1 ปี 1 เดือน 1 วัน กับ Lumia 520
จริง ๆ เอ็นทรี่นี้ต้องชื่อ 1 ปีกับ Lumia 520 แต่ผมดันอู้มา 1 เดือน และอู้แถมอีก 1 วัน ก็เลยกลายเป็น 1 ปี 1 เดือน 1 วันไปนี่แล...
เมื่อปีก่อน Lumia จัดเป็นสมาร์ทโฟน (บางคนบอกไม่ใช่สมาร์ทโฟน แต่อย่าลืมว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ OS อื่นก็เคยผ่านสภาพที่เต็มไปด้วยขีดจำกัดมากมายกันมาแล้วทั้งนั้น โดยที่ตอนนั้นเขาก็เรียกมันว่าสมาร์ทโฟน) ... วงเล็บยาวไปสินะ งั้นเริ่มใหม่ จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย แต่หลังจากโนเกียโดนไมโครซอฟท์ดูดกลืนอย่างเป็นทางการ ความมีลุ้นนั่นก็ลดลง สาวก Lumia ล้วนอยู่ในสภาพ โดนดูถูกก็เถียงไม่ไป จะแนะนำชาวบ้านก็พูดไม่ออก (แต่จะซื้อก็ไม่ห้าม) กันไปพักใหญ่...
แต่นั่นเป็นเรื่องของเขา วันนี้จะมาพูดเรื่องของผมว่า 1 ปี 1 เดือน 1 วัน ใช้มันไปถึงไหนบ้าง เท่านั้น...
ที่สุดแห่งการเปลี่ยนแปลงคือ การที่ใส่พื้นหลังให้หน้าจอเริ่มได้แล้ว ใครที่เคยพูดไว้ว่า "ไม่สนใจตราบใดที่ยังไม่มี Wallpaper" เขาจะว่ายังไง? ผมไม่รู้... โดยพื้นหลังนี่จะไม่ใช่พื้นหลังแบบโผล่ขอบ ๆ ที่เหลือโดนไทล์บัง แต่มันเป็นพื้นหลังที่อยู่หลังไทล์เลย โดยไทล์ที่เดิมเป็นสีตามระบบจะเปลี่ยนเป็นไทล์ใสมองทะลุไปยังพื้นหลัง และเมื่อเลื่อนหน้าจอขึ้นลงพื้นหลังจะไม่ได้เลื่อนติดไปกับไทล์ แต่จะเลื่อนนิด ๆ ตามทิศทาง ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเวลามองวิวไกล ๆ จากหน้าต่างรถเมล์ มองไปที่ตึกไกล ๆ นั่นสิ มันไม่ได้วิ่งตามรถเมล์ใช่มั้ย? นั่นแหละ..
มี Action Center ตามสมัยนิยมแล้ว เรียกมาโดยปัดขอบจอบนลงมา (เดิมการปัดขอบบนลงมาจะเป็นการเรียกไอค่อนสถานะมาดู ทำให้เวอร์ชั่นนี้ไอค่อนสถานะแสดงผลตลอดเวลา ไม่ต้องคอยปัดดู) มี Action Button ให้ตั้ง 4 ปุ่ม (ถ้าจอใหญ่จะได้ 5) สามารถกดเปิดปิดหรือปรับอะไรได้จากปุ่มนี่ได้เลย (จากเดิมที่เคยมีแอพทดแทน แต่ทำได้แค่เป็นช็อตคัทไปหน้า setting) ข้างล่างก็มีแจ้งเตือนจากแอพต่าง ๆ ซึ่งเวลามีแจ้งเตือนเยอะ ๆ มันจะเด้งเตือนทีเดียวว่ามีการแจ้งใหม่ (จากเดิมต้องรอมันเด้งบอกทีละข้อความจนเซ็ง..) จุดนี้ช่วยได้เยอะ เพราะจะได้ไม่เสียเวลาเข้าไปดูแต่สติ๊กเกอร์...
การปรับเสียงมีแยกเสียง Ringtone + การแจ้งเตือน กับ เสียงจากแอพ แล้ว โดยถ้ากดปุ่มเพิ่มลดเสียงขณะอยู่หน้าจอทั่วไป จะเป็นการปรับเสียง Ringtone + การแจ้ง แต่ถ้าอยู่ในแอพก็จะเป็นการปรับเสียงแอพให้เลย โดยไม่ว่าจะขึ้นเป็นแบบไหน เราก็แตะที่ลูกศรลงเพื่อเลือกปรับทั้ง 2 แบบในที่เดียวได้
สามารถย้ายแอพไปลง SD Card ได้แล้ว แต่แอพบางตัวจะไม่ให้ย้าย หรือย้ายแล้วเด้ง หรือถึงขั้นบอกว่าตูไม่ลง SD Card ตั้งแต่ตอนติดตั้ง..
มีแอพ Batterry Saver ไว้ดูว่าแอพไหนกินไฟไปแค่ไหน โดยมันจะบอกเป็นแถบ ไม่บอกว่ากี่เปอร์เซ็น เอาเป็นว่ายิ่งยาวยิ่งกินก็พอ เข้าใจตรงกันนะ นอกจากดูแล้ว เรายังแตะที่แอพแล้วตั้งไม่ให้มันทำงานเบื้องหลังได้จากหน้านี้ได้เลย จากเดิมต้องเข้าไปตั้งในหน้าตั้งค่าอันแสนลึกลับ...
ในเวอร์ชั่นนี้พวกเกมจะถูกกองไว้ในหน้ารวมแอพด้วย จากเดิมต้องเข้าไปในหน้าเกมเท่านั้น บางคนไม่ชอบก็ต้องทนกันไป...
เวลาเจอเว็บที่ฝังคลิปยูทูบไว้ จากเดิมพอแตะที่คลิปมันจะเปิดแบบเต็มจอทันที มาคราวนี้มันจะเล่นเป็นจอเล็ก ๆ ตรงนั้นได้เลย (เหมือนเว็บปกติ) เหมือนจะดี แต่ต้องมาคอยแตะให้เล่นเต็มจอนี่แหละ ยังดีที่ตัวเล่นคลิปคราวนี้สามารถเลื่อนดูคลิปช่วงต่าง ๆ ได้แล้ว (จากเดิมต้องกดข้ามสุ่มไปเรื่อย ๆ) แถมมีตัวปรับโวลลุ่มให้อีก
ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ
ปีก่อนผมว่า Windows Phone ยังมีอนาคตนะ แต่ปีนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เอาง่าย ๆ ดูตามฟรีทีวี โฆษณาแต่ 630 กับ 530 แล้ว 930 ไปไหน? แถมโฆษณายังเป็นเวอร์ชั่นคนเดินพูดไปเรื่อย (และดันเน้นพูดแต่บริการของไมโครซอฟท์ทั้งนั้น) ไม่ใช่โฆษณาพื้นหลังสีขาวที่เน้นตัวเครื่อง (ผมว่าอันนั้นดูแล้วจะดึงให้คนอยากซื้อมากกว่า) ตอนไปเดินดูตามห้างเดือนก่อนผมดันเห็น Nokia X บ่อยกว่าซะอีก ด้านการตลาดในประเทศไทยนี่ ผมว่าไมโครซอฟท์น่าจะสอบตกนะ
ก็ไม่ได้เกลียดอะไร ยังเชียร์สุดตัวอยู่ แต่ใครมาถามว่าจะซื้อ Lumia ดีมั้ย ก็คงไม่ตอบอะไรนะ ยกเว้นว่าใครกลัวพ่อแม่พี่น้องจะหลงไปติดมัลแวร์หรือหลงกดซื้อเพชรในเกม LINE ก็แนะนำเลย Windows Phone ไม่มีอะไรพวกนี้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรเลย!
เมื่อปีก่อน Lumia จัดเป็นสมาร์ทโฟน (บางคนบอกไม่ใช่สมาร์ทโฟน แต่อย่าลืมว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ OS อื่นก็เคยผ่านสภาพที่เต็มไปด้วยขีดจำกัดมากมายกันมาแล้วทั้งนั้น โดยที่ตอนนั้นเขาก็เรียกมันว่าสมาร์ทโฟน) ... วงเล็บยาวไปสินะ งั้นเริ่มใหม่ จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย แต่หลังจากโนเกียโดนไมโครซอฟท์ดูดกลืนอย่างเป็นทางการ ความมีลุ้นนั่นก็ลดลง สาวก Lumia ล้วนอยู่ในสภาพ โดนดูถูกก็เถียงไม่ไป จะแนะนำชาวบ้านก็พูดไม่ออก (แต่จะซื้อก็ไม่ห้าม) กันไปพักใหญ่...
แต่นั่นเป็นเรื่องของเขา วันนี้จะมาพูดเรื่องของผมว่า 1 ปี 1 เดือน 1 วัน ใช้มันไปถึงไหนบ้าง เท่านั้น...
ได้มาแล้ว Lumia Cyan !!
หลังจากครั้งสุดท้ายที่บล็อกนี้พูดถึง Lumia คือเอ็นทรี่ Lumia Amber หลายเดือนต่อมาก็มี Lumia Black ตามมา (แต่ก็ไม่ได้เขียนถึง) และหลังจากตั้งหน้าตั้งตารอมาเกือบปี ในที่สุดก็ได้ Lumia Cyan ซะที ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่อัพเดตธรรมดา ๆ เพราะเป็นการขยับไปเป็น Windows Phone 8.1 เลยล่ะที่สุดแห่งการเปลี่ยนแปลงคือ การที่ใส่พื้นหลังให้หน้าจอเริ่มได้แล้ว ใครที่เคยพูดไว้ว่า "ไม่สนใจตราบใดที่ยังไม่มี Wallpaper" เขาจะว่ายังไง? ผมไม่รู้... โดยพื้นหลังนี่จะไม่ใช่พื้นหลังแบบโผล่ขอบ ๆ ที่เหลือโดนไทล์บัง แต่มันเป็นพื้นหลังที่อยู่หลังไทล์เลย โดยไทล์ที่เดิมเป็นสีตามระบบจะเปลี่ยนเป็นไทล์ใสมองทะลุไปยังพื้นหลัง และเมื่อเลื่อนหน้าจอขึ้นลงพื้นหลังจะไม่ได้เลื่อนติดไปกับไทล์ แต่จะเลื่อนนิด ๆ ตามทิศทาง ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเวลามองวิวไกล ๆ จากหน้าต่างรถเมล์ มองไปที่ตึกไกล ๆ นั่นสิ มันไม่ได้วิ่งตามรถเมล์ใช่มั้ย? นั่นแหละ..
มี Action Center ตามสมัยนิยมแล้ว เรียกมาโดยปัดขอบจอบนลงมา (เดิมการปัดขอบบนลงมาจะเป็นการเรียกไอค่อนสถานะมาดู ทำให้เวอร์ชั่นนี้ไอค่อนสถานะแสดงผลตลอดเวลา ไม่ต้องคอยปัดดู) มี Action Button ให้ตั้ง 4 ปุ่ม (ถ้าจอใหญ่จะได้ 5) สามารถกดเปิดปิดหรือปรับอะไรได้จากปุ่มนี่ได้เลย (จากเดิมที่เคยมีแอพทดแทน แต่ทำได้แค่เป็นช็อตคัทไปหน้า setting) ข้างล่างก็มีแจ้งเตือนจากแอพต่าง ๆ ซึ่งเวลามีแจ้งเตือนเยอะ ๆ มันจะเด้งเตือนทีเดียวว่ามีการแจ้งใหม่ (จากเดิมต้องรอมันเด้งบอกทีละข้อความจนเซ็ง..) จุดนี้ช่วยได้เยอะ เพราะจะได้ไม่เสียเวลาเข้าไปดูแต่สติ๊กเกอร์...
การปรับเสียงมีแยกเสียง Ringtone + การแจ้งเตือน กับ เสียงจากแอพ แล้ว โดยถ้ากดปุ่มเพิ่มลดเสียงขณะอยู่หน้าจอทั่วไป จะเป็นการปรับเสียง Ringtone + การแจ้ง แต่ถ้าอยู่ในแอพก็จะเป็นการปรับเสียงแอพให้เลย โดยไม่ว่าจะขึ้นเป็นแบบไหน เราก็แตะที่ลูกศรลงเพื่อเลือกปรับทั้ง 2 แบบในที่เดียวได้
สามารถย้ายแอพไปลง SD Card ได้แล้ว แต่แอพบางตัวจะไม่ให้ย้าย หรือย้ายแล้วเด้ง หรือถึงขั้นบอกว่าตูไม่ลง SD Card ตั้งแต่ตอนติดตั้ง..
มีแอพ Batterry Saver ไว้ดูว่าแอพไหนกินไฟไปแค่ไหน โดยมันจะบอกเป็นแถบ ไม่บอกว่ากี่เปอร์เซ็น เอาเป็นว่ายิ่งยาวยิ่งกินก็พอ เข้าใจตรงกันนะ นอกจากดูแล้ว เรายังแตะที่แอพแล้วตั้งไม่ให้มันทำงานเบื้องหลังได้จากหน้านี้ได้เลย จากเดิมต้องเข้าไปตั้งในหน้าตั้งค่าอันแสนลึกลับ...
ในเวอร์ชั่นนี้พวกเกมจะถูกกองไว้ในหน้ารวมแอพด้วย จากเดิมต้องเข้าไปในหน้าเกมเท่านั้น บางคนไม่ชอบก็ต้องทนกันไป...
เวลาเจอเว็บที่ฝังคลิปยูทูบไว้ จากเดิมพอแตะที่คลิปมันจะเปิดแบบเต็มจอทันที มาคราวนี้มันจะเล่นเป็นจอเล็ก ๆ ตรงนั้นได้เลย (เหมือนเว็บปกติ) เหมือนจะดี แต่ต้องมาคอยแตะให้เล่นเต็มจอนี่แหละ ยังดีที่ตัวเล่นคลิปคราวนี้สามารถเลื่อนดูคลิปช่วงต่าง ๆ ได้แล้ว (จากเดิมต้องกดข้ามสุ่มไปเรื่อย ๆ) แถมมีตัวปรับโวลลุ่มให้อีก
ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ
- เมื่อก่อนแตะต้องไฟล์อะไรในเครื่องไม่ได้เลย เวอร์ชั่นนี้แค่หาแอพ ไฟล์ มาติดตั้ง ก็สามารถสร้างโฟลเดอร์ สั่งลบ ย้าย ไฟล์ ได้อย่างอิสระ (แต่ก็ไปยุ่งกับโพลเดอร์ระบบไม่ได้อยู่ดี...ซึ่งก็ดีแล้ว)
- จากเดิมที่ต้องรอแอพอัพเดตตามรอบเวลาเฉพาะของเครื่องเรา (ของผมตอนแรก ๆ มาบ่าย 3 ครั้งสุดท้ายพบว่ากลายเป็นตี 3 ...) ตอนนี้เราสั่งอัพเดตได้ทันที
- ปฏิทินเลือกมุมมองได้มากขึ้น รายสัปดาห์กับรายปีแสดงผลได้เยี่ยมมาก ไอ้หน้าจอแบบลิสต์อีเวนท์อย่างเดียวถูกถอดออกไปแล้ว...
- คีย์บอร์ดรองรับการพิมพ์แบบ Word Flow แต่ไม่รองรับภาษาไทยนะ
- ตัวเดาคำของคีย์บอร์ด มีการแนะนำเป็น Emoji ด้วย
- ตัวเล่นเพลง วิดีโอ วิทยุ จะแยกเป็นแอพต่างหาก ซึ่งทำให้อัพเดตได้ง่ายกว่าตอนเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
- การอัพภาพขึ้น OneDrive ยุ่งยากขึ้น จากเดิมแค่เลือกภาพแล้วอัพจากเมนูได้เลย กลายเป็นต้องกดแชร์ เลือก OneDrive เลือกโฟลเดอร์ พอเลือกเสร็จมันก็ปิด OneDrive ไปเลย ถ้าอยากดูความคืบหน้าในการอัพโหลดต้องเปิด OneDrive มาดูใหม่เอง...
- IE11 ทนทานขึ้นมาก ดูเว็บที่ภาพเยอะ ๆ ได้ทนขึ้น ระบบแท็บดีขึ้น ปัดจอซ้ายขวาแทน Back Forward ได้ มีโหมดอ่านง่าย (แต่ใช้แล้วภาพกับเนื้อหาหายไปบางส่วน) และซิงค์แท็บจาก IE11 ใน Windows 8.1 มาได้
- เล่นเกมที่อืดแบบไร้เหตุผล (แบบเป็น 2D พื้น ๆ แต่ดันอืด) ได้ลื่นขึ้น
- หน้าจอโทรออกมีให้ตั้งรายการโทรด่วนแล้ว
- สามารถเชื่อมกับคอมพ์ผ่าน USB แล้วแสดงผลบนหน้าจอคอมพ์ได้เลย (โดยต้องลงโปรแกรม Project My Screen ไว้ เปิดมา แล้วค่อยเสียบ รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่นี่) การแสดงผลเป็นแบบ Real-time เอามาเล่นเกมรถแข่ง หรือใช้ดูเวลาถ่ายหน้าตัวเองได้เลย
- ข้อมูลเพิ่มเติม : มีอะไรใหม่ใน Windows Phone 8.1
แล้วแอพล่ะ?
ช่วงปลายปีที่แล้วถึงต้น ๆ ของปีนี้ แอพก็โผล่มาให้คึกคักกันดีครับ แต่หลัง ๆ ชักเงียบ ๆ กันไป คงเพราะรอดูท่าทีหลังจากไมโครซอฟท์ฮุบโนเกียเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวก็ไม่เดือดร้อนอะไรเพราะชีวิตก็วนอยู่กับแอพเดิม ๆ ก็ตามนี้...- LINE โหลดสติ๊กเกอร์ฟรีได้แล้ว ซื้อสติ๊กเกอร์ผ่าน LINE Store (บนเว็บ) ได้แล้ว มี Voice Call ถ่ายคลิปส่งให้เพื่อนดูได้แล้ว สติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กได้แล้ว แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคนไม่พอใจ เพราะไม่รองรับ Note ... ส่วนเกมนั้น ยังเล่นไม่ได้ครับ เหมาะกับคนไม่ชอบตามกระแสดีนะ
- Facebook ได้รับการพัฒนาหน้าตาให้เหมือนชาวบ้านมากขึ้น ไวขึ้น นิ่งขึ้น โหลดได้ชัวร์ ย้อนหลังได้ไกล ก็ดีมาพักนึงเลยแหละ จนไม่นานมานี่เริ่มงอแงอีกแล้ว โหลดฟีดไม่ขึ้นบ้าง ดูย้อนหลังได้แค่ชั่วโมงเดียวบ้าง ก็ไม่รู้จะกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่ ลงใหม่ก็ไม่หาย (อ้อ ยังดูรูปในคอมเม้นท์ไม่ได้นะ)
- Facebook Messenger ที่ตอนนี้ชาวแอนดรอยด์กำลังยี้นั่นแหละ แต่บนวินโดวส์โฟนนี่แฮปปี้ เพราะมันเจ๋งกว่าแอพ Facebook มากมายเลย (เพราะแอพนี้ได้ Facebook เองมาพัฒนาให้เลย ต่างจากแอพ Facebook ที่ไมโครซอฟท์เป็นคนทำ) อาจจะไม่มีหัวเด้งขึ้นมาแบบแอนดรอยด์ แต่ก็ใช้ได้ดีเลยล่ะ ส่วนตัวน่าจะใช้บ่อยเท่า ๆ กับที่ชาวไทยใช้ Line นั่นแหละ
- Twitter ก็ยังดีเสมอต้นเสมอปลาย ตอนนี้สามารถพรีวิวภาพในไทม์ไลน์ได้แล้ว
- อื่น ๆ ยังคงเหมือน ๆ เดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร อ้อ Instagram มีมานานแล้ว (ซัมซุงเลยเลิกปล่อยโฆษณากัด) แต่ชาว Lumia ชอบใช้ 6tag มากกว่า แต่ผมไม่ได้ใช้ทั้งคู่แหละ (ไม่เล่น Instagram)
- แอพที่ใช้บ่อย : Blognone Community, Pantip Connector, Adobe Reader แค่นี้เอง ไม่รู้จะหาแอพอะไรมาใช้หนักหนา....
- เกม... ตอนนี้ก็มีค่าย Gameloft ออกเกมมาให้เล่นเยอะมาก น่าจะไม่แพ้ระบบอื่น ๆ เลย ส่วน Disney ก็ปล่อยโปรแจกฟรีบ่อย ๆ Rovio ก็ปล่อยเกมใหม่มาพร้อม ๆ กับระบบอื่นให้อยู่พักนึง แต่ตอนนี้กลับมาหลังเขาอีกแล้ว... EA ก็มาลงให้บ้าง บางเกม...
- เกมจากไมโครซอฟท์เองก็มาเรื่อย ๆ ก็ยังเหมือนเดิมคือ มันสนุกนะ แต่ไม่สุด...
- มี Final Fantasy III ในที่สุด! แต่ก็ดันแพงเป็นที่สุด!
- เกมโปรดตอนนี้เหรอ? Major Mayhem WP กับ Hungry Shark Evolution มั้ง?
- กล้อง ตอนนี้ใช้แอพ Nokia Camera (ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะเปลี่ยนเป็น Lumia Camera) ซึ่งเป็นการรวม Pro Camera กับ Smart Camera ที่ออกมาตอน Amber เข้าด้วยกัน ก็ปรับอะไรได้มากขึ้น เช่น ISO ความเร็วชัตเตอร์ (การทำให้ขึ้นแบบภาพข้างบน ต้องแตะปุ่มกล้องแล้วเลื่อนออก)
ส่งท้าย
เอาจริง ๆ หลัง ๆ ผมเซ็งกับ Windows Phone มาก ๆ ไม่ใช่เพราะมันห่วย แต่เพราะทางไมโครซอฟท์ดันให้ใคร ๆ ก็สามารถอัพไปใช้ WP รุ่นสำหรับนักพัฒนาได้ง่าย ๆ ผลคือ.. คนหนีไปใช้รุ่นนักพัฒนากันหมด คนรอเวอร์ชั่นจริงก็กลายเป็นหลังเขา พูดอะไรกับเขาไม่รู้เรื่องไปปีก่อนผมว่า Windows Phone ยังมีอนาคตนะ แต่ปีนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เอาง่าย ๆ ดูตามฟรีทีวี โฆษณาแต่ 630 กับ 530 แล้ว 930 ไปไหน? แถมโฆษณายังเป็นเวอร์ชั่นคนเดินพูดไปเรื่อย (และดันเน้นพูดแต่บริการของไมโครซอฟท์ทั้งนั้น) ไม่ใช่โฆษณาพื้นหลังสีขาวที่เน้นตัวเครื่อง (ผมว่าอันนั้นดูแล้วจะดึงให้คนอยากซื้อมากกว่า) ตอนไปเดินดูตามห้างเดือนก่อนผมดันเห็น Nokia X บ่อยกว่าซะอีก ด้านการตลาดในประเทศไทยนี่ ผมว่าไมโครซอฟท์น่าจะสอบตกนะ
ก็ไม่ได้เกลียดอะไร ยังเชียร์สุดตัวอยู่ แต่ใครมาถามว่าจะซื้อ Lumia ดีมั้ย ก็คงไม่ตอบอะไรนะ ยกเว้นว่าใครกลัวพ่อแม่พี่น้องจะหลงไปติดมัลแวร์หรือหลงกดซื้อเพชรในเกม LINE ก็แนะนำเลย Windows Phone ไม่มีอะไรพวกนี้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรเลย!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น