NinkungZ Express

หลังจากคาดหวังตั้งใจไว้ในเอ็นทรี่ คาดหวังตั้งใจ ปี 2563  ตอนนี้ก็มาถึงเวลาสรุปผลกันแล้ว 😆

ปี 2020 เป็นปีที่ผมเสียเกมฟรี (กาชา) ที่เล่นประจำไป 2 เกม (เนื่องจากยุติการให้บริการ) แต่ก็ได้เกมกาชาใหม่มาอีก 3 เกมซะงั้น พวกเกมที่ซื้อมาเลยโดนดองหนักกว่าปกติเพราะต้องเอาเวลาไปเล่นเกมพวกนี้นั่นแล แต่ถึงจะขึ้นชื่อว่าดองก็เล่นจบไป 2 เกมเลยนะ (ก็ดันมีเกมสั้นอยู่ 2 เกมนี่หว่า😂) ปีนี้เกมที่ซื้อมาเล่นก็ยกระดับไปอีก เพราะผมตัดสินใจซื้อการ์ดจอใหม่ซะที (โดดจาก Intel HD ไป GTX 1650 เลยนะ😅) แต่ในนี้ก็มีแค่ 4 เกมเท่านั้นแหละที่ต้องอัพการ์ดจอถึงจะเล่นได้ อีก 5 เกมใช้ Intel HD 630 เดิม ๆ ก็เล่นได้สบายอยู่แล้ว ก็ไม่ต่อความอะไรมาก เข้าเรื่องกันเลย จะเรียงลำดับเกมตามลำดับการซื้อนะ ไม่ได้เรียงตามความชอบอะไรทั้งนั้น และไม่สนใจว่าเกมออกมาปีไหน ขอแค่ซื้อมาปีนี้ก็พอ ไปดูกันเลย!!

อือ สวัสดี นี่คือเอ็นทรี่แจ้งข่าวอัพเดต Firefox ครั้งสุดท้ายของปีนี้ แม้จะเป็นรุ่นปิดท้ายปี แต่ก็ไม่มีฟีเจอร์เห็นภาพมาให้แคปภาพหรอก เราก็ไปคุยกับตัวหนังสือล้วนเอาตามฟอร์ม ใครที่มือไวซื้อแมครุ่นใหม่ที่ใช้ซีพียู Apple Silicon หรือที่รู้จักกันตัวนึงว่า Apple M1 (เดี๋ยวต่อไปมีอีกหลายเบอร์) ตอนนี้การลงทุนของคุณได้รับการตอบแทนแล้ว เพราะ Firefox 84 รองรับซีพียูนี้แบบ Native ซะที เห็นแวบ ๆ ว่ามีคนลองตอนเบต้าแล้วรู้สึกว่าเร็วกว่าเดิมมาก ๆ เลย   ปล่อย WebRender สำหรับ MacOs Big Sur และวินโดวส์ที่ใช้ GPU gen 5 - 6 ของอินเทล และยังเร่งความเร็วให้ Linux/GNOME/X11 อีก เผื่อแผ่กันโดยทั่วถึง   Firefox 84 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่รองรับ Adobe Flash แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มออกอัพเดตถอด Flash ให้ทุกระบบแล้ว ใครยังใช้อยู่ควรมูฟออนครับ😃    อื่น ๆ อ่านได้ที่ Release Notes และ  Firefox 84 ส่งท้าย Adobe Flash ต้อนรับ Apple M1  โดย Mozilla Thailand Community ก็จบแค่นี้แหละปีนี้ ทาง Mozilla เขาก็เขียนบล็อก สรุปฟีเจอร์ของ Firefox ในปี 2020 ไว้ด้วย ผมก็อยากเขียนนะ แต่เอาไว้เขียนให้เบราว์เซอร์อื่นที่ไม่ได้มีเอ็นทรี่ให้ทุ

หลังจาก Firefox มีความเปลี่ยนแปลงแค่นิด ๆ หน่อย ๆ มานาน มารุ่นนี้น่าจะเรียกได้ว่าคืนฟอร์มสุด ๆ เพราะปรับปรุงเพิ่มเติมหลายอย่างเลยละ

เวลาผ่านไปรวดเร็ว ในที่สุดเราก็มาถึงการอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์ครั้งที่ 9 ของวินโดวส์ 10 กันแล้ว ก็ถือว่าเป็นวินโดวส์ที่มีการอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์เยอะที่สุดตั้งแต่เคยมีมา (เอาจริง ๆ มันก็เลยช่วงที่ทำลายสถิติมานานแล้วนะ)  จุดเปลี่ยนของคราวนี้ก็อยู่ที่การกำหนดรูปแบบเลขเวอร์ชันซะใหม่ จากเดิมจะใช้ตัวย่อปี ค.ศ. ตามด้วยเลขเดือน (ซึ่งไม่ตรงเดือนที่ออกจริงมานานแล้ว😅) มาเป็นเลขปีตามด้วยช่วงของปีแทน (H1 = ครึ่งปีแรก H2 = ครึ่งปีหลัง) ซึ่งเป็นการใช้รูปแบบเดียวกับรหัสที่ใช้เรียกตอนพัฒนาไปเลย เพื่อลดความสับสนของหลายฝ่ายว่ามันมีกี่รุ่นกันแน่ แล้วไอ้เลขรหัสนี้มันตรงกับรุ่นจริงตัวไหน ตอนนี้เรียกเหมือนกันหมดจบ ๆ กันไปเลย🤗

ก็กลับมาพบ.... ไปกันเลยดีกว่า Firefox รุ่นนี้เขาบอกว่าเร็วกว่าที่เคย โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งด้านการโหลดหน้าเว็บและความเร็วตอนเปิดโปรแกรมขึ้นมา เว็บไซต์ที่ใช้เลย์เอาท์แบบ flexbox-based จะโหลดเร็วขึ้น 20% กว่าเมื่อก่อน เรียกคืนเซสชั่นเร็วกว่าเดิม 17% ก็คือถ้าสลับไปโปรแกรมอื่นแล้วกลับมา Firefox จะพร้อมใช้งานเร็วขึ้น สำหรับผู้ใช้วินโดวส์ การเปิดหน้าต่างใหม่จะเร็วขึ้น 10% และบนวินโดวส์มีการใช้ DirectComposition สำหรับการถอดรหัสวิดีโอด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งจะปรับปรุงการใช้งาน CPU และ GPU ขณะเล่นวิดีโอ ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น

เกือบสิ้นหวังกับ Firefox แล้ว เพราะตอนเบต้าเห็นมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มอย่างเดียว แล้วเป็นอะไรที่แบบ ใคร ๆ เขาก็มีกันอะนะ แต่พอออกตัวจริง มันไม่ใช่!

เดิมทีเอ็นทรี่นี้เกือบได้เป็นเอ็นทรี่ความทรงจำของปีที่แล้ว แต่เพราะปีก่อน จู่ ๆ ก็บ้า Final Fantasy ขึ้นมา ซะก่อน เลยลัดคิวกันไป ซึ่งก็ดีแล้วเพราะมันทำให้มีเพิ่มอีกเกมนึง😆 (ส่วนไฟนอลก็โชคร้ายไป เพราะหลังจากเขียนปีก่อนผมก็ได้เล่นเพิ่มอีก 2 ภาค😑) ก่อนอื่นเลยต้องขอเบรคความหวังไว้ตรงนี้ก่อน คือถ้าใครคิดว่ากำลังได้อ่านบทความจากแฟน Diablo ชั้นเซียน เล่นจบเป็นสิบเป็นร้อยรอบ มี build เทพ ๆ มาแนะนำมากมาย ให้หยุดหวังไว้เลย คือผมเป็นคนชอบเกม RPG มากก็จริง แต่ใครที่อ่านตอน FF มาก็คงพอทราบว่าผมเล่นเกม RPG ไม่ค่อยจบ หมดความอดทนเร็วมาก 😅 กับเกมแนว Diablo ก็เหมือนกัน ถ้าเล่นจบผมมักจะเล่นจบแค่คลาสเดียว แล้วพอเล่นคลาสอื่นก็จะไปเบื่อกลางทางแล้วเปลี่ยนเล่นคลาสใหม่ build ใหม่เรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไม่จบอีกเลย เป็นงี้ประจำ😁 และที่เรียกว่า "เกมแนว Diablo" แทนที่จะเรียกว่า Hack and Slash เพราะ Hack and Slash หลัง ๆ ถูกเอาไปเรียกเกมแนวฟันแหลกชนิดอื่นด้วย และถึงจะเพิ่มเป็น Hack and Slash RPG ก็มีหลายเกมที่มีความเป็น RPG ด้วย แต่ก็ไม่ใช่แนว Diablo อยู่ดี ซึ่งคุณสมบั

  โลโก้ 8 ปีก็สไตล์คล้าย ๆ Edge Chromium นิดนึงล่ะนะ แล้วไม่ต้องไปหาว่าเลข 8 นี่มาจากฟอนต์ไหน เพราะใช้ Free Hand Tools ของ Inkscape (ที่มีระบบช่วยปรับเส้นให้โค้งสวยคม😅) วาดขึ้นมาเอง ส่วนเงานั่นถ้ามันผิด Perspective ก็ขออภัย ไม่ได้ใช้นานหาเครื่องมือ FreeForm ไม่เจอ😆 สำหรับคนที่มาใหม่ (แต่คิดว่าคงไม่มีมั้ง) อาจจะงงว่านี่มันอะไรกัน แค่บล็อกครบ 8 ปีก็เอามาเขียนรึ ก็เขียนงี้ทุกปีแหละ หลัก ๆ ก็มาสรุปว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงที่บล็อกนี้บ้าง และเพราะเขียนที่ Blogger ก็เลยผนวกการเปลี่ยนแปลงที่ Blogger ไปด้วยเลย อืม.. มันมีสาระนะ😅 เอาละ ไปดูกันเถอะว่า 1 ปีที่ผ่านมามีอะไรบ้าง...       ทำไมโฆษณาเยอะขึ้น? เรื่องมันเกิดหลังจาก เอ็นทรี่ครบรอบ 7 ปี ล่ะมั้ง (แต่ทำไมรู้สึกว่านานกว่านั้นนะ อ้อ ปีนี้อะไร ๆ มันทำให้การรับรู้เวลาผิดเพี้ยนนิดนึง) คือ ขณะกำลังเช็คเอ็นทรี่ที่เพิ่งอัพ จู่ ๆ ผมก็พบว่ามีโฆษณาแทรกอยู่ในบทความซะงั้น! ตอนแรกนึกว่าเบราว์เซอร์ติดมัลแวร์ซะแล้ว ก็ลองไปเปิดดูในมือถือ ปรากฏว่ายิ่งหนักกว่าเก่า เพราะนอกจากจะแทรกในบทความแล้ว ยังมีแบบแถบลอยบนล่างอีก (มันจะเลือกบนหรือล่างของมันเองอย่างใดอย่างหนึ

หลังจากปล่อยให้ RPG Maker MV แทบไม่มีอัพเดตอะไรใหม่ ๆ เลยเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ 11 มิถุนายน 2020 เขาก็ประกาศเปิดตัว RPG Maker MZ นี่ออกมาหลังจากมีข่าวลือเพียงไม่กี่วัน และไม่ต้องรอนานเป็นปี ไม่ต้องมาเสียเวลาเป็น early access เพราะเขาประกาศวางจำหน่ายทันทีในวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา และยังมีโปรโมชั่นสำหรับคนพรีออเดอร์แบบน่าดึงดูดสุด ๆ เพราะนอกจากจะลด 10% แล้ว ใครที่มี RPG Maker MV อยู่ยังได้ส่วนลด 10% เพิ่มอีก ด้วยราคาเปิดตัวในไทยแค่ 949 บาท (ถูกกว่า VX Ace อีกนะ) พอได้ส่วนลด 20% ก็เหลือแค่ราว ๆ 760 บาทเท่านั้น ซ้ำยังได้ DLC ฟรี 2 ตัว และ RPG Maker MV อีกชุดไว้แจกเพื่อนอีกต่างหาก (ใช่ ผมก็ได้มาและยังไม่ได้แจกใครนะ😁) ก็เรียกว่าถูกและคุ้มกว่าตอนซื้อ RMMV เยอะ (ตอนซื้อ RMMV นี่ขนาดรอลดราคาผมยังซื้อมาตั้ง 900 กว่า😂) โปรของแถมน่าจะหมดไปแล้ว แต่โปรลดราคาน่าจะหมดวันที่ 28 สิงหา แต่ใครไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะอีกหน่อยมันก็ลดถูกกว่านี้แน่นอน😀 ส่วนใครอยากลองก่อนตัดสินใจก็มีตัวทดลองใช้ 30 วันให้โหลดที่  https://www.rpgmakerweb.com/free-trials

ก็มาพบกันปีละครั้งกว่า ๆ อีกแล้ว กับเอ็นทรี่สนทนาภาษาโครม จริง ๆ เมื่อต้นปีก็ว่าจะเขียนไปทีนึงแล้ว แต่สุดท้ายก็ยกเลิกไปก่อน ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว เพราะมาตอนนี้มันมีอะไรให้เขียนเพียบกว่าเดิมเยอะ😀 ปีนี้ก็เป็นปีที่ทำเอาการพัฒนาเบราว์เซอร์หลายเจ้าล่าช้าไปเล็กน้อยเนื่องจากโควิด ด้านโครมก็ถึงกับต้องข้ามเวอร์ชัน 82 ไปแล้วโผล่อีกที 83 เลย ระหว่างนั้นยังมาเจอปัญหากับการอัพเดตวินโดวส์ 10 ซ้ำด้วยการพบมัลแวร์ในส่วนขยายหลายสิบตัว จนมาวันนี้ก็มาถึงโครม 85 แล้ว ก็เป็นอีกครั้งที่ทางกูเกิลเปิดเผยฟีเจอร์แบบออกนอกหน้า (จากแต่ก่อนเงียบ ๆ ปล่อยชาวบ้านทำข่าวกันไปเอง😀) อย่างแรกคือโหลดแท็บเร็วขึ้นกว่าเดิม 10% และอีกฟีเจอร์นึงที่หวือหวาเกินความเป็นโครมไม่เบา นั่นคือ Tab Group จัดกลุ่มแท็บได้แล้ว (ซะที) ฟีเจอร์จัดกลุ่มแท็บไม่ใช่ของใหม่ ถ้าใครจำได้มันเคยมีใน IE ตั้งแต่สมัย IE7 มั้ง ที่เราสามารถจัดแท็บที่เกี่ยวข้องกันมาอยู่กลุ่มเดียวกันแล้วมีแท็บสีเดียวกันได้ ต่อมาใน Firefox สักเวอร์ชัน ก็มีการจัดกลุ่มแท็บแบบหวือหวามาก คือเหมือนจัดการหน้าเดสก์ท็อปยังไงอย่างงั้น แต่สุดท้ายก็เอาออกไปแล้ว และยังมีใน Opera ด้วย สำหรับกา

ช่วงระยะเวลาระหว่างรอการออกของ Firefox 80 นั้น มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับ Mozila นั่นคือ การเลย์ออฟพนักงาน 250 คน หรือคิดเป็น 25% ของทีมงานทั้งหมด (คือทั้งหมดมี 1000 คนนั่นแหละ) และมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายในการพัฒนากันใหม่ และเพราะเหตุที่ว่าล่ะมั้ง ทำให้หน้า Release Notes ของ Firefox 80 Beta ว่างเปล่ามาตลอดจนถึงวันที่ตัว Stable ออก และพอตัว Stable ออก ก็พบฟีเจอร์เด่นฟีเจอร์เดียวคือ สามารถตั้ง Firefox เป็นตัวอ่าน PDF ตั้งต้นของระบบได้แล้ว (ปกติในวินโดวส์ 10 หน้าที่นี้เป็นของ Edge😀) หรือก็คือสามารถตั้งให้ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ PDF แล้วเปิด Firefox ขึ้นมาอ่านได้ จบข่าว อื่น ๆ อ่านได้ที่ Release Notes และ Firefox 80 ตั้งค่าเป็นตัวอ่าน PDF ในเครื่องได้ โดย Mozilla Thailand Community     ครั้งต่อไป 22 กันยายน 2563

เราจะมากันสั้น ๆ สั้นจริง ๆ เลย เปิดใช้ WebRender เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้วินโดวส์ที่ใช้จีพียูของ AMD และ Intel ทำให้ประสิทธิภาพกราฟิกดีขึ้น ผู้ใช้ Firefox ในเยอรมันจะได้เห็น Pocket Recommendations ในหน้าแท็บใหม่แล้ว เพิ่มเติมอ่านที่ Release Notes และ Firefox 79 WebRender บนจีพียู AMD โดย Mozilla Thailand Community ก็.. ใครใช้จีพียู Nvidia และไม่ได้อยู่เยอรมัน ก็ไม่ได้อะไรเลยกับการอัพเดตคราวนี้😅 จริง ๆ เขาก็มีการแก้บั๊กเกี่ยวกับ Screen Reader และ SVG นิดหน่อยแหละ เจอกันอีกที 25 สิงหาคม 2563

จริง ๆ เอ็นทรี่นี้เราต้องพบกันเดือนที่แล้ว หรือเดือนเดียวกับรุ่น 77 นั่นแหละ แต่รอเท่าไหร่มันก็ไม่ขึ้นอัพเดตซะที ผมเลยอู้ เอ้ย รอจนเช้า ถ้าอัพเดตยังไม่มาก็จะโหลดมาติดตั้งทับละ สุดท้ายก็ต้องโหลดมาติดตั้งทับนั่นแหละ 😅 เว็บเพื่อนบ้านเขาเขียนลงข่าวไปหมดแล้ว แล้วเราจะช้ากันทำไมอีก ไปเลยสิ เพิ่มการจับตาข้อมูลรั่วไหลในแดชบอร์ดการป้องกัน เดิมทีไอ้เจ้าแดชบอร์ดการป้องกันนี่ จะใช้ชื่อทื่อ ๆ ว่า "การปกป้องความเป็นส่วนตัว" แต่รุ่นนี้ก็เปลี่ยนชื่อเป็น "แดชบอร์ดการป้องกัน" หรือ Protections Dashboard เรียบร้อย ซึ่งสามารถเข้าได้ง่าย ๆ แค่กดเมนู 3 ขีดก็จะเจออยู่บน ๆ เลย นอกจากเปลี่ยนชื่อแล้ว ยังปรับปรุงการแสดงผลของส่วนการเฝ้าระวังการละเมิดข้อมูล หรือส่วนของ Firefox Monitor ให้แสดงข้อมูลมากขึ้น โดยจะแสดงให้เห็นจะ ๆ ไปเลยว่ารั่วกี่จุด (แต่ในภาพไม่ต้องห่วง ผมตามไปแก้หมดแล้ว ซึ่งเมื่อแก้แล้วเราต้องไปมาร์คว่าแก้แล้วเองด้วยนะ) และสามารถคลิกเข้าไปดูได้เลย  อ้อ แต่จะใช้ส่วนนี้ได้เราต้องล็อกอินเข้าไปก่อนนะ ล้าง Firefox ใหม่แทนการ Uninstall หลายครั้งที่ผู้คนมีปัญหากับ Firefox ก็มักจะเลือก Uni

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ฟีเจอร์ใหม่น้อยจนไม่รู้จะตั้งชื่อว่าอะไร 😅 ถึงแม้เลขเวอร์ชันจะสวย ดูนำโชค ดูแล้วนึกถึงจังหวัดของไทย แต่ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาคราวนี้ไม่ได้สวยตามเท่าไหร่ มันน้อยนิดเสียเหลือเกิน แถม 1 ในนั้นเปิดใช้เฉพาะ UK และถึงจะเปิดใช้ได้แต่ก็ไม่น่าสนใจอยู่ดี 😑 ความเปลี่ยนแปลงคราวนี้ เพิ่ม Pocket Recommendations สำหรับผู้ใช้ใน UK  ก็เป็นการเอาข่าวและเรื่องราวที่น่าสนใจจาก Pocket (บริการเก็บเว็บไว้อ่านทีหลังที่ Mozilla ซื้อมา) มาแสดงในหน้าแท็บใหม่ แค่นั้นเอง คล้าย ๆ กับข่าวในโครมบนมือถือ หรือ MS Edge นั่นแหละ (ช่วงนึงถ้าใครติดส่วนขยาย Pocket ในโครมเวอร์ชัน Desktop มันก็จะขึ้นมาเหมือนกัน) เปิดใช้ WebRender สำหรับผู้ใช้วินโดวส์เพิ่มเติม โดยจะเริ่มเปิดให้โน้ตบุ็ควินโดวส์ 10 ที่ใช้การ์ดจอ Nvidia ที่ความละเอียดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3440×1440 และมากกว่า สามารถดูและจัดการใบรับรองดิจิทัลได้ทาง about:certificate แต่ตอนนี้สภาพเป็นดังภาพข้างล่าง... อือ... ขาวโล่งแบบนี้เลย เอาการตั้งค่า browser.urlbar.oneOffSearches ออกไปแล้ว โดยปกติถ้าค่านี้เป็น false ก็จะเป็นการปิดปุ่มค้นหาของบริการต่าง

ย้อนกลับไปตอน Windows 10 Ver.1903 ยังไม่ทันปิดจ็อบดี จู่ ๆ ไมโครซอฟท์ก็เริ่มสายพัฒนา Windows 10 รหัส 20H1 ซึ่งเป็นอัพเดตแรกของปี 2020 นี้ทันที โดยไม่ดูดำดูดีอัพเดตถัดไปในอีกครึ่งปีอย่าง 1909 เลย (กว่า 1909 จะเริ่มพัฒนา ก็หลังจากปล่อย 1903 แล้วเป็นเดือนนู่น) โดยตอนนั้นไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าเพราะเวอร์ชันนี้ต้องการการทดสอบเป็นระยะเวลานานกว่าปกติ ได้ยินแบบนี้ก็คิดไว้เลยว่ามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่แน่ ๆ 😆 แต่เอาเข้าจริง ๆ ถ้าเทียบกับอัพเดตใหญ่ที่ผ่าน ๆ มา (1909 ไม่นับนะ อันนั้นมันเล็ก) ดูเวอร์ชันนี้ไม่ค่อยมีฟีเจอร์อะไรเด่น ๆ เท่าไหร่ ยิ่งเทียบกับ 1903 ที่แทบจะเปลี่ยนหน้าตาวินโดวส์ไปเลย (จากธีมสีขาว) มันยิ่งเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ที่เป็นแบบนี้เพราะฟีเจอร์ที่พัฒนาตามรายทางตลอด 1 ปี มันก็ค่อย ๆ แบ่งมาเป็นฟีเจอร์ของ 1909 บ้าง ปล่อยอัพเดตผ่านแอพบ้าง หรือแม้แต่ปล่อยให้โหลดกันได้ก่อน (Edge Chromium ไง) แม้จะเหลือของใหม่แกะกล่องไม่เยอะ แต่หลัก ๆ แล้วความเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชันนี้ก็ถือว่าโอเคทีเดียว มันช่วยให้คุณภาพชีวิตของเราบนวินโดวส์ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้านเลยน

วันนี้มาสั้น ๆ แบบไม่มีภาพละกัน เพราะอะไรเดี๋ยวบอก มีแค่ภาพขาประจำนี่แหละ หมดแล้ว ทั้งเอ็นทรี่ไม่มีภาพเพิ่มแล้ว 😅 ปรับปรุงเข้มเรื่องรหัสผ่าน รุ่นนี้ก็เน้นไปที่การปรับปรุงส่วนของ Lockwise ที่ใช้จัดการข้อมูลล็อคอินและรหัสผ่านเต็มที่ เริ่มจากการผนวกฟีเจอร์ของ Firefox Monitor ที่เป็นบริการแจ้งเตือนเมื่อบริการใด ๆ มีข้อมูลรั่วไหลมาใส่ไว้ในตัวเลย แล้วยังปรับปรุงให้การปกป้องแอคเคาท์เข้มแข็งยิ่งขึ้น ดังนี้ ถ้าเจอแอคเคาท์ของเว็บไหนตรงกับเว็บที่เพิ่งทำ (หรือมีคนทำ) ข้อมูลรั่วไหล ก็จะเตือนให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที ถ้าพบว่ามีแอคเคาท์ของเว็บอื่นดันใช้รหัสผ่านเหมือนกับเว็บที่เพิ่งทำข้อมูลรั่วไปในข้อตะกี้ ก็จะแจ้งเตือนให้เปลี่ยนด้วยเช่นกัน ช่วยสร้างรหัสผ่านที่เดาได้ยาก (แม้แต่ตัวเราเอง😅) ให้โดยอัตโนมัติเมื่อสมัครแอคเคาท์ใหม่ และแน่นอน จะช่วยจำไว้ให้ด้วย (เพราะเราจำไม่ได้หรอก) ถ้าคุณไม่ได้ตั้งรหัสผ่านหลัก (Master Password) ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ด้วยกัน (ห้องพัก บ้าน ที่ทำงาน อะไรงี้) แอบดูระหว่างลุกไปเข้าห้องน้ำ ในรุ่นนี้ Firefox จะใช้การล็อกอินของระบบปฏิบัติการในการป้องกันกา

ก็มาพบกันทุกเกือบ ๆ เดือนกับการอัพเดต Firefox ซึ่งแม้ว่าจะมีอุปสรรคในการทำงานเนื่องจากโควิด แต่ทีมพัฒนาเขาก็ยังมุ่งมั่นจะออกรุ่นใหม่ตามกำหนดเดิมต่อไป โดยจะใช้วิธีลดฟีเจอร์ที่จะให้มีในแต่ละรุ่นลงแทน แถบที่อยู่ปรับปรุงใหม่เล็กน้อยแต่ชัดเจน หัวใจหลักอย่างนึงของเว็บเบราว์เซอร์คงจะไม่พ้นแถบที่อยู่นี่แหละ เพราะมันทำให้เราเข้าเว็บอะไรก็ได้ตามใจชอบ (ถ้าไม่ถูกบล็อคหรือล่มซะก่อน😅) แถมยังใช้พิมพ์คำค้นหาเพื่อส่งต่อไปยัง search engine ได้อีกต่างหาก  และที่ผ่านมา Firefox ก็ปรับปรุงแถบที่อยู่ทีละนิดละหน่อยแต่ก็ไม่บ่อยนัก หลายครั้งดูไม่ค่อยออกว่าเปลี่ยนไปแล้วแต่ก็พอรู้สึกได้ว่าเปลี่ยน จุดเปลี่ยนแรกคือเมื่อคุณคลิกที่แถบที่อยู่แต่ยังไม่ได้พิมพ์อะไร Firefox ก็จะขึ้นรายชื่อเว็บที่เข้าบ่อยมาให้ทันที อย่าถามว่าลบบางรายการได้มั้ย เพราะยังหาวิธีลบตรง ๆ ไม่ได้นะ😅 แต่เท่าที่ดูลำดับมันเหมือนไซต์เด่นในหน้าแท็บใหม่เลย ก็ลองไปลบตรงนั้นดูนะ เมื่อพิมพ์คีย์เวิร์ดเข้าไป ก็จะมีการแนะนำเว็บไซต์ตามประวัติการเข้าชมและแนะนำคีย์เวิร์ดตามปกติ ดูเผิน ๆ จะเหมือนเดิม แต่ถ้าใช้ไปเรื่อย ๆ จะพบว่ามันไม่เหมือนเดิม

ก็พบกันประมาณเดือนละครั้ง แม้ครั้งนี้จะยังไม่ครบ 1 เดือนดี แถมเดือนที่แล้ววันมันน้อยกว่าเดือนอื่นอีก ก็เจอกันเร็วมาก ๆ งั้นเราจะไม่เวิ่นเว้อ ไปกันเร็ว ๆ ให้มันจบ ๆ ไป จะไปเล่นเกมแล้ว 😀 นำเข้าที่คั่นหน้าและประวัติการท่องเว็บจาก Edge Chromium ได้แล้ว บางคนอาจงง เอ๊ะ ไหนข้างบนโน่นบอกว่านำเข้าข้อมูลจากไอ้ Edgium อะไรนั่นไม่ใช่เหรอ แล้ว Edge Chromium มาเกี่ยวไรตรงนี้?  ก็ไอ้ Edgium นี่แหละเป็นชื่อย่อที่เขาใช้เรียก Edge Chromium กัน (มาจาก EDG e chrom IUM ไง) แล้วผมรู้จักชื่อนี้ครั้งแรกก็จาก Release Notes ของ Firefox 74 Beta นี่แหละ ซึ่งพอเป็นตัว Stable ดันเรียกเต็มยศว่า "new Microsoft Edge" ซะงั้น ซึ่งการนำเข้าข้อมูลจากเบราว์เซอร์อื่นของ Firefox นี่ ก็ต้องเปิดหน้าต่างห้องสมุดขึ้นมาก่อน โดยกด Ctrl+Shift+B พอขึ้นมาแล้วก็กดที่เมนู นำเข้าและสำรองข้อมูล > นำเข้าข้อมูลจากเบราว์เซอร์อื่น... มันก็จะมีรายชื่อเบราว์เซอร์ให้เลือกดังภาพข้างบน ใครย้ายไปอยากย้ายกลับก็ตามสบาย ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ตัวจัดการการเข้าสู่ระบบและรหัสผ่าน (Lockwise) เพิ่มตัวเลือกการเรียงชื่อย

ก็มาพบกันกับอัพเดตที่ 2 ของปีกันแล้ว สำหรับปีนี้ Firefox ก็จะมาถี่กว่าเดิมเหมือนเหตุการณ์บ้านเมืองปีนี้แหละนะ ไม่รู้จะรีบไปไหนกัน ตั้งค่าซูมเริ่มต้นสำหรับทุกเว็บได้แล้ว ตามปกติ Firefox จะจำค่าการซูมเป็นรายเว็บไป ทำให้หลายคนที่ใช้จอความละเอียดสูงแต่ขนาดไม่ใหญ่ตาม และไม่อยากใช้ Scaling ของระบบปฏิบัติการเพราะฟอนต์มันแปลก ๆ หรือภาพมันเบลอ ๆ ต้องเสียเวลามานั่งปรับขนาดทีละเว็บ  ต่อไปนี้ไม่ต้องลำบากแล้ว เพราะสามารถตั้งค่าซูมเริ่มต้นสำหรับทุกเว็บได้เลย หนทางเข้าไปปรับก็แค่ ตัวเลือก > ทั่วไป มองหาหัวข้อย่อย "ซูม" ภายใต้หัวข้อใหญ่ "ภาษาและลักษณะที่ปรากฏ" แล้วก็นั่นแหละ ปรับที่ "ซูมเริ่มต้น" ได้เลย โดยจะมีให้เลือกกา "ซูมข้อความเท่านั้น" ด้วย หลังจากปรับแล้ว ถ้าไปปรับขนาดเว็บไหนมันก็ยังคงจำค่าของเว็บนั้นแยกให้เหมือนเดิม ไม่ต้องห่วง ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เมื่อใช้ High contrast mode ของวินโดวส์ จากเดิม Firefox จะปิดภาพพื้นหลังทิ้งไปเลย  แต่ในรุ่นนี้จะใส่กรอบเป็นพื้นหลังของข้อความแทน ทำให้ไม่ต้องปิดภาพพื้นหลังแล้ว ปรับปรุงคุณภาพเสียง

หลังจากปล่อยให้ผู้ใช้มองเป็นแค่ทางผ่านไปโหลด Chrome มานาน บางคนก็เอาไว้แค่เปิด PDF (เดี๋ยวนี้ไม่ต้องโหลด Adobe Reader แล้วนะ ถ้าไม่ต้องใช้ฟีเจอร์พิเศษอะไร) ในที่สุดเมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์ก็ประกาศข่าวช็อคโลกนั่นคือ "ต่อไป Edge จะพัฒนาโดยใช้ Chromium เป็นพื้นฐาน" ไอ้เจ้า Chromium นี่ก็คือเวอร์ชัน Open-source ของ Chrome นั่นเอง (คือจะตัดฟีเจอร์ของโครมส่วนที่เขาไม่อยากเปิดเผยโค้ดออกไปน่ะนะ) และหลายปีมานี่ซอร์สโค้ดของ Chromium ก็ถูกเอาไปพัฒนาเบราว์เซอร์ตัวอื่น ๆ มากมาย ไม่ว่าจะ Opera ใหม่  Vivaldi และ Brave แถมมัลแวร์บางตัวยังเนียนเอาไปใช้อีก (ทำเอาชื่อ Chromium เสียไปเลย ถ้าคนที่โดนเข้าไม่รู้จัก Chromium มาก่อน) และในที่สุดไมโครซอฟท์ก็เอาด้วย โดยให้เหตุผลว่า เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของมาตรฐานเว็บ อืม... เหมือนมาใช้กรรมเก่า😅

ก็พบกันเป็นครั้งแรกของปีกับเอ็นทรี่แจ้งอัพเดต Firefox ที่ปีนี้น่าจะพบกันบ่อยขึ้น เพราะเขาจะออกอัพเดตกันทุกเดือนกันเลยเชียว 😂  ยังไงถ้าของเดือนไหนมันไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่าง ผมอาจจะแค่แจ้งสั้น ๆ ทางเฟซบุ็คกับทวิตเตอร์แทนนะ ของดี คำขออนุญาตแจ้งเตือนจะไม่มากวนคุณอีกต่อไป คำขออนุญาตแจ้งเตือนก็คือ ไอ้ที่เวลาเราเข้าเว็บที่มีบริการส่งแจ้งเตือนข่าวสารใหม่ ๆ มันจะเด้งมาถามแบบนี้ (ขออภัยเว็บ Akibatan ผมหาเว็บที่มันขึ้นงี้มาเป็นแบบไม่ได้จริง ๆ 😆) งั้นที่บอกว่าต่อไปจะไม่มากวนอีกต่อไป หมายความว่า Firefox จะบล็อคทิ้งหมดเลยเหรอ?  เปล่าหรอก ก็แค่... มันจะไม่ขึ้นกรอบแบบภาพก่อนหน้าแล้ว แต่จะขึ้นเป็นไอคอนรูปช่องคำพูดดุ๊กดิ๊กแบบนี้แทน ถ้าคลิกที่ไอคอนนี้ถึงจะโชว์กรอบขออนุญาตแบบภาพบนนู้นอีกที แต่ถ้าแม้แต่ไอคอนดุ๊กดิ๊กก็น่ารำคาญ อยากจะบล็อคคำขอไปให้หมดเลยจริง ๆ ก็ทำได้ โดยเข้าไปที่ ตัวเลือก > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย แล้วที่หัวข้อ สิทธิอนุญาต ให้กดปุ่ม การตั้งค่า... ที่อยู่หลัง การแจ้งเตือน (หวังว่าจะไปถูกนะ 😅) จะเจอหน้าต่างดังภาพ ก็กาที่ ปิดกั้นคำขอใหม่ที่ขออนุญาตการแจ้งเ

ดูเหมือนเอ็นทรี่ตั้งเป้าหมายปีใหม่มันจะห่างจากวันปีใหม่ไปเรื่อย ๆ ทุกปีเลยแฮะ😅 ปีนี้ก็มาช้าเพราะรู้สึกหมดเทศกาลปีใหม่เร็วเกิ๊น 3 วันเขาก็ไม่ถือว่าสวัสดีปีใหม่กันแล้ว เอาเหอะการ์ดก็ทำ ๆ มาแล้ว แปะ ๆ ไปละกัน อือ เป็นปีที่หวังว่าหนูจะหมด ๆ ไปจากชีวิตซะที หลังจากปีที่แล้วหนูบุกหนักมาก ตอนแรกทำใจวาดหนูไม่ลงจะวาดแฮมสเตอร์แทน แต่พอเติมลายสีเทาไป เออ เทาทั้งตัวเลยก็ได้ฟระ ก็เลยกลายเป็นหนูนี่แหละ...  เออ ไปเถอะ จะได้จบเอ็นทรี่ไว ๆ ความตั้งใจ เปลี่ยน Avatar ใหม่ - อือ ใช้มานานหลายปีแล้ว มันควรจะเปลี่ยนได้แล้วละ เอาง่าย ๆ นี่แหละ   ซื้อเกมใหม่ให้น้อยลง งัดเกมเก่ามาเล่นให้มากขึ้น - ปีที่แล้วเรียกว่าจัดหนักไปหลายเกม ส่วนใหญ่เป็นเกมใหญ่ ๆ ที่เล็งไว้นานแล้ว แล้วมันดันมีร้านเอามาขายถูกแบบไม่มีมาก่อนไง แล้วเป็นไง? ซื้อมาแทบไม่ได้เล่นเลย Diablo III ก็พลาดไป 2 season ละ ต้องพยายามกลับไปทำให้เกมเก่ารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าขึ้น   ซื้อการ์ดจอใหม่ - แต่ก่อนผมก็มีความสุขกับ GPU ใน CPU เดิม ๆ ดีอยู่ เพราะใช้จอ 1360*768 ซึ่งเกมส่วนใหญ่ที่มีรันได้ลื่น ๆ ที่ความละเอียดนี้ จนปีก่อนเปลี่ยนเป็นจอ 192