8 เกม Steam ที่ซื้อมาเล่นครึ่งดองครึ่ง ปี 2023
หลังจากปีก่อนเจอจอฟ้าไปทั้งปี ปี 2023 นี้จู่ ๆ ก็เจอวิธีแก้จนได้ แต่ก็เจออะไรหลาย ๆ อย่างทำให้เล่นเกมใน Steam ได้ไม่มากนัก (เกมที่ใช้เวลามากที่สุดอยู่ที่ 20 ชั่วโมงกว่า ๆ) แต่เกมนอก Steam น่ะเหรอ? กี่ร้อยชั่วโมงไม่รู้ (เกนชินน่ะแหละ😀)
ปีนี้หลังจากหักลบเกมที่ "ไม่เอามาลงจะดีกว่า" แล้ว ก็เหลือ 8 เกมตามชื่อเอ็นทรี่ ปีนี้ไม่มีเพื่อนยกเกมให้แล้ว แถมยังเอาเกมที่จะยกให้เพื่อนมาเล่นอีก แต่เพราะเกมที่ยกให้เพื่อนดันซื้อไปดองใน Humble Bundle ตั้งแต่ปี 2022 จึงไม่ขอเอามารวมในนี้ (แล้วจะบอกทำไม😅) และจะมี 3 เกมที่จริง ๆ ไม่ใช่เกมหลัก แต่เป็น DLC ของเกมที่ไม่ใช่เกมอีกที คือตัวมันแจกฟรี แต่เราต้องซื้อเกมเป็น DLC มาใส่ให้มันต่างหาก (ถ้าไม่ซื้อก็มีแถมให้เล่นฟรีเกมนึง ซึ่งก็ไม่ใช่เกมเด่นอะไร)
ก็เช่นเคย ไม่สนว่าเกมเก่าหรือใหม่แค่ไหน และเรียงลำดับตามการได้มา ไม่มีการให้คะแนน เพราะผมคิดว่าไม่สามารถเอาตัวเลขมาวัดมาตรฐานของเกมที่แตกต่างกันได้ ก็ใช้ความรู้สึกหลังการอ่านคะเนเอาว่าเกมมันดีมั้ย
----------------------------------------------------------
1. Capcom Arcade 2nd Stadium: MEGAMAN 2 - THE POWER FIGHTER
----------------------------------------------------------
อันดับแรกเป็น DLC ของ Capcom Arcade 2nd Stadium หรือย่อว่า CA2S โดยตัว CA2S จะแจกฟรี (พร้อมเกม Son Son หนึ่งเกม) แล้วเราต้องไปซื้อ DLC เป็นเกมที่ต้องการมาเล่นอีกที ซึ่งเกมนึงก็ราคาแค่ 64 บาท (ถ้าเป็น CAS ภาคแรกจะขายเกมละ 69 บาท) แล้วมักจะลด 50% บ่อย ๆ เหลือ 32 บาท (แต่ Winter Sale ตอนที่เขียนอยู่นี่ดันลดไม่สุดซะงั้น) มาที่ตัวเกมกันดีกว่า Rockman 2 the Power Fighter เป็นร็อคแมนภาคเกมตู้ภาคที่ 2 ที่มาแนวสู้บอสล้วน ๆ ไม่มีตะลุยด่านใด ๆ โดยเกมจะมีเนื้อเรื่องให้เลือกเล่น 3 เรื่อง แต่ละเนื้อเรื่องก็มีบอสให้สู้ 6 ตัว และไปเจอด่านไวลี่อีก 2 ตัวเศษ ๆ ภาค 2 นี้จะต่างจากภาคแรกตรงที่เพิ่ม Duo มาเป็นตัวละครที่เล่นได้ตัวที่ 4 และเพิ่มท่าพิเศษให้ทุกตัวโดยการชาร์จพลังให้เต็ม กดบนค้างแล้วปล่อยชาร์จ อย่างร็อคแมนจะเป็นท่าโชริวเคน และเมื่อชนะบอส อาวุธพิเศษจะตกลงบนพื้น ถ้าเล่น 2 คนต้องแย่งกันเก็บด้วย ไม่ได้ชนะแล้วได้ทั้งคู่ ทำให้เกิดการแข่งขันตบตีกันได้ประมาณนึง
บอสในภาคนี้จะมีบางตัวซ้ำกับภาคแรก แต่รูปแบบการโจมตีจะอลังการขึ้น มีการเรียกลูกกระจ๊อกมาเกะกะเราด้วย และนั่นอาจเป็นข้อเสียของภาคนี้ เพราะผมรู้สึกว่าอะไร ๆ มันดูเยอะวุ่นวายไปหมด แถมฝั่งเรายังมีไอเท็มช่วยเหลือให้เก็บ เก็บแล้วจะเป็นการเรียกผู้ช่วย เช่น รัช บีท มาช่วย (จะเป็นตัวไหนขึ้นอยู่กับตัวที่ใช้) ซึ่งแทนที่จะช่วย ผมว่ายิ่งเพิ่มความวุ่นวายเข้าไปอีก (แล้วถ้าพลังผู้ช่วยยังไม่หมด กดใช้อาวุธพิเศษไม่ได้ด้วยนะ) และไม่รู้เขาออกแบบยังไง บอสถึงชอบหลุดเฟรมไม่อยู่ในจอ จนรู้สึกว่าหรือตอนพัฒนาเขากะให้เป็นจอ Wide ฟระ
สรุป ก็เล่นได้เพลิน ๆ เกมไม่ยาวมากตามประสาเกมตู้ (แค่ 5 - 10 นาทีก็จบได้แล้ว) ถ้าใครอยากได้รางวัลความสำเร็จ จบเกมได้ในระดับยากสุด เกมนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะถึงตั้งความยากไว้สูงสุด (CA2S สามารถตั้งระดับความยากง่ายแต่ละเกมได้) ยังไง ๆ ก็เล่นจบได้อยู่ดี😀
----------------------------------------------------------
2. DRAGON BALL XENOVERSE 2
----------------------------------------------------------
ซื้อมาเพราะตอนนั้นเป็นบ้าอะไรไม่รู้ อยากเล่นเกมดราก้อนบอลมาก ๆ ก็ลังเลว่าจะซื้อ Xenoverse 2 หรือ DBZ Kakarot ดี สุดท้ายหวยออกที่ Xenoverse 1 เพราะผมรู้สึกว่าฉากต่อสู้มันดูดีกว่า XV2 ยังไงไม่รู้ และเนื้อเรื่องมันยังไม่ถูกบิดไปจากภาคหลักมากเท่า XV2 ด้วย (XV1 ส่วนใหญ่แค่บิดเบือนให้บอสเก่งขึ้นจากประวัติศาสตร์เดิม ส่วน XV2 ชอบเติมตัวละครอื่นเข้าไป เช่น ตัวละครจากภาค Movie) แต่พอเล่นได้แค่ 10 นาที ผมก็ขอคืนเงินแล้วไปซื้อ XV2 มานี่แหละ เพราะทนกราฟิกของ XV1 ไม่ได้จริง ๆ 😅
DragonBall Xenoverse 2 เป็นเกมแนวคล้าย ๆ กับ Jump Force และเพราะ Jump Force เป็นเกมแนวนี้ที่ตายไปแล้ว ผมเลยอยากลองเล่นเกมแนวนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ รูปแบบเกมก็คือ เราจะอยู่ใน Lobby ที่เป็นเมืองขนาดย่อม แล้วเราก็ไปรับเควสต์เข้าไปต่อสู้เพื่อดำเนินเรื่อง อัพเลเวล หาของ และจะมีตัวละครจากดราก้อนบอลมาเป็นครูฝึกให้เราเรียนรู้ท่าต่าง ๆ สามารถเลือกท่ามาติดตั้งได้ตามชอบ (แต่ก็จำกัดแค่ท่าในดราก้อนบอลล่ะนะ) เกมสามารถเลือกเล่นได้ทั้งแบบ Single Lobby และ Multi Lobby โดยถ้าเข้าแบบ Single Lobby จะมีเราเป็นคนจริง ๆ คนเดียวในเมือง แต่เกมก็จะสุ่มตัวละครที่คนอื่นสร้างมากระจายอยู่เป็นเพื่อน หรือบางทีก็โผล่มาสู้ด้วยในเควสต์ในรูปแบบ AI แต่ถ้าเข้า Multi Lobby พวกที่อยู่ในเมืองก็จะเป็นผู้เล่นอื่นจริง ๆ
เกมนี้เล่นตอนแรก ๆ ก็เพลินดี แต่พอไปนาน ๆ เข้ามันก็เริ่มกลายเป็นเกมที่ต้องเล่นรายวันอีกเกม พอเล่นเนื้อเรื่องไปสักพักก็จะเริ่มติดขัดสู้ไม่ไหว ต้องไปฟาร์มเลเวลฟาร์มท่าตามเควสต์ย่อย แล้วค่อยกลับไปสู้ แล้วก็วนลูป ตัวเกมพยายามล่อให้เล่นมัลติเพื่อเอา TP-Medal หรือหน่วยเงินหายากแบบเพชรในเกมกาชาอื่น ๆ ซึ่งเล่นโหมดปกติจะได้น้อยมาก ๆ ทีละเหรียญสองเหรียญ แต่ถ้าไปเล่นมัลติจะได้มากกว่า แถมภารกิจรายวัน (เออ เกมนี้ก็มีเหมือนกัน) ก็บังคับว่าต้องไปเล่นมัลติกับคนอื่นด้วย สุดท้ายผมเหนื่อยกับการตามเก็บ TP-Medal เลยดองเกมไปหลายเดือน พอกลับเข้าไปอีกที อ้าว เขาแจกให้ฟรีดองอยู่ในกล่องของขวัญเป็นพัน ๆ เลย 😆
สรุป ก็คิดว่าเลือกถูกเกมละ ถ้าไปเลือก Kakarot คงเล่นจบไปแล้ว เกมนี้ดองได้ยาวหน่อย (เอ๊ะ) ถ้าใครชอบแนวพัฒนาตัวละครแบบอิสระ แต่งตัวได้ตามใจ (แต่ลำบากหาชุดหน่อย) และชอบดราก้อนบอล แต่เบื่อจะเล่นเป็นตัวละครเดิม ๆ ไม่กี่ตัว ก็จัดเกมนี้ได้
----------------------------------------------------------
3. Capcom Arcade 2nd Stadium: STREET FIGHTER ALPHA 2
----------------------------------------------------------
เรื่องมันน่าจะเริ่มจากไปเล่น Street Fighter II ภาคแรกสุดดั้งเดิมที่เขาแจกฟรีใน Capcom Arcade Stadium 1 ช่วงนึง ทำให้รู้สึกอยากเล่นสตรีทไฟท์เตอร์ภาคที่มันดูดั้งเดิมนิด ๆ แต่มีอะไรใหม่หน่อย ๆ แล้วหวยก็มาลงที่ Street Fighter Alpha 2 หรือญี่ปุ่นเรียกว่าภาค Zero 2 นี่แหละ โดยสาเหตุที่ไม่เลือก Alpha 1 ไปเลย เพราะตัวละครน้อยเกินไป😅
SF Alpha Series เป็นภาคที่ย้อนไปก่อน Street Fighter II แต่จำไม่ได้ว่าย้อนไปก่อน SF1 มั้ย แต่ญี่ปุ่นเรียกภาค Zero ก็คงใช่แหละ เป็นภาคที่ปรับกราฟิกให้ดูเป็นการ์ตูนดูลื่นไหลขึ้น เพิ่มระบบเกจคอมโบแบบเก็บเลเวลได้ มีระบบหนีการทุ่ม การเพิ่ม Alpha Counter ที่ใช้แล้วฝั่งตรงข้ามจะกระเด็นหมุน ๆ ฯลฯ
เมื่อก่อนผมเคยเล่นรอมผ่านอีมูมาก่อน แต่พอมาเล่นของจริงผ่านอีมูทางการของแคปคอมแล้ว ทำให้พบว่าตอนเลือกตัวจะมีให้เลือกโหมด Manual กับ Auto ที่ตอนเล่นรอมไม่มี คงเพราะรอมเขาล็อคระดับความยากและโหมดต่าง ๆ ตายตัว พอมาใน CA2S ตัวเลือกพวกนี้เราเปิดปิดได้หมดเลย โดยโหมด Auto จะเป็นโหมดช่วยเหลือผู้เล่นใหม่ ด้วยการตั้งการ์ดอัตโนมัติ (แต่ก็ยังมีช่องให้พลาดได้) และสามารถกดท่า Super Combo ได้ โดยกดเตะและต่อยที่ระดับความแรงเดียวกันพร้อมกันเท่านั้น (กดคำสั่งแบบปกติไม่ได้) แต่เกจจะมีแค่เลเวลเดียว และรู้สึกจะเพิ่มช้ากว่าแบบ Manual ด้วย
สรุป เป็นภาคที่เล่นได้เพลิน ๆ นะ วันไหนไม่อยากแพ้ก็ตั้งความยากไว้ต่ำสุดแล้วเล่นมัน ๆ ไป อ้อ ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ผมใช้สกรูไพล์ไดร์เวอร์ของแซนกีฟติดด้วยละ 😁 (ขนาด SF4 ยังไม่เคยกดติดเลย)
----------------------------------------------------------
4. SUPER ROBOT WARS X
----------------------------------------------------------
สามเกมแรกเป็นเกมที่ซื้อมาเล่นจริง ๆ จัง ๆ แต่เกมนี้เป็นเกมดองจริงจังเกมแรกของปี... สาเหตุที่ซื้อก็ง่าย ๆ ครับ มันลดราคาต่ำสุดตั้งแต่เคยมีมา ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน พอเกมลดราคามากกว่าเดิมก็รอไปซื้อตามเทศกาลได้ แต่ปีนี้มีหลายเกมที่พอลดราคามากผิดปกติแล้ว มักจะตามมาด้วยการปรับราคาต้นขึ้นไปอีก แล้วคราวหน้าตอนลดก็จะแพงกว่าเดิม ผมเลยรีบซื้อแค่นั้นเลย 😆
ภาค X นี่จะมีธีมที่แตกต่างจากภาค V ที่ซื้อปีที่แล้ว คือภาค V จะเป็นการเดินทางข้ามจักรวาล ข้ามมิติ โดยมีศูนย์กลางของเรื่องเป็นเรือรบอวกาศยามาโต้ แต่ภาค X จะเป็นธีมเกิดใหม่.. เอ้ย ผจญภัยต่างโลก โดยมีจุดเริ่มต้นที่วาตารุ และเนื้อเรื่องแทบทั้งหมดก็จะเป็นการเดินทางในต่างโลกแห่งนั้น (ล่ะมั้ง ยังเล่นไปไม่ถึงไหน เรียกว่าดองเลยดีกว่า😅)
ภาคนี้เป็นภาคที่คนชอบน้อยกว่าภาค V พอสมควร เพราะธีมมันไม่เรียล มันไม่สงครามอวกาศ เริ่มมามันเน้นหุ่นพลังเวทซะมาก ไม่มีหุ่นที่ใช้อาวุธแนวเทคโนโลยีให้ใช้เลย (ยกเว้นฝั่งศัตรู) ทนเล่นไปสักพักก็จะเจอกันดั้ม ก็ดันเป็นกันดั้มภาคที่คนไม่ค่อยชอบอีก คือ Gundam G no Reconguista โดยนอกจากจักรวาล UC ที่ส่วนใหญ่ซ้ำกับภาค V แล้ว (แต่ภาค X ได้ F91 ตัวจริงเลย ไม่ใช่รุ่นผลิตจำนวนมากแบบภาค V) ก็มีพวก Gundam Wing ซึ่งผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ 😅 หลัก ๆ ที่อยากเล่นภาคนี้คือ พอนับดูดี ๆ มันดันมีอนิเมะที่ผมเคยดูมากกว่าภาค V ซะงั้น เพลงมันก็เลยคุ้นหูดักแก่เป็นที่สุด แต่เนื้อเรื่องช่วงแรกมันแบบผู้กล้าเดินทางกู้โลกแบบดั้งเดิม มันไม่ชวนให้เดินทางต่อยังไงไม่รู้ แต่ก็อยากไปเจอตัวละครและเพลงที่คุ้นเคยเหล่านั้นให้ได้ล่ะนะ แต่ทำไมยิ่งเล่นยิ่งอยากกลับไปเล่นภาค V ต่อจัง 😂
สรุป ใครชอบวาตารุ นาเดีย กุเร็นลากันน์ โค้ดกีอัส ก็น่าเล่นนะ แต่อาจต้องอดทนสักนิด อดทนเล่นไปจนกว่าเนื้อเรื่องมันจะพีค 😀
----------------------------------------------------------
5. Tomb Raider: Anniversary
----------------------------------------------------------
อันนี้ซื้อมาแบบงง ๆ เพราะการเปิดตัวเกม Tomb Raider I-III Remastered (ชื่อเกมเขาเขียนงี้จริงนะ แต่โลโก้กลับเขียนเป็น I-II-III) ที่เป็นการเอา 3 ภาคแรกมาปรับกราฟิกให้ชัดขึ้น แต่ยังคงภาพสไตล์เดิมไว้ ตอนเห็นเทรลเลอร์ครั้งแรกนี่ ภาพความหลังสมัยเล่นเดโม่ภาคแรกผ่านแผ่น CD ที่แถมมากับนิตยสารเกมมันลอยมาเลย 😀
ส่วน Tomb Raider: Anniversary ก็เป็นการเอาภาคแรกสุดมา Remake ใหม่ ปรับโมเดลตัวละครให้ดูใกล้เคียงคนจริงมากขึ้น กราฟิกต่าง ๆ ก็พัฒนาขึ้นตามยุคสมัยที่เกมออก นอกนั้นยังแก้ไขฉากและปริศนาบางส่วนให้เหมาะกับเทคโนโลยีสมัยนั้นมากขึ้น
ข้อเสียของเกมนี้คือความเก่าของมัน เอ็นจินมีความโบราณกับบั๊ก (หรือตั้งใจ) แปลก ๆ เช่น ถ้าเปิด Anti-Aliasing จะทำให้เงาและเอฟเฟกต์ต่าง ๆ หายไป ต้องเลือกว่าจะเอาเงาหรือเอา Anti-Aliasing และเกมจะรันในวินโดวส์ใหม่ ๆ ไม่ขึ้นเพราะโดน Data Execution Prevention เบรคไว้ แต่แก้ได้โดยไปตั้งให้ยกเว้นไฟล์เกมนี้เอา (ว่าง ๆ จะเขียนวิธีในบล็อกย่อย เขียนเสร็จเดี๋ยวมาใส่ลิ้งค์เพิ่มให้) และเกมไม่ยอมขึ้นปุ่มจอย แต่มีวิธีแก้ที่ใช้เวลาพอ ๆ กับตั้งปุ่มจอยใหม่แหละ และยังมีปัญหาอะไรไม่รู้ ที่ต่างประเทศเขาต้องแก้ด้วยการลงเกมใน Virtual Hard Disk เอาเลย โดยปัญหาพวกนี้บางอย่างจะเกิดกับภาค Legend ที่ออกมาไล่ ๆ กันด้วย แถมอาการหนักกว่าหน่อยเพราะออกมาก่อนนี่แหละ
สรุป เกมเวลาลดราคามันก็ถูกสุด ๆ แหละ น่าจะยี่สิบกว่าบาท ใครสนใจก็ลองซื้อมาเล่น เล่นได้ก็เล่นไป เล่นไม่ได้ก็ขอคืนเงินไป อ้อ ส่วนภาค 1 2 3 ดั้งเดิม ตั้งแต่ประกาศภาค Remastered ก็ไม่เห็นลดราคาอีกเลย 😀
----------------------------------------------------------
6. RESIDENT EVIL 2 / BIOHAZARD RE:2
----------------------------------------------------------
เรื่องมันเริ่มจากเพจไลฟ์เกมที่ดูประจำ เขาไลฟ์เกม Resident Evil 0 แล้วผมอยากเล่นบ้าง แต่ไม่เอาภาค 0 แล้ว ไปเอาภาคแรกแบบ HD ที่เก็บดองโค้ดไว้ปีกว่า กะจะเอาให้เพื่อนตอนที่เขากลับมาเล่นเกม PC อีกครั้ง (จริง ๆ เพื่อนคนนั้นว่างเว้นเกม PC ไปเล่น FF7 จนจบมา แต่เหมือนจะเล่นผ่านอีมูนะ) แต่ทนไม่ไหว เอามาเล่นเองละกัน😀 แต่เล่นแล้วก็พบว่า แม้เขาจะ HD Remaster แก้ไขอะไรหลายอย่างไม่ใช่แค่ปรับภาพให้สวยขึ้นอย่างเดียว ให้ระบบการเล่นทันสมัยขึ้นแล้ว แต่มันก็ยังเก่าไปจนผมหาทางไปต่อและแก้ปริศนาได้อย่างยากลำบาก มันไม่มีอะไรนำทางเลย.... (หรือแค่ผมหาไม่เจอ?)
ก็เลยไปเอาเดโม่ของภาค 2 Remake มาลอง เออ ชอบแฮะ แต่กว่าจะได้ซื้อจริงก็ลังเลอยู่นาน กลัวเอามาดองอีก (แล้วก็ดองมั้ยล่ะ😂) และในวันที่ตัดสินใจซื้อผ่านร้านข้างนอกที่เพจเกมถูกบอกด้วยแนะนำมา เกมมันก็ดัน OUT OF STOCK (ถ้าซื้อผ่าน Steam มันก็ไม่หมดนะ แต่มันแพงกว่าไง)
ตัวเกมคงไม่ต้องพูดถึงมาก เพราะใคร ๆ ที่เล่นเกมก็คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยเมื่อไม่กี่ปีก่อนตัวเกมมีการอัพเดตใหญ่ให้รองรับ Ray Tracing แล้วก็มีการปรับสเป็คที่เกมต้องการในหน้าร้านค้าเรียบร้อย แต่พี่แกลืมปรับข้อมูลพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ครับ พอซื้อมาเห็นขนาดผมก็ตกใจเลย เฮ้ย ทำไมมันใหญ่กว่าที่ระบุหน้าร้านเกือบ 2 เท่าเลยฟระ (จาก 26 GB เป็น 48.93 GB) แต่เขาก็ใจดีให้ย้อนไปเป็นเวอร์ชัน non-RT ได้ ซึ่งขนาดจะกลับไปเท่าเดิม แต่เวอร์ชั่น RT จะมีซับไทยอย่างเป็นทางการด้วย ซึ่ง non-RT ไม่มี แต่ก็มีคนทำม็อดภาษาไทยแบบสมบูรณ์มาก ๆ ไว้ให้ สมบูรณ์ขนาดแปลป้ายต่าง ๆ และยังพากย์ไทยอีกด้วย (ดูข้อมูลได้ที่: Noob-Translator)
สรุป เกมดีมาก ๆ ถึงจะยังไม่ได้เล่นไปไหนเลยก็ตาม😆 และใครคิดจะซื้อ แนะนำให้ซื้อ Deluxe Edition เลย แพงกว่าเกมเดี่ยว ๆ ไม่ถึง 100 แต่วันไหนเกิดอยากเล่นม็อดขึ้นมาจะไม่เสียใจแน่นอน😃
----------------------------------------------------------
7. Capcom Arcade 2nd Stadium: STREET FIGHTER ALPHA 3
----------------------------------------------------------
จริง ๆ ตอนซื้อ SF Alpha 2 ผมก็ลังเลว่า หรือจะซื้อ Alpha 3 ไปเลย เพราะตัวละครมันเยอะกว่า ใช่ ตอนนั้นผมนึกว่า Alpha 3 คือ Alpha 2 ที่เพิ่มตัวละครและระบบเกจ 3 แบบให้เลือกเท่านั้น ผมเลยไปงัดรอมมาเล่นดูว่าจะเอาภาคไหนดี (เล่นเถื่อนเพื่อช่วยตัดสินใจซื้อแท้มาไถ่บาป😂) ปรากฏว่าภาค 3 มันไม่ใช่ภาค 2 เพิ่มตัวละครเลย มันยังกะคนละเกมชัด ๆ จังหวะต่าง ๆ เปลี่ยนไปหมด การทุ่มก็เปลี่ยนจากกดหน้า + โจมตีกลางหรือหนัก เป็นกดชกหรือเตะ 2 ปุ่มพร้อมกันแทน (แถมเห็นตอนคว้ามือจะจับทุ่มชัดเจน) แบบว่าพอเล่น 3 เสร็จแล้วไปเล่น 2 มันจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด เหมือน 3 มันจะเป็นภาคที่ออกแบบให้ระดับโปรเล่นอย่างแท้จริง
SF Alpha 3 จะมีจุดเด่นคือ ระบบเกจที่มีให้เลือก 3 สไตล์ ที่ตอนแรกผมก็นึกว่ามันแค่ต่างที่วิธีสะสมเกจ และวิธีปล่อยออกมา แต่เอาจริง ๆ มันส่งผลหลาย ๆ อย่าง เช่น พลังโจมตี ความเสียหายที่ได้รับ จะแตกต่างกันไปด้วย โดย X-ISM จะเป็นสไตล์ของ Super Street Fighter II X (อเมริกาเรียก SSF2 Turbo) คือจะโบราณหน่อย บล็อคกลางอากาศไม่ได้ เกจเก็บได้เกจเดียว พลังโจมตีสูง พลังป้องกันต่ำ ส่วน A-ISM ก็มาจาก Alpha หรือระบบเดิม ๆ จาก Alpha 2 นี่แหละ (ญี่ปุ่นเลยใช้ชื่อว่า Z-ISM เพราะเขาเรียกภาค Zero) เก็บเกจได้ 3 ระดับ ระดับพลังก็มาตรฐานเลย ส่วน V-ISM มาจาก Variable ที่ตอนอ่านในนิตยสารสมัยนู้นผมก็ไม่เชื่อสายตาที่เขาบอกว่า "ใส่ท่าคอมโบของตัวเองไปได้เลยจนกว่าเกจจะหมด" แล้วก็เพิ่งมาใช้เป็นตอนซื้อมานี่แหละ แบบจะกดไปเลยฮาโดเคนต่อเนื่องไม่พักก็กดได้ อย่าพลาดโดนโจมตีก่อนละกัน😅 ข้อเสียก็คือพลังโจมตีน้อยกว่าแบบอื่น และกดท่า Super Combo ไม่ได้ ต้องใส่ Custom Combo อย่างเดียว
สรุป ควรมีทั้ง Alpha 2 และ Alpha 3 นั่นแหละ มันเหมือนเล่นคนละเกม ได้เปลี่ยนบรรยากาศดี อ้อ Alpha 3 มีโหมดลับด้วยนะ วิธีกดเข้าโหมดลับจะมีอยู่ในคู่มือของ CA2S นี่แหละ
----------------------------------------------------------
8. Metro 2033 Redux
----------------------------------------------------------
อันนี้เรื่องมันเริ่มจากตอนที่ Steam แจก Half-Life 1 ฉบับปรับปรุงฟรีเมื่อปลายปีนี้ พอได้เล่น HL1 ผมก็เริ่มอยากหา FPS ที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องเล่นสักเกม (ไม่เอาแล้วนะพวก Open World) แล้วก็ไปเจอว่าในคลัง Steam ของผมมี Metro 2033 กับ Metro Last Light Complete ที่ได้รับจากการแจกฟรีอยู่ (Last Light Complete เพิ่งแจกฟรีเมื่อกลางปี 2023 นี่เอง) ตอนแรกเล่น 2033 ธรรมดา (ที่แก้ให้เฟรมเรตลื่นยากมาก) เล่นลื่นไหลตามเนื้อเรื่องไม่ติดขัด แต่แล้วก็ไปติดที่ฉากที่เน้นการลอบเร้นฉากนึง ยากจนต้องหาคลิปดู แล้วก็พบว่ามันยากมาก ๆ ยากเกินความสามารถผมไปไกล จนหลงไปดูอีกคลิปนึง เอ๊ะ ทำไมฉากนี้มันมีตรงนี้ด้วย พอลองกลับไปเล่นก็ไม่เห็นมี ซึ่งถ้ามีตรงนั้นมันจะผ่านง่ายมาก แล้วก็พบว่าคลิปนั้นเป็นภาครีมาสเตอร์ Metro 2033 Redux
2033 Redux ปรับปรุงหลาย ๆ อย่างจากต้นฉบับ ทั้งโมเดลตัวละครที่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคนกันเลย เปลี่ยนลำดับการดำเนินเรื่องและแก้ฉากใหม่หลายจุด มีการยกระบบจาก Last Light มาใส่ทั้งดุ้น ทำให้อะไรดีขึ้นเยอะ โดยเฉพาะระบบย่องไป Take Down ด้านหลังศัตรู ที่ของเดิมไม่มี ต้องหาอาวุธเงียบ ๆ ยิงหรือปาใส่หัวเอาเท่านั้น จริง ๆ ตอนแรกผมชอบภาค Last Light มากกว่า เลยซื้อภาค Last Light Redux มาก่อน เพราะถึงคนจะบอกว่าเปลี่ยนจาก Last Light ต้นฉบับไม่เยอะ แค่อัพแสงเงาและเท็กซ์เจอร์ แต่พอไปลองเล่นจากที่ได้รับแจกฟรีใน Epic ก็พบว่ากราฟิกมันไม่เปลี่ยนมากก็จริง แต่มองเห็นอะไร ๆ ชัดกว่ามาก และเพราะของ Epic มันไม่มีรางวัลความสำเร็จ ผมเลยซื้อของ Steam มาอีก แต่สุดท้ายพบว่าตัวเองมี Last Light Redux 3 ชุดเข้าไปแล้ว😅 คือ ใน Epic ใน Steam และใน GOG (แจกเมื่อปลายปี 2563) เลยขอคืนเงินใน Steam แล้วไปซื้อ 2033 Redux มาแทน (เอาจริง ๆ มันก็ไม่แพงมาก ตอนนี้ลดเหลือ 40 กว่าบาทเอง ซื้อ 2 ภาคได้สบาย แต่งก เอ้ย ประหยัดไง😂)
สรุป เป็นเกม FPS เน้นเนื้อเรื่องที่ดีมาก ๆ เล่นแล้วอินแปลก ๆ เสียตรงมันใช้ระบบ Check Point ไม่ได้เซฟได้ตลอดแบบ FPS อื่น แล้วบางทีดันเข้า Check Point ตอนกำลังโดนโจมตีหรือกำลังจะจมน้ำงี้ ยังดีที่เกมมีระบบเลือก Chapter ถ้าพลาดแบบแก้ไม่ได้แล้วก็กลับไปเล่นตั้งแต่ต้น Chapter ใหม่ได้
ส่งท้าย
ก็เป็นปีที่ซื้อเกมน้อยลง เน้นเก็บเกมเก่าในความทรงจำมากขึ้น แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเกมระดับขึ้นหิ้งทั้งนั้น แล้วเหมือนจะเป็นปีแรกเลยมั้งที่ไม่มีเกม RPG เลย (SRWX นี่ถือว่าแนววางแผนนะ😅) ช่วงหลัง ๆ เวลาจะซื้อเกมก็เริ่มลังเลมากขึ้นว่า เราอยากเล่นเกมนั้นจริง ๆ รึเปล่า หรือแค่ว่ามันลดราคาแล้วจะไม่ลดอีกนานเลยต้องรีบซื้อ
ปีหน้าคงพยายามซื้อเกมที่อยากเล่นจริง ๆ เท่านั้น เกมระดับที่อยากเล่นให้ได้ก่อนตายนู่นเลย ซึ่งผลออกมาอาจจะซื้อน้อยลง ปีหน้าอาจต้องเขียนเอ็นทรี่เกมที่ขุดมาเล่นแทนก็ได้ จริง ๆ ปีนี้ก็ขุดมาเล่นหลายเกมนะ ตอนแรกว่าจะใส่มาด้วย แต่เดี๋ยวเขียนไม่ทันสิ้นปี😀
- 10 เกม Steam ที่ซื้อและมีคนให้มาดอง ปี 2022
- 7(+1) เกม Steam ที่ซื้อมาแตะ ๆ ปี 2021
- 9 เกม Steam ที่ซื้อมาดองเล่น ปี 2020
- 8 เกม Steam ที่ซื้อมาแล้วดูพอไปวัดไปวา ปี 2019
- 7 เกม Steam ที่ซื้อมาแล้วเล่นจริง ๆ ปี 2018
- 5 เกม Steam ที่ซื้อมาแล้วฟิน ปี 2017
- 5 เกม Steam ที่ซื้อมาแล้วติดหนึบปี 2016
- 5 เกม Steam ถูกใจโคตร ๆ ..ที่ซื้อมาปี 2015
ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของ FPS
ตอบลบ