ รับเควสท์มั่วซั่วแก้ปริศนา หาไอเท็ม อัพเกรดอาวุธ เก็บเลเวล พัฒนาตัวละคร เรียนรู้สกิล ไปเรื่อยแหละ ฉากในเกมจะเป็นฉากเล็ก ๆ ขนาด 1 หน้าจอ ไม่มีเลื่อน เชื่อมต่อกันไปเรื่อย ๆ ปริศนาก็พวก เลื่อนหิน หาไอเท็ม หากุญแจ ไปเรื่อย... พอขำ ๆ แต่ที่เป็นจุดเด่นคือฉากต่อสู้จัดเต็มมาก ๆ เอฟเฟ็คอลังการ มีสกิลมีท่าพิเศษให้ใช้มากมาย มีเรียกอสูรด้วย แถมไม่ใช่แค่บ้าอัดท่าแรง ๆ กันดื้อ ๆ ต้องใช้กลยุทธพอสมควร บอกเลยว่าไม่หมู แต่สะใจสุด ๆ
ถ้าใครมีคำถามตั้งแต่บรรทัดแรกว่า ถ้ายังเปิดให้เล่นฟรีแล้วทำไมต้องซื้อเวอร์ชั่นสตีมด้วย เหตุผลก็คือระบบเซฟครับ แบบ Flash นี่มันจะเซฟมั่วซั่วมาก อยู่กับเบราว์เซอร์บ้าง อยู่กับ Flash ในระบบบ้าง แค่สลับไปเล่นอีกเบราว์เซอร์เซฟก็หายแล้ว แต่เวอร์ชั่นสตีมมีตำแหน่งเซฟแน่นอน แถมรองรับ Cloud Save ด้วย เล่นเต็มจอก็ได้ ภาพและเสียงก็ดีกว่าอีกต่างหาก
ใครสนใจสามารถเอาชื่อเกมไปใส่ Google ลองเข้าไปเล่นฟรีดูก่อน หรือจะลองเอาภาค 3 ที่เพิ่งลงให้เล่นฟรีบนสตีมมาชิมก่อนก็ได้
2. bit Dungeon II
ลักษณะเกมตอนแรกเหมือนจะเป็นเกมสุ่มฉาก แต่พอตายบ่อย ๆ ถึงรู้ว่า มันแค่สุ่มจุดเกิดเรานี่หว่า ฉากเหมือนเดิมเป๊ะ พอรู้งี้แล้วก็จะเบื่อเร็วละ การควบคุมหลัก ๆ ใช้แค่เม้าส์กับคลิกซ้ายปุ่มเดียว แต่จะใช้คีย์บอร์ดช่วยก็ได้ ตอนเทพ ๆ นี่สะใจดีนักแล
สรุปว่าเป็นเกมที่ซื้อมาชั่ววูบ แล้วติดหนึบชั่ววูบ ตอนเขียนนี่ลดเหลือไม่ถึง 25 บาท ลองชั่งใจดูนะ
3. Hyperdimension Neptunia U: Action Unleashed
ใช่ เกมนี้มีระบบชุดขาด ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับหลาย ๆ คนมาก (จะเล่นกลางบ้านยังไง!!) แม้จะมีชุดแบบขาดยากให้เลือกใช้ แต่บางมิชชั่นนี่การที่ชุดไม่ขาดอาจจะทำให้เล่นไม่ผ่านเลยก็ได้ อีกปัญหานึงก็คือเสียงตอนโจมตีมันขาด ๆ หาย ๆ ทำให้การต่อสู้กับศัตรูเป็นฝูง ๆ ดูไม่สะใจเท่าที่ควร (ไม่รู้เป็นทุกเครื่องรึเปล่า แต่ดูที่เขาแคสท์เกมมาก็เป็นงี้เหมือนกัน)
สรุปก็เป็นเกมสำหรับคนชอบระบบชุดขาดละกัน 😤 แต่ถ้าอยากเล่นเกมแนวนี้ตัวละครชุดนี้ แต่ไม่มีชุดขาด เชิญ Blanc vs Zombies ที่เพิ่งออกตามมา เป็นแนว Action ซัดศัตรูเป็นฝูง ๆ เหมือนกัน แต่พัฒนาขึ้นในทุก ๆ ด้าน (เกมยาวขึ้น ชุดไม่ขาด เสียงไม่ขาด ตัวละครเยอะขึ้น เล่น Co-op ได้)
4. Transistor
ถ้าตายในเกมนี้ สกิลจะหายไปทีละช่อง ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาพนั้น จนกว่าจะไปถึงจุดเซฟแล้วกู้คืนมา ทำให้ยิ่งตายบ่อยความท้าทายก็ยิ่งมากขึ้น ในเกมมีห้องลับเป็นมินิเกมให้ฝึกเทคนิคต่าง ๆ กับทำลายสถิติตัวเองเพื่อความท้าทาย
สรุปเลยละกัน ถ้าอยากได้เกมที่เป็นงานศิลป์ชั้นยอด ไปสอยมาให้ได้ แต่ถ้าอยากได้เกม RPG เดินลุยมันส์ ๆ พร้อมเพลงปลุกใจให้ฮึกเหิม ไปหาเกมอื่น....
5. River City Super Sports Challenge ~All Stars Special~
หากอยากเล่นกับเพื่อนก็สามารถเล่นได้ 4 คน ทั้งในเครื่องเดียวกันและออนไลน์ (แต่ออนไลน์เขาว่าหากันไม่ค่อยเจอ) โดยถ้าจะเล่นเครื่องเดียวกัน 4 คนต้องมีจอย Xbox360 (หรือจอยที่รองรับ Xinput) อย่างน้อย 2 ตัว + คีย์บอร์ด 1 ตัวที่เล่นได้ 2 คน (แบ่งคนละฝั่ง) ส่วนตัวยังไม่ได้ลอง เพื่อนไม่มี... 😑
จริง ๆ เคยรีวิวเกมนี้สั้น ๆ บนเพจไปแล้ว ลองไปอ่านดูได้ ใครสนใจรำลึกความหลัง แถมยังได้รู้จักตัวละครที่คุ้นหน้าแต่ไม่เคยรู้นิสัยใจคอ ไอ้อาการหน่วง ๆ ตอนก่อนเข้าเส้นชัยก็ยังอยู่นะ (หรือบังเอิญเครื่องผมอืดเองหว่า) ไปจัดกันได้ ช่วง Sales นี่เหลือราคาไม่ถึง 100 แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้สมัยนู้นมาก่อน แนะนำให้ผ่านเลยไป...
ส่งท้าย
ปีหน้า ผมหวังว่าจะได้รีวิวเกมลงบล็อกบ้างซะทีนะ (หรือใครชอบแบบรีวิวบนเพจมากกว่าก็รีเควสท์กันได้) แต่ปีหน้าก็คงซื้อเกมน้อยลงกว่าปีนี้อีกแหละ เพราะแค่ตอนนี้ก็นึกไม่ค่อยออกว่าตัวเองอยากได้เกมอะไรแล้ว เผลอ ๆ สรุปปลายปีหน้าจะเหลือแค่ 3 เกมล่ะมั้ง 😅เอ็นทรี่ที่เกี่ยวข้อง :
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น