7(+1) เกม Steam ที่ซื้อมาแตะ ๆ ปี 2021

ปี 2021 จัดว่าเป็นปีที่แนวเกมที่ผมอยากเล่นเริ่มเปลี่ยนแปลงไป อาจจะเพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ใน Teyvat (โลกในเกนชินอิมแพค) เกือบทุกวัน แนวเกมที่ซื้อมาปีนี้เลยดูเหมือนจะหลบ ๆ เกมที่เป็นสไตล์แบบนั้นไป


ไม่ต้องอะไรมากแล้ว ก็ตามเคย เกมเรียงตามลำดับที่ซื้อไม่ใช่ลำดับคะแนนใด ๆ เกมไหนถูกขอคืนเงินไปทีนึงก็จะถูกเลื่อนลำดับไปเป็นการซื้อรอบหลังสุดแทน เกมไหนซื้อแล้วขอคืนเงินและยังไม่ได้ซื้อกลับมาอีกรอบจะไม่ถูกนับในปีนี้



= 1. Mega Man X Legacy Collection 2 =

แพ็ครวมเกม Rockman X สี่ภาคหลัง (X5 - X8) ลังเลอยู่นานว่าจะซื้อดีมั้ย เพราะตอนแรกในชุดนี้มีภาคที่อยากเล่นจริง ๆ อยู่ภาคเดียว (คือ X8)  แต่อาจเป็นเพราะเล่น Rockman X Dive มา และมันมีอีเวนท์ที่มีบอสและฉากของภาค X5 X6 มา ก็อะ ชักอยากไปเล่นตัวต้นฉบับดูซะแล้ว ก็ซื้อมาซะ

แต่จนถึงตอนที่เขียนอยู่นี่ก็เพิ่งเล่นจบไปภาคเดียวคือ X5 ด้วยความช่วยเหลือของ Rookie Hunter Mode (โหมดทำให้เกมง่ายขึ้นแหละพูดง่าย ๆ) แล้วก็ไปต่อ X6 ทันที แต่แล้วก็แบบ... มันอะไรฟระ งงระบบมันมากมาย ทำใมช่องบอสบางตัวหน้าแดงฟระ ทำไมไปสุดฉากไม่เจอบอสแต่เจอซีโร่ตัวม่วง ๆ ฟระ ทำไมจู่ ๆ ซีโร่กลับมาดื้อ ๆ เลยฟระ แล้วทำไมไอ้ตัวลอย ๆ นี่ยิงไม่เข้าฟระ ... ก็ข้ามไปเล่น X7 โอ้โฮ คราวนี้หนักเลย การควบคุมดูติดขัดอืดอาดมาก แล้วอย่างในภาพประกอบข้างบนนี่งงตั้งนานว่ามันต้องทำอะไร ก็เหลือ X8 ที่ไม่มีปัญหา แต่เคยเล่นจนเบื่อแล้วไง แล้วนี่จะซื้อมาทำไมเนี่ย? 😅

สรุป ก็เหมาะกับคนที่เคยเล่น X5 X6 X7 X8 มาแล้วอย่างโชกโชนในอดีตและยังอยากเล่นอีกนั่นแหละ คือมันต้องเป็นคนที่ได้เล่นสมัยนู้นจริง ๆ มั้งถึงจะพอรับมันได้ (โดยเฉพาะ X7) ส่วนคนที่เติบโตมากับเกมสมัยใหม่ หรือเคยเล่นแค่ X1 - X4 มาก่อน  ก็ต้องกัดฟันเล่นดูล่ะนะ (ซึ่งถ้าผมกัดฟันเล่นต่อได้ ก็จะเขียนรีวิวฉบับเต็มให้ได้อ่านหลังเขากัน😀)


- - -



= 2.Saints Row: The Third =

ตอนนั้นน่าจะเป็นความอยากเล่นเกมที่มีการใช้ปืนเป็นอาวุธ และมีระบบแต่งตัว ก็เลยหันมาสนใจ Saints Row เข้า โดยตอนแรกก็ลังเลว่าจะเอาภาค 3 ที่สมจริงกว่า หรือภาค 4 ที่มีพลังหลุดโลก สุดท้ายก็เลือกภาค 4 มาครับ แต่นี่มันพื้นที่ของภาค 3 นี่? คือ เรื่องมันเป็นงี้... หลังจากเล่นช่วงต้นของภาค 4 จนได้ยืมรถคันแรกมา เฮ้ย ผมชอบเว้ย ได้หารถจากข้างทางแล้วขับไปไหนมาไหน มันฟินมาก (เป็นคนไม่เคยเล่น GTA) จนกระทั่ง ผมได้พลังพิเศษมา.... ผมรีบปิดเกมแล้วขอคืนเงินเพื่อเอาไปซื้อภาค 3 นี่ทันที!

Saints Row:The Third (SR3) เป็นภาคที่คนยกย่องว่าดีที่สุด จนถึงกับมีการออก Remaster อยู่ภาคเดียว (Epic เอามาแจกฟรีอยู่ช่วงนึงด้วย) ถ้าเทียบกับภาค 4 แล้ว SR3 ทำให้เรารู้สึกเข้าถึงตัวเมืองในเกมมากกว่า (ภาค 4 เหรอ เมืองเหมือนเป็นแค่ทางผ่าน😆) จะไปไหนก็ต้องหาพาหนะมาขับไป ชอบคันไหนก็ต้องขับมาเข้าอู่ที่ฐานเราให้ได้ จากนั้นจะสามารถทำสีและแต่งเพิ่มได้ด้วย ซึ่งอะไรพวกนี้ภาค 4 ก็มีแถมยังสะดวกกว่า แต่ภาค 4 มันแบบวิ่งเองเร็วกว่าตั้งเยอะ จะหารถไปทำไม การสู้ในภาค 3 ก็ต้องลุยด้วยอาวุธล้วน ๆ ไม่มีหรอกพลังแช่แข็ง ยกรถมาทุ่มใส่ ทำให้เป็นเกมที่ให้ความรู้สึกแบบต้องสู้ด้วยแรงกายของตัวเองมากกว่าภาค 4

สรุป ก็เป็นเกมที่ดีเกมนึงแหละ ใครไม่เคยเล่นก็ซื้อได้ถูก ๆ ช่วงเทศกาลลดเหลือ 100 กว่าบาท บางทีก็ไม่ถึง 100 (แบบ DLC ครบด้วยนะ) แต่! เกมมีบั๊กเยอะอยู่ ไม่ใช่บั๊กแบบตัวละครทำอะไรฮา ๆ นะ มันบั๊กพวกจอดำ เฟรมเรตตก เกมกระตุก สุ่มค้าง ฯลฯ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกเครื่องต้องเจอ จะเจอมากเจอน้อยแค่นั้น (เจอน้อยนี่คืออย่างน้อย 2 อย่างแล้ว) แต่มันก็พอแก้ได้ เช่น ต้องไปแก้ที่ไฟล์ Host ของวินโดวส์ หรือ Set Affinity ให้ใช้ CPU แค่ 2 คอร์ เป็นต้น


- - -



= 3. Saints Row IV =

เอาเข้าจริง ๆ พอเล่น SR3 ไปสักพักก็เริ่มรู้สึกว่า "ทำไมเรามันช่างไร้พลังอะไรแบบนี้" และนั่นทำให้ผมไปซื้อภาค 4 กลับมาอีกรอบ..  SR4 เป็นเกมที่ตัวเอกจะอยู่ในโลกเสมือนจริง หรือพูดง่าย ๆ คือเป็นแบบ The Matrix นั่นแหละ และด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนแฮกเกอร์ ทำให้สามารถปลดล็อคพลังเหนือมนุษย์ในโลกนี้ได้ ทั้งวิ่งเร็วกว่ารถ กระโดดสูง ไต่ตึก ร่อนกลางอากาศ ฯลฯ  ซึ่งตอนสัมผัสแรก ๆ ต้องยอมรับว่าพลังมันมากเกินไปจนรู้สึกควบคุมยาก ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะชินกับมัน และต้องทำให้ได้ด้วย เพราะพลังพิเศษไม่ได้หมายถึงโกง แต่เกมได้เตรียมสิ่งที่สมน้ำสมเนื้อกับพลังไว้ให้รับมือแล้ว

จุดหนึ่งที่ภาค 4 ดีกว่าภาค 3 คือ มีอาวุธและเครื่องแต่งกายให้เลือกหลากหลายกว่า แลัวเรายังแต่งอาวุธได้มากขึ้นด้วย (เปลี่ยนสกินได้นั่นแหละ) ส่วนยานพาหนะ ถ้าอยากเก็บไว้ก็แค่กดลงที่ D-Pad หรือกดคีย์ N ขณะขับ ก็จะเป็นการสแกนยานพาหนะมาเก็บไว้เลย  และที่ผมชอบมาก ๆ คือท่าพิเศษระยะประชิดที่ใช้ได้โดยแดชเข้าหาเป้าหมายแล้วกดโจมตี มันจะสุ่มออกมาเป็นท่าเจ๋ง ๆ มากมาย ยิ่งใช้ต่อเนื่องเก็บหลาย ๆ ตัวนี่สุด ๆ ตอนหลังพบว่าภาค 3 ก็มี แต่ไม่ดูเทพขนาดนี้  แม้จุดเด่นของภาคนี้คือพลังพิเศษ แต่ก็มีบางช่วงที่เราต้องกลับไปเล่นในสภาพไร้พลังเหมือนกัน 

สรุปคือ มันก็มีดีของมันทั้ง 2 ภาคล่ะนะ ภาค 3 ออกแนว ๆ แก๊งขยายอิทธิพลยึดครองเมือง แต่ภาค 4 มันไปนู้นเลย แนวกู้โลก   และแน่นอน บั๊กจากภาค 3 ก็ยังตามมาในภาค 4 (และแก้วิธีเดียวกันเป๊ะ ๆ) แต่บางบั๊กอาการดีขึ้นหน่อย เช่นบั๊กสุ่มค้างในภาค 3 ถ้าค้างตอนเล่นเต็มจอแล้วจะกดสลับหน้าต่างไม่ได้เลย ต้อง Ctrl + Alt + Del เท่านั้น (หรือเล่นเป็นหน้าต่าง ให้คลิกนอกจอได้เอา) แต่ภาค 4 บั๊กนี้เราสลับหน้าต่างได้แล้ว😆


- - -



= 4. Oxygen Not Included =

เกมจากผู้สร้าง Don't Starve ที่เปลี่ยนจากเอาตัวรอดในโลกกว้าง มาเป็นเอาตัวรอดในพื้นที่จำกัด และเปลี่ยนจากการบังคับตัวละครตัวเดียวโดยตรง มาเป็นการออกคำสั่งให้ตัวละครหลายตัวทำนู้นทำนี่แทน ผมตัดสินใจซื้อเกมนี้เพราะอยากหาเกมที่แนวคล้าย ๆ Two Point Hospital มาเล่น (ส่วน Two Point Hospital นั้น ขอคืนเงินไปก่อนหน้านั้นแล้ว😆) ถึงเขาบอกว่าเกมมันยาก แต่ผมว่าศึกษาดี ๆ น่าจะไหวน่า พอเอาจริง ๆ ก็... ไม่รอด

เกมมันน่าสนที่ตัวละคร (สุ่มมา) มีลักษณะติดตัวแตกต่างกัน และทุกตัวมีทั้งส่วนที่เป็นข้อดีและข้อเสีย ก็ต้องเลือกให้ไปทำงานที่เหมาะสม ตัวเกมมีการบอกว่าเราต้องทำอะไร แต่ไม่บอกว่าทำยังไง ก็ต้องงมเอาว่าอะไรมันต้องต่ออะไรยังไง ถ้าเดาถูกมันก็เวิร์ค ไม่ถูกก็นั่งงงว่าตกลงมันทำยังไงฟระ สุดท้ายก็อาจต้องไปนั่งดูคลิป Guide เอา (ซึ่งดูแล้วก็รู้สึกว่า... ใครมันจะไปรู้ฟระ)

สรุป เป็นเกมสำหรับคนที่มีความอดทนและไม่เกี่ยงที่จะค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ก็มีเวลาให้ลองผิดลองถูกเหลือเฟือ เกมนี้มีคนทำ Mod แปลไทยให้ติดตั้งได้จาก WorkShop เลย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกมมันง่ายขึ้นเท่าไหร่หรอก😅


- - -



= 5. Hand of Fate 2 =

ปีที่แล้วซื้อเกมแนว Tabletop RPG ไปเกมนึงคือ For The King มาปีนี้ก็ขอแนวนี้อีกเกมคือ Hand of Fate 2 นี่แหละ โดยเกมนี้จะมีตัวละครเป็นเกมมาสเตอร์มาดำเนินเกมเป็นตัวเป็นตนกันเลยทีเดียว ลักษณะการเล่นก็คือเราจะต้องเดินไปตามแผนที่ที่สร้างจากการ์ด เหยียบการ์ดไหนก็เปิดการ์ดดูอีเวนต์แล้วตัดสินใจ ซึ่งบางทีก็ต้องโยนเต๋าให้ได้แต้มถึง บางทีต้องเลือกการ์ดให้ถูกใบ และบางทีก็ต้องต่อสู้

ฉากต่อสู้ของเกมนี้จะเป็นเกม Action แบบเน้นการกดปุ่มโจมตี ตั้งการ์ด และสวนกลับให้ถูกจังหวะ คล้าย ๆ กับเกมตระกูล Batman Arkham ซึ่งเรามักจะต้องเจอรุมอยู่เป็นประจำ ทำให้ต้องหูตาไวตลอดเวลาว่าตัวไหนกำลังจะโจมตีเรา แรก ๆ นี่รู้สึกว่าสบาย แต่พอศัตรูเริ่มมีรูปแบบการโจมตีใหม่ ๆ ก็เรื่มยากเหมือนกัน  ในการเริ่มเกมแต่ละครั้ง เราจะได้จัด Deck เลือกผู้ติดตาม อุปกรณ์สวมใส่ และอีเวนต์ที่ต้องเจอเอง อาจคิดว่า งั้นก็ใส่อาวุธดี ๆ อีเวนต์ง่าย ๆ ไปสิ แต่การจะปลดล็อคอะไรใหม่ ๆ ก็ต้องเคลียร์อีเวนต์ในการ์ดใหม่ ๆ เพื่อเอา Token มาให้ได้ ส่วนอุปกรณ์สวมใส่ดี ๆ ก็อาจต้องมีค่าบางอย่างเพียงพอถึงจะใส่ได้ 

สรุป ภาค 2 มีการเพิ่มระบบอะไรหลาย ๆ อย่างจนรู้สึกว่าเกมมันชักจะซับซ้อนไปนะ ทำให้รู้สึกอยากซื้อภาคแรกมาเล่นดู แต่ก็กลัวดองอีก เอาจริง ๆ ที่ดองไม่ใช่เพราะความซับซ้อน แต่สู้ไม่ไหวตะหาก ศัตรูมันแบบเล่นรุมกันตลอดงี้ หมาหมู่นี่หว่า😂


- - -



= 6. Fallout 3 / Fallout: New Vegas =

เรื่องมันเริ่มจากเพื่อนคนนึงเขาจะมักจะหาเกม FPS เล่นอยู่เสมอ ผมซึ่งอยากให้เขาหาพวกเกม RPG ที่เล่นแล้วมีเรื่องมาให้เล่าเป็นสิบ ๆ หน้าบ้าง ก็เลยแนะนำ Fallout: New Vegas ไป ผลก็คือ เขาเอาสิ่งที่เจอในเกมมาเล่าเป็นสิบ ๆ หน้าจริง ๆ ด้วยวุ้ย  แล้วพอฟัง ๆ ไป (จริง ๆ อ่าน) ก็ชักน่าสนุก แรก ๆ ก็งัด Fallout 4 ที่ดองไว้มาเล่น แต่ไป ๆ มา ๆ อยากเล่นอะไรที่มันคลาสสิกกว่านั้น ก็เลยจัด Fallout 3 มาก่อน

ที่เลือก Fallout 3 ก่อน เพราะชอบโลกของภาคนี้มากกว่า มันดูมีอะไรซับซ้อน มีอะไรให้สำรวจเยอะดี แค่เมืองแรกก็ดูซับซ้อน มีทางขึ้นทางลง โอ้ย มันต้องสนุกแน่ ๆ แต่พอเล่นจริง ๆ แล้วรู้สึกว่า ซับซ้อนไปมั้ง ผมหลงทางอยู่ในเมืองนั่นหลายรอบมาก😆  เอาจริง ๆ ก่อนจะไปเมืองนั้นผมก็ขอคืนเงินภาค 3 ไปรอบนึงแล้ว เพราะออกจากเกมมาผมมองพื้นที่สีขาวในจอเป็นสีชมพูหมด เนื่องจากเกมมันโทนเขียวเกินไป ก็เลยไปซื้อ New Vagas แทน แต่ก็ท้อแท้ที่ทำชาวบ้านตายยกเมือง เลยคืนเงินแล้วกลับไปซื้อภาค 3 มา แล้วผมถึงจะไปเจอเมืองนั่น เลยคิดถึงพื้นที่โล่ง ๆ ของ New Vegas ก็เลยซื้อ New Vegas กลับมาอีก แต่ก็ยังไม่ได้เล่นต่อนะ

จริง ๆ เมื่อก่อน Fallout 3 จะไม่สามารถเล่นบนวินโดวส์รุ่นใหม่ ๆ ได้ เนื่องจากติดระบบ DRM Game For Windows Live ที่ไม่รองรับวินโดวส์รุ่นหลัง ๆ ต้องลง Mod สำหรับถอด GFWL เอาเอง แต่ปีนี้ตอนที่กำลังตัดสินใจซื้อ จู่ ๆ เขาก็ออกอัพเดตมาถอด GFWL ออกไปอย่างเป็นทางการทำให้เล่นได้ทันทีซะงั้น จังหวะมันพอดีจริง ๆ 

สรุป มันก็น่าเล่นทั้งคู่แหละนะ อยู่ที่ว่าคุณชอบโลกที่มีความหลากหลายให้สำรวจ หรือโลกที่ดูโล่ง ๆ แต่มีความอิสระในการเลือกมากกว่า แต่สิ่งที่คุณต้องรับมือคือ บั๊กตามประสาเกมค่ายนี้ อ้อ New Vegas มีคนทำ Mod แปลไทยไว้ด้วยนะ (หาได้ในยูทูบ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมบนยูทูบหาง่ายกว่า) โดย Mod นี้มีข้อแม้ว่าต้องมี DLC Courier's Stash ด้วย


- - -



= 7. JUMP FORCE =

สาเหตุที่ซื้อเกมนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย คือเกมจะถูกถอดออกจาก Steam ในวันที่ 8 ก.พ. 2022 และจะปิดระบบออนไลน์ทั้งหมดในวันที่ 25 ส.ค. 2022 และหลังจากประกาศข่าวนี้ พอถึงมหกรรมลดราคา เกมก็ลดจาก 1590 บาทเหลือ 159 บาททันที! (90%) ซึ่ง Steam Winter Sale 2021 อาจจะเป็นเทศกาลลดราคาครั้งสุดท้ายของเกมนี้ โดยถ้าเกมถูกถอดและระบบออนไลน์ปิดแล้ว เราจะยังโหลดเกมมาติดตั้งใหม่ได้ตลอด (ถ้าซื้อแล้วนะ) และยังเล่นโหมด Offline กับต่อสู้ออนไลน์แบบ Peer-to-Peer กับเพื่อนได้ แต่จะไม่มีการสะสมแต้ม ไม่มีร้านค้าพรีเมี่ยม และไม่มีการสู้กับคนแปลกหน้าทั่วโลกเพื่อไต่ Rank อีกต่อไป

แล้วโหมด Offline เหลืออะไรให้เล่นบ้าง? ก็โหมด Story ที่ให้เราได้ปั้นตัวละครของตัวเอง ดำเนินเรื่องไปเจอตัวละครจาก JUMP มากมาย รับมิชชั่นสะสมเหรียญซื้อชุดใหม่มาแต่งตัวละคร ซื้อท่าไม้ตายที่ชื่นชอบมาใช้ ซึ่งเกมมีท่าไม้ตายจากการ์ตูน JUMP มาแบบครบถ้วน (ตามตัวละครที่ได้อยู่ในเกมนี้) มีหมดไม่ว่าจะเป็นพลังคลื่นเต่า เปกาซัสหมัดดาวตก อาวานสทรัช หรือแม้แต่สองกระแทกสุดยอด น่าเสียดายที่ตัวละครในเกมนี้มาจากการ์ตูนแนวต่อสู้ซะส่วนใหญ่ ไม่มีตัวละครจากการ์ตูนแก๊กหรือ Love Comedy แบบเกมรวมตัวละคร JUMP เกมก่อน ๆ  โดยตัวละครใหม่สุดในเกมนี้คือ อัสตร้าจาก Black Clover (ทันจิโร่มาไม่ทันนะ)

เกมนี้จะมีตัวละคร DLC ทั้งหมด 14 ตัวที่ต้องซื้อเพิ่ม โดยจะมี 9 ตัวใน Characters Pass 1 และอีก 5 ตัวใน Characters Pass 2 โดยทั้ง Deluxe Edition และ Ultimate Edition จะมีให้แค่ Characters Pass 1 เท่านั้น (Ultimate ได้เพิ่มแค่เสื้อ T-shirt 16 ลาย กับไอเท็มที่ทำให้เล่นง่ายขึ้น ไม่มีตัวละครเพิ่มนะ) ถ้าอยากได้ตัวละครครบแบบถูกที่สุดก็ซื้อ Deluxe Edition + Characters Pass 2 ก็พอ แต่เอาจริง ๆ ถ้าไม่สนใจว่าต้องมีตัวละครครบ ซื้อแค่ตัวละครที่ชอบก็พอ เพราะถึงไม่มี DLC ก็มีตัวละครจาก DLC ให้เจอในเกมอยู่ดี (เป็นการโฆษณา DLC กลาย ๆ นั่นแหละ) แค่เอามาใช้ไม่ได้เท่านั้น

สรุป ถึงเกมนี้จะเคยถูกรีวิวในแง่ลบมาเยอะ ทั้งเสียงพากย์ที่มีบ้างไม่มีบ้าง (แต่ตอนสู้รู้สึกจะมีเสียงครบนะ)  A.I. ที่ไม่พอมือ (แต่ก็มีการออก patch มาปรับปรุงไปบ้างแล้ว) และระบบออนไลน์ที่ไม่มีคน แต่ด้วยราคา 159 บาทตอนลดราคา กับเกมที่มีตัวละครจากการ์ตูนดังหลายเรื่องมารวมกันนี่ เอาแค่จบเนื้อเรื่อง ได้ปั้นตัวละครก็คุ้มแล้วละผมว่า จะน่าเสียดายก็ตรงโหมดออนไลน์จะมีเครื่องแต่งกายที่หาไม่ได้จากที่ไหนแจก และเครื่องแต่งกายในร้านค้าพรีเมี่ยมก็ต้องใช้เหรียญ JF ในการแลก ซึ่งเหรียญ JF ต้องซื้อด้วยเงินจริงหรือเป็นรางวัลจากอีเวนต์ (ก็คือเพชรในเกมกาชานั่นแหละ แต่เกมนี้ไม่กาชานะ) แต่พอเกมยุติการขายในวันที่ 8 ก.พ. 2022 เหรียญ JF ก็จะเลิกขายตามไปด้วย ก็ต้องตัดใจล่ะนะ (เขาไม่อัพเดตให้ย้ายมาขายในโหมดออฟไลน์แน่นอนผมมั่นใจ เกมญี่ปุ่นก็งี้แหละ)


- - -


ส่งท้าย

ก็เป็นปีแรกตั้งแต่เขียนเอ็นทรี่สรุปเกม Steam ปลายปีที่ไม่มีเกมตระกูล Neptunia เลย ก็หนักไปทางยิงปืนจริง ๆ นั่นแหละ (ตั้งแต่ร็อคแมนมาเลย) แล้วก็ไม่มีเกมแนว JRPG เลยด้วย จัดเป็นปีที่แปลกใหม่ดีจริง ๆ

ปีนี้ก็จบแค่นี้ สวัสดี...


ของปีก่อน ๆ



    ความคิดเห็น

    โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

    RPG Maker VX Ace กับภาษาไทย

    [ลอง 3 เดือนนิด ๆ แล้วรีวิว] จอย 8BitDo SN30 Pro+

    RPG Maker MZ สอยดีมั้ย ภาษาไทยปกติรึเปล่า?

    RPG Maker MV มีดีอะไร แล้วภาษาไทยล่ะ?

    [บันทึก] เมื่อผมไปอบรมประสบการณ์วิชาชีพ มสธ.

    หลังจากลองเล่น Diablo II Resurrected (ตอน Open Beta นั่นแหละ)

    เล่นแล้วมาเล่า... Torchlight 2 ตัวจริงเต็ม ๆ !!