แล้วแม่ผมก็ได้ใช้ Lumia 435

ในที่สุดบ้านผมก็ได้ต้อนรับ Lumia เครื่องที่ 3 ซึ่งคราวนี้ก็ตามที่พาดหัว เป็นเครื่องของแม่ผมนั่นเอง สรุปว่าตอนนี้เป็นครอบครัว Lumia กันเรียบร้อย

เอ็นทรี่วันนี้ก็จะทำให้คุณได้รู้ว่า ไอ้เจ้า Lumia ที่ราคา (เกือบ) ถูกที่สุดนี้ มันเหลืออะไรไว้ให้ใช้ได้บ้าง แล้วเมื่อแม่ผมได้ใช้สมาร์ทโฟนครั้งแรก จะเกิดอะไรขึ้น?

ทำไมเลือก Lumia ให้แม่ล่ะ? ใช้ยากออก

นั่นเป็นมุมมองของที่คุ้นเคยกับการใช้ Android และ iOS มาก่อนครับ ก่อนหน้านี้ผมกับพี่ที่ใช้สมาร์ทโฟนเครื่องแรกเป็น Lumia ก็มีโอกาสได้สัมผัสแอนดรอยด์เครื่องแรกของบ้าน (Zenfone 4.5 พี่เอามาเป็นเครื่องสำรอง จริง ๆ กะเอามาเล่น Line แบบเต็ม ๆ กับเขาน่ะแหละ) แว้บแรกก็คิดตรงกับคนที่ใช้แอนดรอยด์แล้วมาเจอ Lumia เลย คือ... "ใช้ยากมาก หาการตั้งค่าอะไรก็ไม่ค่อยเจอ" และยังรู้สึกว่าอะไรต่อมิอะไรมันเต็มจอไปหมด ต้องใช้เวลาคลุกคลีพักใหญ่ ๆ ถึงจะชิน แต่ก็รู้สึกว่าอะไร ๆ มัน "เยอะ" อยู่ดี

สุดท้ายก็คิดกันว่าให้แม่ใช้ Lumia ดีกว่าเพราะ...

1. โอเค ใช้มา 2 ปียังไม่พัง ถือว่าทนใช้ได้
2. การหาคลื่น หา Wi-Fi เสียงการโทร โอเคไม่มีปัญหา
3. กล้องใช้ง่าย
4. กลัวแม่ไปแตะโดน SMS แล้วโหลดอะไรไม่พึงประสงค์มาลงเครื่อง

ตอนแรกก็กะเลือก Lumia 535 ให้แม่ เพราะอะไร ๆ มันครบไปหมด กล้องหน้า/หลัง 5 MP มีแฟลช สเป็คก็ลื่นแหละสำหรับ Windows Phone  จนมาติดตรงปัญหาจอตอบสนองช้า (ที่ตอนนี้ออกอัพเดตมาแก้แล้ว 2 - 3 รอบ) ก็เลยรอดูไปก่อน แล้วในที่สุด 435 กับ 532 ก็โผล่มา... หลังจากศึกษาข้อมูลแล้ว เอา 435 ดีกว่า ทำไมน่ะเหรอ? อ่านต่อไป...

วันที่ไปซื้อ

เนื่องจากมือถือเก่าของแม่มาได้สุดทางแล้ว ชาร์จแบตไม่เข้าอีกต่อไป จึงมามัวรออะไรไม่ได้ไม่งั้นแม่ไม่มีมือถือใช้ ก็เลยไปซื้อวันที่ห้าง C ใหญ่มีมหกรรมลดบ้าช่วงสิ้นเดือนพอดี เหมือนพนักงานจะวุ่นวายกันนิดหน่อย ก็ไปซื้อที่แผนกมือถือในตัวบิ๊กซีเลย (ซึ่งไม่แนะนำครับ) ไปก็เจอพนักงานสาวแว่นซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนัก... 

ตอนแรกถามว่า 435 นี่มีสีอะไรบ้าง? พนักงานก็ตอบว่า "เหลือแต่ขาวกับดำ" ผมงี้เซ็งเลย อยากให้แม่ใช้มือถือสีสวย ๆ แต่ก็ตกลงเอาสีขาวไป... พนักงานก็วิ่งหายไปพักใหญ่มาก กลับมาก็พบว่า... มันเหลือแต่สีเขียวกับส้มตะหาก สุดท้ายก็ได้สีส้มมา

หลังจากตกลงซื้อแล้ว พอขอเช็คเครื่อง (ย้ำว่าขอเช็คเครื่อง) พนักงานก็อาสาใส่ซิมให้ จากนั้นก็ดูเหมือนจะพยายามเช็คเครื่องให้เอง... ใช้เวลานานมาก ๆ จนในที่สุดก็บอกว่าพอแล้ว เดี๋ยวไปจัดการเองที่บ้าน พอได้เครื่องมาถึงได้รู้ว่าพนักงานพยายาม Setup ขั้นต้นให้ ซึ่งมันจะมีขั้นตอนที่ถามว่าจะเชื่อมต่อเน็ตทางไหน แน่นอนว่าโดนเลือกแบบผ่านเครือข่ายมือถือไป  ซิมแม่ผมไม่มีโปรเกี่ยวกับเน็ต จึงเสียค่า Data ไปตามเวลาที่ยืนคอยพนักงานคนนั้นนั่นแหละ!!

เอากลับมาบ้านก็ไม่ทำอะไร Hard Reset ก่อนเป็นอันดับแรก...

435 กับ 532 และ 535 ?

เมื่อก่อนถ้าใครมาบอกว่าเลขรุ่นของ Lumia ดูแล้วงงชะมัด ผมคงเถียงตาย  แต่เดี๋ยวนี้คงต้องบอกว่า เออ งงเหมือนกัน! เพราะตั้งแต่ไมโครซอฟท์งาบ Nokia ไปนี่ เลขรุ่นดูมั่วซั่วมาก โดยเฉพาะรุ่นล่าง ๆ ที่ซอยรุ่นย่อย ๆ มากมาย แถมบางทีเลขข้างหน้าเหมือนกันแต่ดันไม่ใช่รุ่นในระดับเดียวกันอีกต่างหาก งงนะเนี่ย!

ไอ้รุ่นที่ชวนให้คนสับสนอลหม่านที่สุดคงหนีไม่พ้น 532 กับ 535 ที่เลขรุ่นใกล้กันมาก แต่ดันจับตลาดคนละระดับ เอาง่าย ๆ คือ 535 เน้นที่ระดับล่างสุดของ Lumia เดิม ส่วน 532 กับ 435 จะไปแทนที่ตลาดเดิมของ Asha กับ Nokia X  สรุปคือไมโครซอฟท์ตัดตอนตระกูล Asha กับ Nokia X เรียบร้อย โดยเอา Lumia ระดับโคตรล่างนี่มาแทนละครับ

แล้ว 435 กับ 532 มันต่างกันยังไงล่ะ?  435 กับ 532 คลอดออกมาพร้อม ๆ กัน จับตลาดเดียวกัน สเป็คก็แทบจะเหมือนกัน ต่างกันแค่

• 532 จะใช้ CPU Quad core ส่วน 435 จะเป็น Dual core
• กล้องหลัง 532 จะละเอียด 5 MP แต่ 435 จะเหลือแค่ 2 MP เป็น Fix Focus ทั้งคู่
• ฝาหลังของ 435 จะเป็นผิวด้านทั้งฝา แต่ 532 จะด้านเฉพาะด้านหลังส่วนขอบจะมันวาว
• 532 จะเครื่องใหญ่กว่า หนากว่า หนักกว่า นิดนึง
• 532 ราคา 35xx ส่วน 435 ราคา 29xx
• แบต 1560 mAh เท่ากัน ความละเอียด ขนาด เทคโนโลยีจอ แรม เท่ากันหมด!!

ถ้าถามว่าเลือก 435 หรือ 532 ดี ก็บอกได้แค่ "แล้วแต่งบ" กรณีของผมคือ ตอนนั้นแม่อยากได้รุ่นถูกที่สุด ก็เลยเอา 435 ไป แล้ว 532 นี่กัดฟันอีก 1000 บาทก็ได้ 535 ที่ได้กล้องในระดับที่สูงขึ้นกว่ากันมาก  ดังนั้นไหน ๆ จะเอารุ่นถูกแล้ว ก็เอาถูกสุดไปเลย

ล่าสุด ไมโครซอฟท์เห็นว่ายังมึนกันไม่พอ เลยปล่อย 430 ที่ถูกกว่ามาอีก แต่เพราะช่วงนี้รุ่นล่าง ๆ ออกมาถี่เกินมั้ง เลยไม่มีใครพูดถึงมันเลย ที่แน่ ๆ คือมันด๋อยกว่า 435 แน่ ๆ ละ ดู ๆ แล้วแบตจะน้อยกว่า จอห่วยกว่า มีสีให้เลือกน้อยกว่า และราคาอยู่ที่ 27xx

ดูกล่อง ดูเครื่อง

เรามาดูกล่องกันครับ ให้ดูกล่องจริง ๆ ไม่ใช่แกะกล่องหยิบมาให้ดูทีละชิ้นนะ

กล่องก็กลับมาเป็นทรงแท่งแบบ Lumia สมัยที่ยังเป็น Nokia อีกครั้ง หลังจากกลายเป็นกล่องแบนมานาน ที่ทำทรงนี้ไม่ใช่เพื่อรำลึกถึง Nokia อะไร แต่เป็นการลดต้นทุนล้วน ๆ

หลังกล่องก็มีสเป็คระบุไว้ประมาณนี้ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่ากล่องนี้ไม่ได้เหมือนกล่องของ Nokia ซะทีเดียว

เพราะมันเป็นกล่องแบบเปิดจากข้าง ๆ ไม่ใช่แบบสอดไส้ครับ และกล่องทั้งกล่องเป็นกระดาษแผ่นเดียวกันหมด ไม่มีการแยกชิ้นใด ๆ ทั้งสิ้น! แค่ตัดตามรูปทรงแล้วเอามาพับเท่านั้น สิ่งที่มีมาในกล่องนอกจากตัวเครื่องกับแบตแล้ว ก็มีสายชาร์จกับหูฟัง นอกนั้นก็เป็นกระดาษทั้งหลาย ไม่มีสาย USB ให้นะ

มาดูเครื่องบ้าง ตัวเครื่องสีส้มสดมาก จอก็สว่างแสบตา แม้จะปรับความสว่างไว้ที่ "น้อย" ก็ตาม คุณภาพจอสู้ 520 ไม่ได้แหงอยู่แล้ว เพราะเป็นจอแบบ LCD Transmissive ซึ่งมองจากขอบด้านบนจะเห็นสีดำกลายเป็นสีเทาเลย แต่มองจากข้าง ๆ ก็โอเคดี เสียตรง นี่มันสมาร์ทโฟนซึ่งต้องมีการใช้งานแบบตะแคงเครื่อง แล้วตอนนั้นแหละขอบด้านบนก็จะกลายเป็นขอบด้านข้างไป...

ด้านหลังจะมีกล้อง 2 เมก้าพิกเซล ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมเลนส์มันดูใหญ่กว่า 520 มาก โลโก้ไมโครซอฟท์ถูกสลักไว้แบบเจาะลงไปแล้วเคลือบเงาแวววาวมาก ตัดกับผิวด้านของฝาหลังเลย

ตะแคงเครื่องดูโลโก้กันชัด ๆ .... ก็ไม่ค่อยชัดอยู่ดี... ฝาหลังหนาและแข็งแรงมาก ไม่กรอบแกรบ จับแล้วเต็มไม้เต็มมือดี

ขอบด้านขวา (ของคนถือ) มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และ ปุ่มล็อค สีเดียวกับตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มชัตเตอร์กล้องแล้ว ตามสมัยนิยม (?)

และหากใครตามหามือถือยืนได้ มันก็อยู่ที่นี่แล้ว!! แต่ไม่มั่นคงเท่าไหร่หรอกนะ

การใช้งานทั่วไป

ความรู้สึกแรกเลยก็คือ... จอมันลื่นมาก!! ผมไม่ได้หมายถึงซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์นะ พูดถึงวัสดุนี่แหละ ผิวจอมันลื่นมาก!! ยังกะเคลือบเทฟลอนไว้ หลายครั้งที่แตะแล้วนิ้วลื่นไปโดนที่อื่น ที่เว็บไมโครซอฟท์ก็ระบุคุณสมบัติจอไว้ว่า "ทำความสะอาดได้ง่าย" ก็ไม่รู้ว่าจอเครื่องอื่นเป็นงี้มั้ย เพราะซื้อแล้วก็เอาไปติดกันรอยซะก่อน ส่วนรุ่นนี้ร้านติดกันรอยส่ายหัว "ยังไม่มีฟิล์มรุ่นนี้มาเลย"

ด้านซอฟต์แวร์ก็ลื่นไหลกว่า 520 พอสมควร เพราะสเป็คสูงกว่าทั้ง CPU และ RAM การค้นหา Wi-Fi ก็ทำได้เร็วกว่า 520 นิดหน่อย จะแย่กว่าก็ตรงจอที่เห็นเม็ดพิกเซลชัดเจน และสีเพี้ยนมาก ถ่ายรถป้ายแดง ดันออกมาเป็นป้ายสีบานเย็น...

ลืมบอกไปว่ารุ่นนี้เป็นแบบ 2 ซิม (ซึ่ง Lumia รุ่นล่าง ๆ ในไทยจะเป็น 2 ซิมหมด) จึงมีระบบรองรับ 2 ซิมเพิ่มมา และวิธีแยกซิมก็ง่าย ๆ ตามประสา Windows Phone คือใช้วิธีแยกไทล์โทรศัพท์กับข้อความเป็นเบอร์ 1 และ 2 เลย จะโทรซิมไหนก็จิ้มอันนั้น ใช้ซิมเดียวก็ปักหมุดแค่อันเดียว  มันน่ารำคาญตรงไอค่อนของไทล์โทรศัพท์กับข้อความจะมีเลข 1 กับ 2 ติดอยู่ตลอดนี่แหละ เอาออกก็ไม่ได้...

โดยปกติ Lumia จะปรับความสว่างได้ 3 ระดับ คือ น้อย กลาง มาก (และอัตโนมัติ) แต่ 435 นี่เหนือชั้นไปอีก คือสามารถปรับโปรไฟล์ความสว่างให้ระดับ น้อย กลาง มาก ได้อิสระเลย ขนาดใน 520 ที่อัพเดตเป็น Lumia Denim เหมือนกันแล้ว ยังทำไม่ได้เลย  สามารถเข้าไปปรับได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอ

พอเข้าไปที่การตั้งค่าเสียง ก็พบว่ามันปรับอีควอไลเซอร์ได้ด้วย... อันนี้ 520 ก็ไม่มี

ริงโทนชุด Nokia ถูกนำออกไปแล้ว (ไม่มีแล้ว Nokia Tune กับ Nokia Tune Remix) โดยมีเซ็ตริงโทน Microsoft มาแทน ซึ่งก็มีเพลงโดน ๆ เหมือนกัน เช่น กงเก้ ฟังแล้วติดหูมาก ใครสนใจก็ลองฟังดูได้จากข้างล่างนี้ 

นอกจากริงโทนแล้ว เสียงเตือนจาก Nokia (ซึ่งมีอยู่แค่ 4 เสียง) ก็ถูกถอดออกแล้วแทนที่ด้วย Microsoft เช่นกัน แต่อันนี้ผมว่าดีกว่า เพราะได้เสียงชุดใหม่มาเยอะและหลากหลายกว่าเดิมมาก แถม Windows Phone 8.1 ก็ตั้งเสียงเตือนให้แต่ละแอพได้แล้ว เอาไปใช้กันเพลินทีเดียว

เสียดาย อันนี้รู้สึกจะไม่มีให้ฟัง ไม่งั้นเอามาแปะแล้ว....

แอพที่ติดมาในเครื่อง

• พวกตระกูล Bing (ตอนนี้รีแบรนด์กลับเป็น MSN) มีมาครบ ทั้ง พยากรณ์อากาศ, ท่องเที่ยว, การเงิน, กีฬา, ข่าว, สุขภาพและฟิตเนส, อาหารและเครื่องดื่ม
• ตระกูล Lumia มีมาส่วนหนึ่งคือ Camera, Creative Studio และ Storyteller
• HERE ยังมีอยู่ ให้ HERE Maps กับ HERE Drive+ มา
• Social ให้มา 2 ตัวคือ Line และ Facebook
• Mix Radio ที่ขายให้ Line ไปแล้ว ก็ยังให้มา
• มี Skype แน่นอน...
• และที่ไม่เข้าพวกคือ Gameloft Hub

ปัญหาที่พบ

• แบตหมดเร็วมาก!!! ทั้ง ๆ ที่ 435 ให้แบตมาจุกว่า 520 (520 ให้มา 1430 mAh 435 ให้มา 1560 mAh) แต่แบต 435 ดันหมดเร็วกว่า 520 ที่แบตเริ่มเสื่อมแล้วซะอีก โดยหากเปิด Wi-Fi ทิ้งไว้ตลอด และแทบไม่แตะเครื่องเลย จะอยู่ได้ราว ๆ 1 วัน 5 ชั่วโมง
• วิธีแก้ก็ลองเอาไทล์ ผู้คน ออก (ไอ้ที่สุ่มหน้าเพื่อนขึ้นมานี่แหละ ตัวกินเลย..) ปรับความสว่างเป็นน้อยแล้วเลือกอัตโนมัติ ปิด Wi-Fi เมื่อไม่ใช้  ก็ยืดอายุได้เป็น 2 วันละ
• สายชาร์จของ 435 แม้จะหน้าตาเหมือนของ 520 แต่สายดันสั้นแค่ 2 ใน 3 ของ 520 แถม output ยังถูกลดต้นทุนเหลือแค่ 550 mA ด้วย (520 ให้มา 750 mA)
• และเพราะข้างบนนี่แหละ มันเลยใช้เวลาชาร์จนานน่าดู... (จะงกไปไหน)
• ยังไม่มีฟิลม์กันรอยตรงรุ่นขาย (บางร้านจะยัดเยียดของ Nokia X ให้)

กล้อง

พูดถึง Lumia ก็ต้องพูดถึงกล้อง แต่ไม่ใช่กับ 435 นี่ครับ เพราะเขาจับตลาดล่างมาก ๆ คือสูงกว่าพวก feature phone นิดหน่อย (จริง ๆ คือตลาดระดับสูงสุดของ feature phone นั่นแหละ) ก็เลยให้กล้องมาแบบพอกินพอใช้ โดยความละเอียดสูงสุดที่ทำได้ ก็แค่ 1600 x 900 พิกเซลเท่านั้น

ตัวเครื่องจะใช้แอพ Lumia Camera เป็นแอพถ่ายภาพตั้งต้น หากต้องการใช้แอพกล้องดั้งเดิมก็ต้องไปตั้งค่าเอาเองที่หัวข้อ ภาพถ่าย+กล้อง และต้องตั้งปุ่มกล้องไว้ที่ Action Center ด้วย ไม่งั้นจะไม่มีทางเปิดกล้องได้เลย เพราะไม่มีไอค่อนกล้องดั้งเดิมให้คลิกเปิดหรือปักหมุด มีให้แต่ Lumia Camera เท่านั้น

ตัวอย่างภาพถ่ายก็ตามนี้... (คลิกดูภาพใหญ่ได้)

กล้องเป็น Fix Focus นี่ก็ดีนะ กดปุ๊บถ่ายปั๊บเลย เหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุที่ไม่อะไรมาก เจอก็กดถ่าย ไม่ต้องมาคอยเล็งโฟกัส  ก็เหมาะสำหรับถ่ายกลางแจ้งล่ะนะ  ในร่มก็ถ่ายได้ประมาณนึง (ลืมอัพรูป)

การถ่ายวิดีโอก็ด๋อยตามสภาพ ไม่ต้องหวัง 720p แบบตอน 520 ครับ ได้แค่ 480p (640x480) และถ้าถ่ายแบบ wide ก็ต้องใช้ความละเอียด 800x448 ซึ่งความละเอียดนี้หากเอาไปอัพยูทูบ จะโดนปรับลดขนาดเหลือ 360p เท่านั้น...

จริง ๆ มันละเอียดกว่านี้หน่อย แต่นั่นแหละ โดนยูทูบปรับลดไปอีก หากอยากได้ความละเอียด 480p เต็ม ๆ คงต้องถ่ายที่ 640x480 ละครับ (แต่ก็ไม่แน่)

เมื่อแม่ผมได้ใช้

ก็ยอมรับว่า Lumia นี่สอนยากเหมือนกัน เพราะ UI สุดโต่งของมันนี่แหละ ก็หวังว่า Windows 10 จะออกแบบใหม่ซะทีนะ (เริ่มเห็นแนวทางใหม่จากแอพ OneDrive แล้ว)

• ตรงหน้า Start ไม่ใช่ปัญหา แต่จะมีปัญหาตอนโทรออก เพราะ Windows Phone หลัง ๆ ในหน้าประวัติการโทร มันเปลี่ยนจากการแตะชื่อดูข้อมูลเป็นแตะชื่อแล้วโทรออกเลย ทำให้เผลอโทรออกง่ายมาก
• ไอค่อนข้างล่างที่ใช้เข้าโหมดแป้นตัวเลข หรือสมุดโทรศัพท์ก็เล็กและดูยากไป แถมมันยังเป็นสีเดียวมีวงกลมล้อมเหมือนกันหมดเลยยิ่งดูยากเข้าไปใหญ่ 
• หน้าจอแบบปัดซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนหน้า (อย่างใน Line จะปัดเพื่อสลับไปหน้า เพื่อน แชท ไทม์ไลน์) ทำให้แม่สับสนพอสมควร  เพราะหน้าตาแต่ละหน้ามันคล้าย ๆ กันหมดด้วยแหละ (เป็นหน้าคนหรือรายชื่อเรียง ๆ กันเหมือนกันหมด) ก็ต้องให้สังเกตหัวข้อข้างบนเอา
• แม่เผลอใช้วิดีโอคอลล์ใน Line หลายครั้ง จนคิดว่าน่าจะมีให้ล็อค หรือ เอาเมนูไว้ในที่เข้าถึงยากกว่านี้หน่อย
• พอสมัคร Line ให้แม่ ก็เจอลูกศิษย์ เพื่อนรุ่นเดียวกัน ญาติ โผล่มาใน Line มากมาย นี่คงเป็นข้อดีของระบบผูกกับเบอร์โทรแหละครับ
• ลูกศิษย์กับญาติที่อายุมากหน่อย ก็ส่งแบบที่เรารู้กันแหละ รูปดอกไม้ อังคาร พุธ พฤหัส ตามฟอร์ม นอกนั้นก็มีแชร์คลิปมาให้ดู (เม็มจะเต็มมั้ย?)
• ขอบคุณ Google ที่อุตส่าห์เหลือแอพ Google Search ไว้ให้ Windows Phone หนึ่งแอพ เพราะทำให้แม่ค้นหาด้วยเสียงพูดได้
• พวกแอพที่มีโฆษณาอยู่ข้างล่างนี่ทำให้ลำบากมาก เพราะจิ้มปุ่มเมนู 3 จุดยากขึ้น (แล้วมันดันชอบเป็นพวกโฆษณา 18+)
• ยังไม่ได้ลงเกมให้แม่เล่น

ช่วงนี้ก็ค่อย ๆ สอนไป สอนปิด/เปิด Wi-Fi (จะได้ประหยัดแบต) สอนถ่ายรูป ส่งรูปใน Line โดยรวมแม่ยังจิ้มไม่ค่อยแม่น สงสัยต้องหาเกมให้ฝึกจิ้มก่อนล่ะมั้ง

ส่งท้าย

ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบ้านครับ ที่ว่าง ๆ ก็ได้เห็นแม่จิ้มโทรศัพท์เล่น บางทีก็พยายามพูดเพื่อค้นหาใน Google เปิดดูแอพพยากรณ์อากาศแล้วบอกว่าตอนนี้กี่องศา ไม่รู้ว่าถ้าเปลี่ยนจาก Lumia เป็นแอนดรอยด์จะเป็นยังไง ไอค่อนสี ๆ จะทำให้เข้าถึงง่ายกว่าไอค่อนใหญ่ ๆ เรียบง่ายมั้ย? แต่ก็นั่นแหละ เลือกมาทาง Lumia แล้ว

จริง ๆ ตอนนี้สถานการณ์ของ Lumia ค่อนข้างแย่นะ ไม่มีฟิล์มกันรอยงี้ บางร้านก็เลิกขาย (แต่ดันยังมี Nokia X วางโชว์อยู่?) เว็บไอทีชื่อดังก็เลิกรีวิวแบบรุ่นต่อรุ่น (ก็เล่นออกรุ่นล่าง ๆ ซะถี่ยิบ) แต่อย่างน้อยเราก็ได้รอใช้ Windows 10 แน่ ๆ ละ แต่รุ่นพรีวิวได้ข่าวว่าด๋อยมาก จะออกรุ่นจริงได้ภายในปีนี้มั้ยนะ?

435 vs 520

วันนี้ก็ขอจบแค่นี้ เขียนมาแต่เช้าแล้ว สวัสดี.....