5 เกม Steam ถูกใจโคตร ๆ ..ที่ซื้อมาปี 2015
ก่อนอื่นต้องขอย้ำไว้เลยว่า นี่เป็นสรุป 5 เกมที่ "ผม" ซื้อมาแล้วถูกใจโคตร ๆ ในปี 2015 แต่ไม่ได้หมายความว่าเกมมันเพิ่งออกปี 2015 นะครับ และไม่ต้องคาดหวังว่าจะเห็นพวก GTA V, Fallout 4 เพราะเครื่องผมรับไม่ไหว!!
โดยปกติช่วงเวลานี้ในปีก่อน ๆ ผมจะสรุป DVD อนิเมที่ซื้อมาในปีนั้น ๆ แต่เพราะปีนี้ไม่ได้ซื้อสักเรื่อง (เรื่องที่จะซื้อก็ยังไม่ออก) แล้วก็นึกได้ว่า เออ เราเข้าสู่แวดวงเกม Steam มาหลายปีแล้ว ควรจะสรุปเกมที่ชอบในแต่ละปีได้แล้วละ! (จริง ๆ คิดจะสรุปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่..... ขี้เกียจซะก่อน) อนึ่ง 5 เกมนี้ไม่ได้เรียงลำดับความชอบ แต่เรียงตามลำดับที่ซื้อต่างหาก
มันเป็นเกมแรกที่ซื้อมาในปี 2015 เลย (ซื้อวันที่ 1 มกราคม) ซึ่งก็บังเอิญเป็นปีที่มีข่าวใหญ่อย่าง FF7 Remake พอดี
ตัวเกมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก คงสภาพไว้ได้เหมือนต้นฉบับที่เคยออกบน PC เมื่อสมัยนู้น แต่ปรับปรุงความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์สมัยนี้เรียบร้อย (สมัยก่อนต้องใช้การ์ด Voodoo เท่านั้น ไม่งั้นต้องหา patch Nvidia มาลง) และเพิ่มพวกระบบโกงเกมนิดหน่อย (สำหรับคนอยากเสพเนื้อหาแต่ไม่ชอบความท้าทาย) ตอนออกใหม่ ๆ มีเสียงบ่นพอสมควร เพราะต้องออนไลน์และเชื่อมต่อกับ server ของ Square Enix ตลอดเวลา แต่พอเวลาผ่านไปคนก็เลิกบ่นไปซะงั้น...
ช่วงแรก ๆ เกมนี้ล็อคโซนไทยด้วยนะ แต่จู่ ๆ ก็ปลดล็อคพร้อม ๆ กับ FF8 (แต่ภาค 3 - 6 ยังล็อคอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะปลด...)
เป็นเกม 2D Fighting แบบตัวละครหญิงล้วน (ตอนหลังมีตัวผู้เพิ่มมาแจม 2 ตัว) ที่ใช้ภาพสไตล์การ์ตูนตะวันตกผสมตะวันออก และผู้สร้างก็เข้าใจจิตใจของเหล่าผู้เสพความโมเอะอย่างดี ไม่ต้องห่วง...
บางคนอาจมองเป็นเกม fighting ธรรมดาทั่วไป แต่เกมนี้ออกแบบการต่อสู้มาดีมาก ตัวละครแต่ละตัวจะมีรูปแบบเฉพาะตัวสุด ๆ คือไม่ได้มีแค่แขนขา แต่มีอาวุธเฉพาะตัวแตกต่างกันไป พลิกแพลงการโจมตีได้หลากหลาย ถ้าให้เทียบก็คงคล้าย ๆ Guilty Gear ที่ถูกลดสปีดและความยากลงมานิดนึงกระมัง ดนตรีประกอบของเกมนี้ค่อนข้างติดหู และเพลงตอน end credit สุดยอดมาก ๆ ส่วนหนึ่งเพราะได้คุณ Michiru Yamane ผู้แต่งเพลงให้ซีรี่ส์ Castlevania และเกมเก่า ๆ ของ Konami มาแต่งให้
เกมนี้ออกมา 2 ปีกว่าแล้ว แต่ก็มีการอัพเกรดและเพิ่มตัวละครมาเรื่อย ๆ โดยตัวละครที่เพิ่มมาจะอยู่ในรูปแบบ DLC ซึ่งตอนออกมาใหม่ ๆ จะฟรี แต่พอผ่านไป 3 เดือนจะเปลี่ยนเป็นให้เสียเงินซื้อ (ดังนั้นใครที่ซื้อเกมนี้ก่อนแม้จะแพงกว่าแต่ก็ได้ DLC ฟรีมากกว่าคนที่ซื้อทีหลัง) น่าเสียดายที่ได้ข่าวว่าเกมนี้จะไม่มีอะไรมาเพิ่มแล้ว เพราะผู้พัฒนากำลังหันไปพัฒนาเกมใหม่อยู่
ปีนี้เป็นปีที่แฟนเกมฝั่งญี่ปุ่นรู้สึกรัก Steam มากเป็นพิเศษ เพราะสามารถดึงดูดให้เกมจากค่ายญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ปกติจะไม่ยอมเอาเกมไปขายนอกประเทศ ถูกเอามาแปลขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แถมมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย (ต้องขอบคุณที่กำแพงวัฒนธรรมถูกทำลาย)
เกม Neptunia Re;Birth1 เป็นการเอา Neptunia ภาคแรกบน PSP มารีเมคอีกที ตัวเกมเป็น RPG แบบยุคแรก ๆ คือ เน้นลงดันเจี้ยนตีมอนเก็บเลเวลหาของ ส่วนกิจกรรมต่าง ๆ ในเมืองจะเป็นแค่เมนูแบบเลือกจิ้ม อยากไปเมืองไหนร้านอะไรคุยกับใคร เลือกจิ้มเอา... จุดขายของเกมนี้คือ การแทรกมุกเกี่ยวกับวงการเกมไว้มากมาย ตั้งแต่พล็อตเรื่องที่กล่าวถึงสงครามคอนโซล (การต่อสู้ของเครื่องเกม นินเทนโด โซนี่ ไมโครซอฟท์ และ เซก้า...) ล้อเกมเก่า ๆ มากมาย แต่ทั้งหมดจะโผล่มาตามบทสนทนาและในรูปของมอนสเตอร์แค่นั้นแหละ
ระบบต่อสู้ของเกมนี้เป็นแบบกึ่ง turn base กึ่ง action คือเราต้องสลับกันโจมตีกับฝ่ายศัตรู แต่เมื่อถึงเทิร์นแล้วจะสามารถบังคับตัวละครวิ่งไปมาในขอบเขตที่กำหนด เพื่อเลือกโจมตีมอนสเตอร์หรือถอยให้ห่างได้ การโจมตีก็เป็นแบบคอมโบกดปุ่มเลือกท่าได้ตามที่เซ็ทไว้ นอกนั้นยังมีสกิลและท่าไม้ตายสุดอลังการมากมาย (ท่าประสานก็มีนะ) การลงดันตีมอนนอกจากจะอัพเลเวลตัวละครแล้ว ยังเอาไว้รวบรวมไอเท็มไว้ทำเควสท์และคราฟท์ของมากมาย รวมถึงการคราฟท์เพื่อปลดล็อคดันเจี้ยนใหม่ ๆ เปลี่ยนศัตรูหรือไอเท็มในดันเจี้ยน รวมถึงแก้ไขระบบเกมเช่นระดับความยากง่ายได้ด้วย
เป็นเกมที่ผมมีชั่วโมงเล่นสูงสุดในปีนี้แล้ว ใครชอบเกม RPG ที่เน้นการลงดันตีมอนเก็บเลเวลหนัก ๆ บวกกับฉากท่าไม้ตายสุดแสนอลังการมากมายดาวล้านดวงก็แนะนำให้จัดมา แต่ถ้าชอบ RPG แนวท่องโลกกว้างเดินทางไปเรื่อย ๆ อย่าได้แตะเกมนี้เพื่อมาบ่นเลย...
คาดว่าหลายคนที่อยากเล่นเกมนี้ลังเลที่จะซื้อเกมนี้ เพราะมันลดราคาไม่บ่อย และจะลดสุด ๆ แค่ 33% เท่านั้นไม่มีเกินกว่านี้ ซึ่งราคายังแพงกว่าเกมฟอร์มใหญ่ที่ลดในเทศกาลเดียวกัน (คือเกมฟอร์มใหญ่มักจะเหลือไม่ถึงร้อย แต่เกมนี้สองร้อย..) แล้วไอ้เกม 2D ภาพโบราณแบบนี้มีดีอะไร ทำไมไม่ตัดใจจากมัน?
คำตอบคือ มันเป็นเกมที่ใช้ภาพแบบเกมสมัยแฟมิคอม ที่ทำได้เหมือนเกมยุคแฟมิคอมที่สุดแล้วครับ คือเหมือนกลับไปเล่นเกมยุคนั้นเลย ทั้งกราฟิก การเคลื่อนไหว ดนตรีประกอบ เกมนี้ทำได้อารมณ์เกมยุคแฟมิคอมสุด ๆ ตัวเกมมีส่วนผสมของ Mario 3 (ฉากแผนที่) Duck tales (การใช้พลั่วยันตัว) Castlevania (ไก่อบทั้งตัวซ่อนในฉาก) และ Rockman (บอส อาวุธพิเศษ สไตล์กราฟิก สไตล์ดนตรี รูปแบบฉาก และ... ตกหนามทีเดียวตาย) ดังนั้นใครที่เกิดทันเล่นเกมยุคแฟมิคอม และทุกวันนี้ยังเอาเกมพวกนั้นมาเล่นผ่านอีมูเลเตอร์อยู่บ่อย ๆ นี่เป็นเกมที่ต้องห้ามพลาด!!
ดันพูดทุกอย่างหมดไปตั้งแต่ย่อหน้าที่แล้ว... เอาเป็นว่าเกมนี้ดีเยี่ยม!! (สำหรับคนที่โหยหาเกมยุคแฟมิคอม)
ใครติดใจระบบเกมจาก Neptunia มา ก็ชื่นชอบเกมนี้ได้ไม่ยาก เพราะมาจากผู้พัฒนาเดียวกัน แต่มันมีจุดต่างใหญ่ ๆ อยู่อย่างนึง คือ เกมนี้มีตัวละครชายให้เราใช้แล้ว!! (แถมเยอะกว่าตัวละครหญิงด้วย)
เนื้อเรื่องของเกมจะอยู่ในโลกที่เหล่า Fencer ที่ได้รับพลังจากอาวุธที่มี Fairy สิงอยู่ ออกรวบรวม Fury เพื่อปลดล็อคผนึกให้เทพธิดา (หรือเทพปีศาจแล้วแต่จะเลือก) ตัวเกมก็ยังคงเป็นแบบจิ้มเลือกสถานที่และผู้คนเพื่อรวบรวมข่าวสาร แล้วลงดันตีมอนเก็บเลเวลเช่นเดียวกับ Neptunia แต่จุดที่เปลี่ยนไปคือ เราพัฒนาตัวละครได้หลากหลายกว่า เพราะสามารถอัพ สแตท สกิล เวทมนตร์ คอมโบ ได้ โดยใช้แค่ Weapon Point นอกจากนั้นยังมีการติดตั้ง Fury เพื่อเพิ่มอบิลิตี้ให้ตัวละคร โดย Fury จะสามารถเลเวลอัพแล้วมีอบิลิตี้ใหม่ ๆ เพิ่มมาได้ด้วย
จุดที่ด้อยกว่า Neptunia คือ ท่าไม้ตายดูจืด ๆ กว่า (ผิดที่ Neptunia มันเว่อเกินตะหาก) ชุดตัวละครมีให้เปลี่ยนน้อยกว่า อาวุธก็ล็อคตายตัว (แต่เปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น จากดาบกลายเป็นขวานหรือหมัด โดยสามารถเลือกได้จากการตั้งคอมโบ) แต่เนื้อเรื่องและดนตรีประกอบดีเยี่ยมกว่ามาก ส่วนหนึ่งเพราะได้ Toshiki Inoue และ Nobuo Uematsu มาเขียนบทและแต่งเพลงให้ และที่สำคัญคือ มีการใช้ภาพและโมเดล 3 มิติประกอบเหตุการณ์แล้ว! (Neptunia นี่เล่นจะจบยังไม่เห็นภาพพุดดิ้งหรือดิสก์ที่พูดถึงในเรื่องเลยสักอัน...)
เกมนี้ระบุสเป็คเครื่องไว้ต่ำกว่า Neptunia Re;Birth 1 แต่จะมีปัญหาเฟรมเรตตกอย่างแรงในบางเครื่อง (หนึ่งในนั้นคือเครื่องผมเอง) ทางแก้คือตั้ง Compatibility Mode ให้เป็น Windows XP SP3 ครับ แล้วจะได้เฟรมเรตเพิ่มราว ๆ 20
คำเตือน : DLC ชุดว่ายน้ำมีแต่ชุดของตัวละครชายเท่านั้น ส่วนชุดผู้หญิงมีในเกมหลักอยู่แล้ว...
โดยปกติช่วงเวลานี้ในปีก่อน ๆ ผมจะสรุป DVD อนิเมที่ซื้อมาในปีนั้น ๆ แต่เพราะปีนี้ไม่ได้ซื้อสักเรื่อง (เรื่องที่จะซื้อก็ยังไม่ออก) แล้วก็นึกได้ว่า เออ เราเข้าสู่แวดวงเกม Steam มาหลายปีแล้ว ควรจะสรุปเกมที่ชอบในแต่ละปีได้แล้วละ! (จริง ๆ คิดจะสรุปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่..... ขี้เกียจซะก่อน) อนึ่ง 5 เกมนี้ไม่ได้เรียงลำดับความชอบ แต่เรียงตามลำดับที่ซื้อต่างหาก
1. Final Fantasy VII
มันเป็นเกมแรกที่ซื้อมาในปี 2015 เลย (ซื้อวันที่ 1 มกราคม) ซึ่งก็บังเอิญเป็นปีที่มีข่าวใหญ่อย่าง FF7 Remake พอดี
ตัวเกมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก คงสภาพไว้ได้เหมือนต้นฉบับที่เคยออกบน PC เมื่อสมัยนู้น แต่ปรับปรุงความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์สมัยนี้เรียบร้อย (สมัยก่อนต้องใช้การ์ด Voodoo เท่านั้น ไม่งั้นต้องหา patch Nvidia มาลง) และเพิ่มพวกระบบโกงเกมนิดหน่อย (สำหรับคนอยากเสพเนื้อหาแต่ไม่ชอบความท้าทาย) ตอนออกใหม่ ๆ มีเสียงบ่นพอสมควร เพราะต้องออนไลน์และเชื่อมต่อกับ server ของ Square Enix ตลอดเวลา แต่พอเวลาผ่านไปคนก็เลิกบ่นไปซะงั้น...
ช่วงแรก ๆ เกมนี้ล็อคโซนไทยด้วยนะ แต่จู่ ๆ ก็ปลดล็อคพร้อม ๆ กับ FF8 (แต่ภาค 3 - 6 ยังล็อคอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะปลด...)
2. Skull Girls
เป็นเกม 2D Fighting แบบตัวละครหญิงล้วน (ตอนหลังมีตัวผู้เพิ่มมาแจม 2 ตัว) ที่ใช้ภาพสไตล์การ์ตูนตะวันตกผสมตะวันออก และผู้สร้างก็เข้าใจจิตใจของเหล่าผู้เสพความโมเอะอย่างดี ไม่ต้องห่วง...
บางคนอาจมองเป็นเกม fighting ธรรมดาทั่วไป แต่เกมนี้ออกแบบการต่อสู้มาดีมาก ตัวละครแต่ละตัวจะมีรูปแบบเฉพาะตัวสุด ๆ คือไม่ได้มีแค่แขนขา แต่มีอาวุธเฉพาะตัวแตกต่างกันไป พลิกแพลงการโจมตีได้หลากหลาย ถ้าให้เทียบก็คงคล้าย ๆ Guilty Gear ที่ถูกลดสปีดและความยากลงมานิดนึงกระมัง ดนตรีประกอบของเกมนี้ค่อนข้างติดหู และเพลงตอน end credit สุดยอดมาก ๆ ส่วนหนึ่งเพราะได้คุณ Michiru Yamane ผู้แต่งเพลงให้ซีรี่ส์ Castlevania และเกมเก่า ๆ ของ Konami มาแต่งให้
เกมนี้ออกมา 2 ปีกว่าแล้ว แต่ก็มีการอัพเกรดและเพิ่มตัวละครมาเรื่อย ๆ โดยตัวละครที่เพิ่มมาจะอยู่ในรูปแบบ DLC ซึ่งตอนออกมาใหม่ ๆ จะฟรี แต่พอผ่านไป 3 เดือนจะเปลี่ยนเป็นให้เสียเงินซื้อ (ดังนั้นใครที่ซื้อเกมนี้ก่อนแม้จะแพงกว่าแต่ก็ได้ DLC ฟรีมากกว่าคนที่ซื้อทีหลัง) น่าเสียดายที่ได้ข่าวว่าเกมนี้จะไม่มีอะไรมาเพิ่มแล้ว เพราะผู้พัฒนากำลังหันไปพัฒนาเกมใหม่อยู่
3. Hyperdimension Neptunia Re;Birth1
ปีนี้เป็นปีที่แฟนเกมฝั่งญี่ปุ่นรู้สึกรัก Steam มากเป็นพิเศษ เพราะสามารถดึงดูดให้เกมจากค่ายญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ปกติจะไม่ยอมเอาเกมไปขายนอกประเทศ ถูกเอามาแปลขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แถมมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย (ต้องขอบคุณที่กำแพงวัฒนธรรมถูกทำลาย)
เกม Neptunia Re;Birth1 เป็นการเอา Neptunia ภาคแรกบน PSP มารีเมคอีกที ตัวเกมเป็น RPG แบบยุคแรก ๆ คือ เน้นลงดันเจี้ยนตีมอนเก็บเลเวลหาของ ส่วนกิจกรรมต่าง ๆ ในเมืองจะเป็นแค่เมนูแบบเลือกจิ้ม อยากไปเมืองไหนร้านอะไรคุยกับใคร เลือกจิ้มเอา... จุดขายของเกมนี้คือ การแทรกมุกเกี่ยวกับวงการเกมไว้มากมาย ตั้งแต่พล็อตเรื่องที่กล่าวถึงสงครามคอนโซล (การต่อสู้ของเครื่องเกม นินเทนโด โซนี่ ไมโครซอฟท์ และ เซก้า...) ล้อเกมเก่า ๆ มากมาย แต่ทั้งหมดจะโผล่มาตามบทสนทนาและในรูปของมอนสเตอร์แค่นั้นแหละ
ระบบต่อสู้ของเกมนี้เป็นแบบกึ่ง turn base กึ่ง action คือเราต้องสลับกันโจมตีกับฝ่ายศัตรู แต่เมื่อถึงเทิร์นแล้วจะสามารถบังคับตัวละครวิ่งไปมาในขอบเขตที่กำหนด เพื่อเลือกโจมตีมอนสเตอร์หรือถอยให้ห่างได้ การโจมตีก็เป็นแบบคอมโบกดปุ่มเลือกท่าได้ตามที่เซ็ทไว้ นอกนั้นยังมีสกิลและท่าไม้ตายสุดอลังการมากมาย (ท่าประสานก็มีนะ) การลงดันตีมอนนอกจากจะอัพเลเวลตัวละครแล้ว ยังเอาไว้รวบรวมไอเท็มไว้ทำเควสท์และคราฟท์ของมากมาย รวมถึงการคราฟท์เพื่อปลดล็อคดันเจี้ยนใหม่ ๆ เปลี่ยนศัตรูหรือไอเท็มในดันเจี้ยน รวมถึงแก้ไขระบบเกมเช่นระดับความยากง่ายได้ด้วย
เป็นเกมที่ผมมีชั่วโมงเล่นสูงสุดในปีนี้แล้ว ใครชอบเกม RPG ที่เน้นการลงดันตีมอนเก็บเลเวลหนัก ๆ บวกกับฉากท่าไม้ตายสุดแสนอลังการมากมายดาวล้านดวงก็แนะนำให้จัดมา แต่ถ้าชอบ RPG แนวท่องโลกกว้างเดินทางไปเรื่อย ๆ อย่าได้แตะเกมนี้เพื่อมาบ่นเลย...
4. Shovel Knight
คาดว่าหลายคนที่อยากเล่นเกมนี้ลังเลที่จะซื้อเกมนี้ เพราะมันลดราคาไม่บ่อย และจะลดสุด ๆ แค่ 33% เท่านั้นไม่มีเกินกว่านี้ ซึ่งราคายังแพงกว่าเกมฟอร์มใหญ่ที่ลดในเทศกาลเดียวกัน (คือเกมฟอร์มใหญ่มักจะเหลือไม่ถึงร้อย แต่เกมนี้สองร้อย..) แล้วไอ้เกม 2D ภาพโบราณแบบนี้มีดีอะไร ทำไมไม่ตัดใจจากมัน?
คำตอบคือ มันเป็นเกมที่ใช้ภาพแบบเกมสมัยแฟมิคอม ที่ทำได้เหมือนเกมยุคแฟมิคอมที่สุดแล้วครับ คือเหมือนกลับไปเล่นเกมยุคนั้นเลย ทั้งกราฟิก การเคลื่อนไหว ดนตรีประกอบ เกมนี้ทำได้อารมณ์เกมยุคแฟมิคอมสุด ๆ ตัวเกมมีส่วนผสมของ Mario 3 (ฉากแผนที่) Duck tales (การใช้พลั่วยันตัว) Castlevania (ไก่อบทั้งตัวซ่อนในฉาก) และ Rockman (บอส อาวุธพิเศษ สไตล์กราฟิก สไตล์ดนตรี รูปแบบฉาก และ... ตกหนามทีเดียวตาย) ดังนั้นใครที่เกิดทันเล่นเกมยุคแฟมิคอม และทุกวันนี้ยังเอาเกมพวกนั้นมาเล่นผ่านอีมูเลเตอร์อยู่บ่อย ๆ นี่เป็นเกมที่ต้องห้ามพลาด!!
ดันพูดทุกอย่างหมดไปตั้งแต่ย่อหน้าที่แล้ว... เอาเป็นว่าเกมนี้ดีเยี่ยม!! (สำหรับคนที่โหยหาเกมยุคแฟมิคอม)
5. Fairy Fencer F
ใครติดใจระบบเกมจาก Neptunia มา ก็ชื่นชอบเกมนี้ได้ไม่ยาก เพราะมาจากผู้พัฒนาเดียวกัน แต่มันมีจุดต่างใหญ่ ๆ อยู่อย่างนึง คือ เกมนี้มีตัวละครชายให้เราใช้แล้ว!! (แถมเยอะกว่าตัวละครหญิงด้วย)
เนื้อเรื่องของเกมจะอยู่ในโลกที่เหล่า Fencer ที่ได้รับพลังจากอาวุธที่มี Fairy สิงอยู่ ออกรวบรวม Fury เพื่อปลดล็อคผนึกให้เทพธิดา (หรือเทพปีศาจแล้วแต่จะเลือก) ตัวเกมก็ยังคงเป็นแบบจิ้มเลือกสถานที่และผู้คนเพื่อรวบรวมข่าวสาร แล้วลงดันตีมอนเก็บเลเวลเช่นเดียวกับ Neptunia แต่จุดที่เปลี่ยนไปคือ เราพัฒนาตัวละครได้หลากหลายกว่า เพราะสามารถอัพ สแตท สกิล เวทมนตร์ คอมโบ ได้ โดยใช้แค่ Weapon Point นอกจากนั้นยังมีการติดตั้ง Fury เพื่อเพิ่มอบิลิตี้ให้ตัวละคร โดย Fury จะสามารถเลเวลอัพแล้วมีอบิลิตี้ใหม่ ๆ เพิ่มมาได้ด้วย
จุดที่ด้อยกว่า Neptunia คือ ท่าไม้ตายดูจืด ๆ กว่า (ผิดที่ Neptunia มันเว่อเกินตะหาก) ชุดตัวละครมีให้เปลี่ยนน้อยกว่า อาวุธก็ล็อคตายตัว (แต่เปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น จากดาบกลายเป็นขวานหรือหมัด โดยสามารถเลือกได้จากการตั้งคอมโบ) แต่เนื้อเรื่องและดนตรีประกอบดีเยี่ยมกว่ามาก ส่วนหนึ่งเพราะได้ Toshiki Inoue และ Nobuo Uematsu มาเขียนบทและแต่งเพลงให้ และที่สำคัญคือ มีการใช้ภาพและโมเดล 3 มิติประกอบเหตุการณ์แล้ว! (Neptunia นี่เล่นจะจบยังไม่เห็นภาพพุดดิ้งหรือดิสก์ที่พูดถึงในเรื่องเลยสักอัน...)
เกมนี้ระบุสเป็คเครื่องไว้ต่ำกว่า Neptunia Re;Birth 1 แต่จะมีปัญหาเฟรมเรตตกอย่างแรงในบางเครื่อง (หนึ่งในนั้นคือเครื่องผมเอง) ทางแก้คือตั้ง Compatibility Mode ให้เป็น Windows XP SP3 ครับ แล้วจะได้เฟรมเรตเพิ่มราว ๆ 20
คำเตือน : DLC ชุดว่ายน้ำมีแต่ชุดของตัวละครชายเท่านั้น ส่วนชุดผู้หญิงมีในเกมหลักอยู่แล้ว...
เกมอื่น ๆ ที่ซื้อมาปี 2015
เอาเป็นของแถมละกัน ไหน ๆ ก็เขียนปีละครั้ง แต่นี่ก็ไม่ใช่เกมทั้งหมดที่ซื้อมาปีนี้นะครับ แค่ยกที่ชวนให้จดจำมาเท่านั้น...- Squishy the Suicidal Pig - เป็นเกมเดียวที่ผมรีวิวไว้ในปีนี้ (แต่ลืมว่าเคยรีวิว) เป็นเกมที่ไอเดียดีตรงที่เป้าหมายของเกมคือพาหมูไปตายให้ได้ แต่เกมก็ดันมีสลับเป็นโหมดห้ามตายให้ท้อแท้เป็นระยะ ๆ
- Double Dragon: Neon - เกมเก่าที่เอามาทำใหม่ แต่ดันเปลี่ยนรูปแบบการควบคุมใหม่ ใช้ปุ่มเยอะเกินของเดิมมากไป แถมยังใช้ระบบจำนวนตัวแบบโบราณ ที่ตายหมดต้องเริ่มฉากนั้นใหม่หมดแต่ต้น (แล้วก็ตัวหมดอีก) การอัพเกรดตัวละครไม่ช่วยอะไรมาก เล่นคนเดียวไม่รอดแน่ เก็บไว้เล่น 2 คนขำ ๆ เหอะ
- King Arthur's Gold - ผิดหวังที่สุดแห่งปี คือเห็นเป็นกราฟิกพิกเซลท่าทางสนุก แต่เล่นคนเดียวนี่ไม่สนุกสักนิด คือมันเหมือนใช้ตัวละครสุดกากไปลุยกองทัพทั้งกองอะไรแบบนั้น เข้าไม่ถึงจริง ๆ
- Pixel Piracy - เกมภาพแนวพิกเซลแบบเกมข้างบน แต่สนุกกว่านิดหน่อย เพราะให้เราสร้างเรือ รวบรวมพรรคพวก เพื่อไปเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด!! เล่นครั้งแรกสนุกนะ แต่พอเอากลับมาเล่นใหม่ มันไม่สนุกแล้ว อะไรกัน!
- Ultra Street Fighter IV - เกมที่แพงที่สุดที่ซื้อมาในปีนี้ ก็ถูกใจแหละ แต่ใคร ๆ ก็รู้จักไง เลยไม่เอาไปติดใน 5 เกม
- Phantom Breaker: Battle Grounds - เกมแอคชั่นเดินลุยในรูปตัวละคร SD โมเอะ (จริง ๆ มาจากเกมชื่อเดียวกันแต่ตัวละครสูง ๆ อีกที) มันก็เป็นแอคชั่นเดินลุยซัดศัตรูเป็นฝูง ๆ ธรรมดา ๆ นั่นแหละ มีให้พัฒนาตัวละครนิดหน่อย แต่มันก็เป็นแนวเดินลุยเก็บเลเวลเอามันส์ ไม่มีอะไรแล้ว
- Freedom Planet - เป็นเกมใหม่ที่ทำตัวเหมือนเป็นเกมยุคเก่าแบบ Shovel Knight เพียงแต่รายนี้ไม่ได้เลือกยุคแฟมิคอมแต่ไปเลือกยุคเมก้าไดร์ฟแทน จำลองทั้งภาพทั้งเสียงและดนตรีประกอบได้เมก้าไดร์ฟสุด ๆ แถมตัวเกมยังได้อิทธิพลจาก Sonic มาเต็ม ๆ ใครชื่นชอบโซนิคและคาแรคเตอร์แนวเคโมะ ก็ขอแนะนำให้สอยมาซะ อ้อ ประกาศภาค 2 แล้วด้วยนะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น