[เล่นแล้วมาเล่า] The King of Fighters XIII Steam Edition
ย้อนกลับไปเมื่อตอน Steam Summer Sale ของปีนี้ ผมนึกขึ้นมาได้ว่า "เฮ้ย! สอยเกม Steam กับพวก Bundle ต่าง ๆ มาหลายปี แต่เรากลับยังไม่มีเกมแนว Fighting สักเกมเลยนี่หว่า!!!" ก็เลยตั้งหน้าตั้งตารอมันลดทุกวัน สุดท้ายก็ไม่ลด... จนไม่กี่วันมานี้ ก็มีเกม Fighting โผล่มาลดอย่างโหดใน Humble Bundle จนได้!!
ท่ามกลางเกมที่ผมไม่สนใจสักนิดใน Bundle คราวนี้ (หรือสน แต่เครื่องเล่นไม่ได้) มันมีเพชรน้ำหนึ่งที่ปกติจะลดราคายากโคตรปะปนอยู่ นั่นคือ The King of Fighters Steam Edition นั่นเอง!!! คาดว่าหลายคนสอย Bundle นี้เพราะเกมนี้โดยเฉพาะ (ขณะเขียนบทความนี้มีเวลาอีก 1 วันกว่า ๆ ใครสนใจ ไปสอยได้ที่ humblebundle.com)
ตัวเกมยังคงเหมือน ๆ KOF ดั้งเดิม เลือกตัวละครเป็นทีม 3 คน แล้วซัดกันไปเรื่อย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายนึงจะแพ้หมดทั้ง 3 คน ฝ่ายที่เหลือก็ชนะ ง่าย ๆ แค่นี้
ตัวเกมมีโหมด Tutorial ไว้แนะนำการควบคุมพื้นฐาน เช่น การกระโดดแบบต่าง ๆ การแดช การกลิ้ง ไปจนถึงการใช้เกจ การ Cancel (อันหลังนี่ผมทำไม่เป็นซะที พยายามมาหลายเกมแล้ว... orz) ใครเพิ่งเคยเล่น หรือกดมั่วมาตลอด ก็ควรเข้าไปดู จบจากโหมดนี้ก็สามารถไปลองกดได้ในโหมด Practice เลย
การตั้งค่ากราฟฟิก สามารถตั้งได้ว่าจะให้ Frame Rate คงที่หรือเปลี่ยนแปลงได้ Background อยู่นิ่งหรือขยับ แสดงผลเป็นหน้าต่าง หน้าต่างแบบเต็มจอ หรือเต็มจอ และความละเอียดปรับได้สุด ๆ ถึง 2560x1440 !!
ตัวเกมรองรับจอย USB ธรรมดาสามัญชนด้วย แต่ต้องมาตั้งปุ่มเองให้ถูกต้อง ตั้งตามภาพข้างบนนี้ได้เลยครับ (ภาพนี่ผมวาดเอง ไว้ช่วยจำว่าปุ่มไหนมันอยู่ตรงไหน ... คงจะแก่แล้วน่ะ) ถ้าใช้จอย Xbox360 ไม่ต้องตั้งใหม่ แต่ถ้าเสียบจอย Xbox360 กับจอย USB ไว้พร้อมกัน เกมจะบังคับให้จอย Xbox360 เป็นจอย 2 ตลอด ทำให้ใช้จอย Xbox360 เลือกเมนูหรือเล่นคนเดียวไม่ได้เลย วิธีแก้คือ ถอดจอย USB ออกก่อนเข้าเกม พอเข้าเกมไปแล้วค่อยเสียบไปใหม่ ก็หมดปัญหานี้
ตัวละครมีให้เลือกถึง 36 ตัว โดยเริ่มต้นจะมีมาให้ 31 ตัว ต้องปลดล็อคจากโหมด Arcade 2 ตัว ส่วนอีก 3 ตัวก็คือตัวเดิมแต่เปลี่ยนสไตล์ ได้แก่ Kyo, Iori, Takuma ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ 3 ตัวนี้แล้วกด Select (หรือปุ่ม 9 หรือ Backspace) ก็จะเปลี่ยนสไตล์ได้แล้ว เมื่อเลือกตัวละครแล้วก็จะเลือกสีได้ทันที ไม่ต้องลุ้นว่าปุ่มอะไรได้สีอะไร
นอกจากชุดสีที่เกมให้มาแล้ว เรายังสามารถสร้างชุดสีเองได้ด้วย โดยเข้าไปที่โหมด Customize ซึ่งตอนแรกจะมีสีให้เปลี่ยนส่วนละ 10 สี แต่ถ้าใช้ตัวละครเดิมบ่อย ๆ จะปลดล็อคสีเพิ่มได้ (ทีละ 5 สี)
ในโหมด Arcade ซึ่งเป็นโหมดพื้นฐานสุด ๆ ของเกม จะมี Target Action ให้เราทำ (ซึ่งมีทั้งง่าย ๆ อย่าง กระโดด 3 ครั้ง กลิ้ง 3 ครั้ง ไปจนถึงยาก ๆ อย่างทำ Combo) หากทำได้ก็จะมีรางวัลเป็นเกจไม้ตาย และยังส่งผลต่อการเจอตัวละคร 2 ตัวที่เราต้องปลดล็อคด้วย
โหมด Versus เอาไว้เล่น 2 คน หรือคนเดียวกับคอมพ์ก็ได้ สามารถเลือกได้ว่าจะสู้แบบ 1 ต่อ 1 หรือ 3 ต่อ 3 โดยในโหมดนี้สามารถกำหนด Level ของแต่ละฝ่ายได้ด้วย เอาไว้ต่อให้กันประมาณนี้...
โหมด Story ตอนแรกนึกว่าเอาไว้ดูเนื้อเรื่องอย่างเดียว (เพราะยาวซะ จบซีนนึงมีอีกซีนต่อ) แต่พอดูไปสักพักจะมี Chapter ทางแยกให้เลือก เลือกแล้วก็จะให้เลือกทีมแล้วก็สู้ไปตามปกติ (และไม่ปกติ) แล้วก็เข้าเนื้อเรื่อง แล้วก็เลือก Chapter ไปมาแบบนี้ เป้าหมายคงหนีไม่พ้นการปลดเนื้อเรื่องให้ครบนี่แหละ
โหมด Mission เป็นที่รวมโหมดที่โหยหาสำหรับคนเล่นคนเดียว เข้าไปแล้วจะเจอโหมดย่อย ๆ ได้แก่ Time Attack พยายามเคลียร์ให้เร็วที่สุด Survival สู้ไปเรื่อย ๆ ดูว่าจะล้มได้สักกี่ตัว และ Trial ที่โหดมาก ๆ เพราะเราต้องกด Combo ให้ได้ตามที่เกมกำหนด (มีขึ้นปุ่มให้ดู)
และโหมด Online ที่ให้เราได้สู้กับผู้เล่นทั่วโลก (ถ้ามี) ผมมีโอกาสได้ลองสู้อยู่ 2 ครั้ง ก็ลื่นไหลดีไม่มี Lag เสียแต่หาคนเล่นยากไปนิด หวังว่าถ้าเกมลดราคาอีกทีน่าจะเพิ่มคนเล่นได้มากขึ้น...
พอสู้ในโหมด Online จบ เราจะเซฟ Replay ไว้ดูได้ ระหว่างดูสามารถกดโชว์สถิติและปุ่มกดได้ด้วย (ในภาพขอสารภาพว่า ผมแพ้เพราะไอ้ HP HP HP HP HP ... HP นี่แหละ)
ก็คุ้มตังค์นะ สำหรับราคา $6.66 จาก Humble Bundle (ตอนนี้ขึ้นเป็น $6.8 กว่า ๆ ไปแล้ว) เพราะเกมเต็มนี่ราคา $29.99 ถ้าจะรอให้ Steam ลดราคาได้เท่านี้ก็ต้องลด 77% เท่านั้น (ซึ่งแค่ 75% ยังยากโคตรเลย) เสียแต่ตอนที่เขียนเอ็นทรี่นี้ (1 ก.ย. 2557) มันเหลือเวลา Bundle นี้แค่ 1 วันกว่า ๆ เท่านั้น
ใครสนใจแนะนำให้สอยตอนลดราคาครับ อาจฟังดูโหดร้ายสำหรับผู้พัฒนาเกม แต่ราคาเต็มมันไม่ค่อยคุ้มจริง ๆ แหละ เพราะเกมค่อนข้างเก่าแล้ว คนเล่นออนไลน์ไม่มาก (หรือคนน้อยเฉพาะ Rank เดียวกับผมหว่า?) ความรู้สึกก็เดิม ๆ เหมือน KOF ที่ผ่าน ๆ มา (แต่ผมว่าสู้ช่วงปี 98 - 99 ไม่ได้) ถ้าจ่ายราคาเต็มเท่านั้น ไปหาอะไรใหม่ ๆ ดีกว่านะ...
ข้อมูลเพิ่มเติม :
ท่ามกลางเกมที่ผมไม่สนใจสักนิดใน Bundle คราวนี้ (หรือสน แต่เครื่องเล่นไม่ได้) มันมีเพชรน้ำหนึ่งที่ปกติจะลดราคายากโคตรปะปนอยู่ นั่นคือ The King of Fighters Steam Edition นั่นเอง!!! คาดว่าหลายคนสอย Bundle นี้เพราะเกมนี้โดยเฉพาะ (ขณะเขียนบทความนี้มีเวลาอีก 1 วันกว่า ๆ ใครสนใจ ไปสอยได้ที่ humblebundle.com)
ภาคใหม่?
เอาจริง ๆ KOFXIII ก็ไม่ใช่เกมใหม่ซะทีเดียว เพราะออกมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว แต่กว่าจะลง Steam ก็เพิ่งเดือนกันยายนปีที่แล้วนี่เอง ซึ่งราคาก็ไม่ใช่ระดับที่ "คนรอลด" จะจ่ายไหว ซ้ำร้ายเกมยังไม่ค่อยลดราคากันง่าย ๆ เท่าไหร่ ถึงลดก็ลดไม่เยอะ (เป็นลักษณะเฉพาะของเกมจากฝั่งญี่ปุ่น) จนมาโผล่ Humble Jumbo Bundle 2 ในราคาระดับค่าเฉลี่ยแถว ๆ $6 - $7 ซึ่งมั่นใจว่าต่อให้ลดสุด ๆ ใน Steam ก็ไม่มีทางได้เท่านี้แน่ ๆ ... ผมก็เลยเพิ่งได้สอยมานี่แหละ :Dระบบเกม
ตัวเกมยังคงเหมือน ๆ KOF ดั้งเดิม เลือกตัวละครเป็นทีม 3 คน แล้วซัดกันไปเรื่อย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายนึงจะแพ้หมดทั้ง 3 คน ฝ่ายที่เหลือก็ชนะ ง่าย ๆ แค่นี้
ตัวเกมมีโหมด Tutorial ไว้แนะนำการควบคุมพื้นฐาน เช่น การกระโดดแบบต่าง ๆ การแดช การกลิ้ง ไปจนถึงการใช้เกจ การ Cancel (อันหลังนี่ผมทำไม่เป็นซะที พยายามมาหลายเกมแล้ว... orz) ใครเพิ่งเคยเล่น หรือกดมั่วมาตลอด ก็ควรเข้าไปดู จบจากโหมดนี้ก็สามารถไปลองกดได้ในโหมด Practice เลย
การตั้งค่ากราฟฟิก สามารถตั้งได้ว่าจะให้ Frame Rate คงที่หรือเปลี่ยนแปลงได้ Background อยู่นิ่งหรือขยับ แสดงผลเป็นหน้าต่าง หน้าต่างแบบเต็มจอ หรือเต็มจอ และความละเอียดปรับได้สุด ๆ ถึง 2560x1440 !!
ตัวเกมรองรับจอย USB ธรรมดาสามัญชนด้วย แต่ต้องมาตั้งปุ่มเองให้ถูกต้อง ตั้งตามภาพข้างบนนี้ได้เลยครับ (ภาพนี่ผมวาดเอง ไว้ช่วยจำว่าปุ่มไหนมันอยู่ตรงไหน ... คงจะแก่แล้วน่ะ) ถ้าใช้จอย Xbox360 ไม่ต้องตั้งใหม่ แต่ถ้าเสียบจอย Xbox360 กับจอย USB ไว้พร้อมกัน เกมจะบังคับให้จอย Xbox360 เป็นจอย 2 ตลอด ทำให้ใช้จอย Xbox360 เลือกเมนูหรือเล่นคนเดียวไม่ได้เลย วิธีแก้คือ ถอดจอย USB ออกก่อนเข้าเกม พอเข้าเกมไปแล้วค่อยเสียบไปใหม่ ก็หมดปัญหานี้
ตัวละครมีให้เลือกถึง 36 ตัว โดยเริ่มต้นจะมีมาให้ 31 ตัว ต้องปลดล็อคจากโหมด Arcade 2 ตัว ส่วนอีก 3 ตัวก็คือตัวเดิมแต่เปลี่ยนสไตล์ ได้แก่ Kyo, Iori, Takuma ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ 3 ตัวนี้แล้วกด Select (หรือปุ่ม 9 หรือ Backspace) ก็จะเปลี่ยนสไตล์ได้แล้ว เมื่อเลือกตัวละครแล้วก็จะเลือกสีได้ทันที ไม่ต้องลุ้นว่าปุ่มอะไรได้สีอะไร
นอกจากชุดสีที่เกมให้มาแล้ว เรายังสามารถสร้างชุดสีเองได้ด้วย โดยเข้าไปที่โหมด Customize ซึ่งตอนแรกจะมีสีให้เปลี่ยนส่วนละ 10 สี แต่ถ้าใช้ตัวละครเดิมบ่อย ๆ จะปลดล็อคสีเพิ่มได้ (ทีละ 5 สี)
ในโหมด Arcade ซึ่งเป็นโหมดพื้นฐานสุด ๆ ของเกม จะมี Target Action ให้เราทำ (ซึ่งมีทั้งง่าย ๆ อย่าง กระโดด 3 ครั้ง กลิ้ง 3 ครั้ง ไปจนถึงยาก ๆ อย่างทำ Combo) หากทำได้ก็จะมีรางวัลเป็นเกจไม้ตาย และยังส่งผลต่อการเจอตัวละคร 2 ตัวที่เราต้องปลดล็อคด้วย
โหมด Versus เอาไว้เล่น 2 คน หรือคนเดียวกับคอมพ์ก็ได้ สามารถเลือกได้ว่าจะสู้แบบ 1 ต่อ 1 หรือ 3 ต่อ 3 โดยในโหมดนี้สามารถกำหนด Level ของแต่ละฝ่ายได้ด้วย เอาไว้ต่อให้กันประมาณนี้...
โหมด Story ตอนแรกนึกว่าเอาไว้ดูเนื้อเรื่องอย่างเดียว (เพราะยาวซะ จบซีนนึงมีอีกซีนต่อ) แต่พอดูไปสักพักจะมี Chapter ทางแยกให้เลือก เลือกแล้วก็จะให้เลือกทีมแล้วก็สู้ไปตามปกติ (และไม่ปกติ) แล้วก็เข้าเนื้อเรื่อง แล้วก็เลือก Chapter ไปมาแบบนี้ เป้าหมายคงหนีไม่พ้นการปลดเนื้อเรื่องให้ครบนี่แหละ
โหมด Mission เป็นที่รวมโหมดที่โหยหาสำหรับคนเล่นคนเดียว เข้าไปแล้วจะเจอโหมดย่อย ๆ ได้แก่ Time Attack พยายามเคลียร์ให้เร็วที่สุด Survival สู้ไปเรื่อย ๆ ดูว่าจะล้มได้สักกี่ตัว และ Trial ที่โหดมาก ๆ เพราะเราต้องกด Combo ให้ได้ตามที่เกมกำหนด (มีขึ้นปุ่มให้ดู)
และโหมด Online ที่ให้เราได้สู้กับผู้เล่นทั่วโลก (ถ้ามี) ผมมีโอกาสได้ลองสู้อยู่ 2 ครั้ง ก็ลื่นไหลดีไม่มี Lag เสียแต่หาคนเล่นยากไปนิด หวังว่าถ้าเกมลดราคาอีกทีน่าจะเพิ่มคนเล่นได้มากขึ้น...
พอสู้ในโหมด Online จบ เราจะเซฟ Replay ไว้ดูได้ ระหว่างดูสามารถกดโชว์สถิติและปุ่มกดได้ด้วย (ในภาพขอสารภาพว่า ผมแพ้เพราะไอ้ HP HP HP HP HP ... HP นี่แหละ)
สรุป
ตัวเกมก็เหมือนเกม Fighting ทั่วไป คือเล่นได้เรื่อย ๆ กดท่าไม้ตายง่ายดี มีตารางท่าให้ดู เล่นคนเดียวก็มีอะไรให้ปลดล็อคเยอะ เล่น 2 คนก็จัดทีมสู้กันได้หลากหลาย เบื่อ ๆ ก็มีโหมด Online ให้ท้าทาย (ถ้าหาคนเล่นได้นะ) เสียก็แต่ตัวละครที่เริ่มเบื่อหน้าเบื่อท่ากันแล้ว แถมดีไซน์ของภาคนี้ก็ดูแปลก ๆ โดยเฉพาะคอสตูมบางตัวที่ไม่รู้ทำไมดูแล้วหงุดหงิด ท่าไม้ตายก็รู้สึกเหมือนมีอะไรหาย ๆ ไป (อาจเพราะไปเล่นเกมอื่นที่ท่าเพียบมาเลยรู้สึกน้อยมั้ง)ก็คุ้มตังค์นะ สำหรับราคา $6.66 จาก Humble Bundle (ตอนนี้ขึ้นเป็น $6.8 กว่า ๆ ไปแล้ว) เพราะเกมเต็มนี่ราคา $29.99 ถ้าจะรอให้ Steam ลดราคาได้เท่านี้ก็ต้องลด 77% เท่านั้น (ซึ่งแค่ 75% ยังยากโคตรเลย) เสียแต่ตอนที่เขียนเอ็นทรี่นี้ (1 ก.ย. 2557) มันเหลือเวลา Bundle นี้แค่ 1 วันกว่า ๆ เท่านั้น
ใครสนใจแนะนำให้สอยตอนลดราคาครับ อาจฟังดูโหดร้ายสำหรับผู้พัฒนาเกม แต่ราคาเต็มมันไม่ค่อยคุ้มจริง ๆ แหละ เพราะเกมค่อนข้างเก่าแล้ว คนเล่นออนไลน์ไม่มาก (หรือคนน้อยเฉพาะ Rank เดียวกับผมหว่า?) ความรู้สึกก็เดิม ๆ เหมือน KOF ที่ผ่าน ๆ มา (แต่ผมว่าสู้ช่วงปี 98 - 99 ไม่ได้) ถ้าจ่ายราคาเต็มเท่านั้น ไปหาอะไรใหม่ ๆ ดีกว่านะ...
แม้แต่ลิงยังกดท่านี้ได้... |
ข้อมูลเพิ่มเติม :
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น