[บันทึก] ได้ Amber กับเขาซะที...
พาดหัวไม่เป็นภาษามนุษย์แบบนี้จะมีคนรู้เรื่องมั้ยเนี่ย? คือ... เรื่องวันนี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับ Lumia 520 อีกเช่นเคย และเจ้า Amber Update นี่ก็คือชื่อของการอัพเดตครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของ Lumia ตระกูล x20 ที่เรียกกันว่า GDR2 ซึ่งไมโครซอฟท์ปล่อยออกมาตั้งแต่เดือนกรกฎา แต่โนเกียเพิ่งทยอยปล่อยมาให้อัพเดตเมื่อเดือน 2 เดือนนี่เอง โดยตั้งชื่อตัวอัพเดต GDR2 ของโนเกียนี่ว่า 'Lumia Amber'
แม้ตัวเฟิร์มแวร์จะได้รับการทดสอบอย่างดีว่าไม่มีปัญหา แต่หลายคนดันไปเจอปัญหาตอนอัพเดตแทน คือหนึ่งในขั้นตอนการอัพเดตจะมีเฟืองขึ้นมาหมุนบนหน้าจอ บางคน (อย่างผม) หมุนแค่ 10 นาทีก็ผ่าน แต่บางคน 2 วัน 2 คืนก็ยังไม่เสร็จ!! O_o หนทางป้องกันขั้นต้นคือ อย่างน้อยก่อนอัพเดตก็ควรชาร์จให้เต็ม เสียบปลั๊ก แล้วค่อยอัพเดต..
การอัพเดตของผมกินเวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง (เวลาอยู่กับเฟือง 10 นาที) และต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ได้เพิ่มมา... (ถึงเขาจะเขียนกันไปเยอะแล้ว แต่ขออีกทีเถอะ)
โดยเมื่ออัพเดตเป็น Amber แล้ว Data Sense จะโผล่มาเป็นแอพตัวนึง เรียกใช้ได้เลย พอเปิดมาแล้วก็ต้องตั้งค่าแพ็คเกจเน็ตที่เราใช้ ว่าเป็นรายเดือนหรือรายกี่วัน จำกัดข้อมูลเท่าไหร่ ถ้าไม่ใส่หรือใส่เป็นไม่จำกัด มันก็จะแค่แสดงปริมาณการดาวน์โหลดให้ดูเฉย ๆ (ดังภาพข้างบน)
นอกจากแสดงข้อมูลรวมแล้ว ยังแยกเป็นแต่ละแอพให้ดูอีก จะได้วางแผนกันถูก จัดเป็น feature ที่รอกันมานานเลยทีเดียว
การใช้งานอาจจะขัดใจนิดนึง คือ ไม่สามารถ add เบอร์เข้าไปโต้ง ๆ ได้ ต้องกดบล็อคจากประวัติการโทรเท่านั้น (โดยแตะค้างไว้จนเมนูขึ้น) จำกัดแค่ 1000 เบอร์ด้วย พอมั้ยล่ะ?
เท่าที่จิ้ม ๆ ดู ก็เจอพวก true กับ 3BB คิดว่าคงไม่เอา Wi-Fi ตามบ้านมาหรอก สามารถเลื่อนแผนที่ดูได้เรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นบริเวณที่เราอยู่ มีระบบนำทางให้ด้วยว่า จะเดินทางไปหา Wi-Fi นั่นยังไง..
หน้าตางี้โคตรเรียบ สามารถบันทึกคลื่นที่ชอบได้ มีปุ่ม Pause ไว้หยุดฟังได้ (แต่รายการวิทยุไม่หยุดตามเราหรอกนะ) และสามารถเปิดฟังขณะใช้แอพอื่นได้เหมือนเปิดเพลงทั่วไป หากแตะหน้าจอนี้ค้างไว้จะมีเมนูให้เปิดเสียงออกลำโพงได้
ตัว Smart Camera นี่ ว่ากันตามตรงมันก็คือเวอร์ชั่นอัพเกรดของ Smart Shoot นั่นแหละ เป็นการถ่ายภาพต่อเนื่องหลาย ๆ ช็อตแล้วเอามาทำอะไรสักอย่าง เช่น
ภาพเคลื่อนไหว : ใช้ถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหว แล้วจับมาทำเอฟเฟคแยกร่าง เหมาะกับการเคลื่อนไหวจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง...
โฟกัสภาพเคลื่อนไหว : โฟกัสไปที่วัตถุ แล้วใส่โมชั่นเบลอให้ฉากหลัง ทำให้เหมือนถ่ายภาพอะไรสักอย่างกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
ภาพที่ถ่ายจะเซฟเป็นไฟล์ของ Smart Camera แล้วสามารถเปิดกลับไปแก้ได้เรื่อย ๆ แต่จะเลือกภาพล่าสุดไปดูได้ภาพเดียวเท่านั้น แต่ก็กลับไปเลือกได้เรื่อย ๆ แหละ (ลองอัพขึ้น SkyDrive ก็ได้ภาพ .jpg มาภาพเดียว)
สามารถไปปรับได้ที่เมนู หน้าจอ ก็ใช้ปรับอุณหภูมิสีกับความอิ่มตัวของสี แต่ปรับแล้วไม่ค่อยต่างแบบเห็นได้ชัดเท่าไหร่ (เมื่อเทียบกับการปรับในคอมพ์) บางทีอาจจะมีประโยชน์กับมืออาชีพก็ได้มั้ง
นอกจากนี้ก็มีลูกเล่น "คว่ำหน้าไม่รับสาย" คือ พอมีสายเข้าก็จับมือถือคว่ำ ก็จะเป็นการตัดเสียงทิ้งทันที อีกอย่างก็คือ... รู้สึกได้ที่ว่างในเครื่องคืนมาราว ๆ 200 เม็ก
ส่วนความสามารถที่ 520 ไม่ได้มาก็มี...
หลักฐานการอัพเดต |
กว่าจะได้มา
ตอนแรกหลาย ๆ คนคิดว่า Lumia จะได้ GDR2 ก่อนใครแน่ ๆ เพราะความสัมพันธ์แน่นแฟ้นปานจะกลืนกินขนาดนั้น (ประกาศกินกันเรียบร้อย) แต่เอาเข้าจริง ๆ ซัมซุงกับ HTC ที่ทำ Windows Phone 8 เหมือนกันกลับปล่อยออกมาก่อน และ.... HTC ก็โดนเข้าเต็ม ๆ เพราะบางเครื่องดันอัพเดตแล้วเกิดอาการ brick (หมายถึง เครื่องค้างจนไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีกต่อไป อะไรทำนองนี้น่ะ..) เพราะเหตุนี้มั้ง โนเกียถึงไว้เลื่อนเวลาปล่อยออกไปเพื่อทดสอบให้แน่ใจทุกรุ่นว่าไม่พลาดแน่! โดยทยอยปล่อยออกมาทีละรุ่น และแยกไปตามประเทศต่าง ๆ ประเทศไทยเริ่มจาก 920 620 820 และล่าสุด 520 ของผมนี่เอง!! (520 ในไทยจะแยกเป็นรุ่น RM-915 กับ RM-914 ตอนนี้ RM-915 จะได้ก่อน)อีเฟืองมรณะ |
การอัพเดตของผมกินเวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง (เวลาอยู่กับเฟือง 10 นาที) และต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ได้เพิ่มมา... (ถึงเขาจะเขียนกันไปเยอะแล้ว แต่ขออีกทีเถอะ)
Data Sense
เป็น feature ที่ติดมากับ Windows Phone 8 นานแล้ว แต่เดิมใช้ได้แค่บางเครือข่าย (จริง ๆ รู้สึกจะมีเครือข่ายเดียว) ความสามารถของมันคือ คอยนับปริมาณข้อมูลที่เครื่องเราดาวน์โหลดมาเพื่อเตือนเราว่าจะเกินโควต้าหรือติด FUP เมื่อไหร่โดยเมื่ออัพเดตเป็น Amber แล้ว Data Sense จะโผล่มาเป็นแอพตัวนึง เรียกใช้ได้เลย พอเปิดมาแล้วก็ต้องตั้งค่าแพ็คเกจเน็ตที่เราใช้ ว่าเป็นรายเดือนหรือรายกี่วัน จำกัดข้อมูลเท่าไหร่ ถ้าไม่ใส่หรือใส่เป็นไม่จำกัด มันก็จะแค่แสดงปริมาณการดาวน์โหลดให้ดูเฉย ๆ (ดังภาพข้างบน)
นอกจากแสดงข้อมูลรวมแล้ว ยังแยกเป็นแต่ละแอพให้ดูอีก จะได้วางแผนกันถูก จัดเป็น feature ที่รอกันมานานเลยทีเดียว
บล็อคเบอร์โทร / SMS
อันนี้ก็รอคอยกันมาตั้งนาน บล็อคเบอร์โฆษณาและ SMS ขยะทั้งหลายได้ซะทีการใช้งานอาจจะขัดใจนิดนึง คือ ไม่สามารถ add เบอร์เข้าไปโต้ง ๆ ได้ ต้องกดบล็อคจากประวัติการโทรเท่านั้น (โดยแตะค้างไว้จนเมนูขึ้น) จำกัดแค่ 1000 เบอร์ด้วย พอมั้ยล่ะ?
ค้นหา Wi-Fi ที่ใกล้เคียง
เจอได้จากหน้าที่เราใช้เปิด-ปิด Wi-Fi ความสามารถก็ตามชื่อคือ เอาไว้ค้นหา Wi-Fi Hotspot ...เท่าที่จิ้ม ๆ ดู ก็เจอพวก true กับ 3BB คิดว่าคงไม่เอา Wi-Fi ตามบ้านมาหรอก สามารถเลื่อนแผนที่ดูได้เรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นบริเวณที่เราอยู่ มีระบบนำทางให้ด้วยว่า จะเดินทางไปหา Wi-Fi นั่นยังไง..
วิทยุ FM
มีพ่อบางคนเคยขาย Lumia 920 ทิ้งไปเพราะมันไม่มีวิทยุ FM แต่ตอนนี้ถ้าอัพเดต Amber ก็จะรองรับวิทยุ FM ทันที!! (ยกเว้น 620 ที่ออกแบบฝาหลังแนวเกินจนเป็นเรื่อง เลยอดเลย...) สามารถเข้าไปใช้ได้ทาง Music + Video และต้องเสียบหูฟังไว้เพื่อเป็นเสาอากาศตามฟอร์มหน้าตางี้โคตรเรียบ สามารถบันทึกคลื่นที่ชอบได้ มีปุ่ม Pause ไว้หยุดฟังได้ (แต่รายการวิทยุไม่หยุดตามเราหรอกนะ) และสามารถเปิดฟังขณะใช้แอพอื่นได้เหมือนเปิดเพลงทั่วไป หากแตะหน้าจอนี้ค้างไว้จะมีเมนูให้เปิดเสียงออกลำโพงได้
Nokia Smart Camera
อันนี้จะไม่ได้ติดมากับ Amber แต่พออัพเดต Amber แล้วจะติดตั้งและใช้แอพ Nokia Smart Camera นี่ได้ (และพวกรุ่นบน ๆ จะใช้ Pro Camera ได้อีกตัว) แน่นอนว่าต้องเข้าสโตร์ไปโหลดเอาเองครับตัว Smart Camera นี่ ว่ากันตามตรงมันก็คือเวอร์ชั่นอัพเกรดของ Smart Shoot นั่นแหละ เป็นการถ่ายภาพต่อเนื่องหลาย ๆ ช็อตแล้วเอามาทำอะไรสักอย่าง เช่น
- เลือกภาพที่ดีที่สุด : ถ่ายมาตั้งหลายช็อต ต้องมีสักช็อตที่รอดล่ะน่า..
- ลบวัตถุเคลื่อนไหว : ใช้ในกรณีที่มีอะไรเดินหรือบินผ่านหน้ากล้อง แต่ต้องมีช็อตที่ไม่มีวัตถุนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการด้วย
- เปลี่ยนหน้า : เวลาถ่ายรูปหมู่ บางทีคนนั้นหาว คนนี้กระพริบตา ก็เลือกเปลี่ยนหน้าแต่ละคนได้
จะเอาอะไรกับหมา ถ่ายได้แค่ครึ่งทางนี่แหละ |
ไปอย่างไว... |
ภาพที่ถ่ายจะเซฟเป็นไฟล์ของ Smart Camera แล้วสามารถเปิดกลับไปแก้ได้เรื่อย ๆ แต่จะเลือกภาพล่าสุดไปดูได้ภาพเดียวเท่านั้น แต่ก็กลับไปเลือกได้เรื่อย ๆ แหละ (ลองอัพขึ้น SkyDrive ก็ได้ภาพ .jpg มาภาพเดียว)
อื่น ๆ ที่ได้และไม่ได้
อีกอย่างที่ได้มา แต่รู้สึกไม่สำคัญเท่าไหร่ คือการตั้งโปรไฟล์สี...สามารถไปปรับได้ที่เมนู หน้าจอ ก็ใช้ปรับอุณหภูมิสีกับความอิ่มตัวของสี แต่ปรับแล้วไม่ค่อยต่างแบบเห็นได้ชัดเท่าไหร่ (เมื่อเทียบกับการปรับในคอมพ์) บางทีอาจจะมีประโยชน์กับมืออาชีพก็ได้มั้ง
นอกจากนี้ก็มีลูกเล่น "คว่ำหน้าไม่รับสาย" คือ พอมีสายเข้าก็จับมือถือคว่ำ ก็จะเป็นการตัดเสียงทิ้งทันที อีกอย่างก็คือ... รู้สึกได้ที่ว่างในเครื่องคืนมาราว ๆ 200 เม็ก
ส่วนความสามารถที่ 520 ไม่ได้มาก็มี...
- Glance Screen : ไว้แสดงนาฬิกากับสถานะแบตเตอรี่ตอนพักหน้าจอ มือถือเครื่องแรกผมทำได้แฮะ แต่ 520 นี่ อด...
- แตะสองทีเพื่อปลดล็อค : แตะหน้าจอ 2 ทีเพื่อปลุกเครื่องแทนปุ่มปลดล็อค น่าจะยืดอายุปุ่มปลดล็อคได้ดี แต่เห็นใน 820 ของพี่มันเขียนว่า จะกินแบตมากขึ้น (ดีแล้ว ถึงมีผมก็คงปิดไว้)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น