[คิดไม่ออก ต่อกันพลา] HGUC Gundam Mk-II (Titans) Ver. Revive

ห่างหายไปกว่าครึ่งปี ในที่สุดเอ็นทรี่กันต่อพลาก็กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งแล้วครับ (มีใครรอรึเปล่าหว่า?) คราวนี้เป็นตัวที่ออกปีที่แล้ว แต่เพิ่งเอามาต่อตอนวันปีใหม่ แล้วก็มาถ่ายรูปกับอัพบล็อกวันนี้นี่เอง...

ตัวนี้สำหรับผม มันเป็น "ตัวแรก" ในหลาย ๆ ความหมาย ทั้ง กันพลาที่ไม่มีชิ้นใสตามตัวตัวแรก กันพลาที่เท้าไม่มีสีแดงตัวแรก กันพลาที่มีปืนแบบไม่พ่วงดาบตัวแรก กันพลาในจักรวาล UC ตัวแรก กันพลาที่ผมไม่เคยดูอนิเมมันมาก่อนตัวแรก และ กันพลาที่ราคาต่ำกว่า 600 ตัวแรก...



Gundam Mk-II (Titans) คือ?

มันเป็นกันดั้มจากอนิเมเรื่อง Mobile Suit Z Gundam (อ่านว่า เซต้ากันดั้ม) ที่ผมไม่เคยดูหรอก แต่อ่านเรื่องย่อมาพอรู้ว่า เจ้า Mk-II นี่ถูกสร้างโดยกลุ่ม Titans ซึ่งสร้างออกมาถึง 3 ตัว แล้วจู่ ๆ กลุ่ม A.E.U.G. (อ่านว่า 'เอวโก้' ครับ อย่าสงสัยว่ามันอ่านแบบนี้ได้ไง ที Zaku ยังอ่าน 'แซ็ค' ได้เลย...) ก็มาขโมยไปซะ เอาไปหมดทั้ง 3 ตัวนั่นแหละ จากนั้นจับไปทำอะไหล่และส่งไปวิจัยซะ 2 ตัว เหลือตัวนึงจับย้อมสีขาวซะ เหตุนี้ Gundam Mk-II จึงมี 2 สีให้เลือกคือ น้ำเงินมืด ๆ ซึ่งเป็นสีของ Titans และ สีขาวเป็นสีของ A.E.U.G.

พอแต่งเรื่องมาแบบนี้ ก็เข้าทางบันไดสิครับ ทำมาขายทั้ง 2 สีซะเลย! โชคดีที่ทั้ง 2 สีมักจะขายแบบธรรมดาทั้งคู่ คือไม่มีสีใดสีหนึ่งเป็น P-Bandai (สินค้าพรีเมี่ยมราคาพรีเมี่ยมต้องสั่งออนไลน์เท่านั้น) แล้วมักจะออกติด ๆ กันหรือออกมันพร้อมกันไปเลย ทำให้คนที่ซื้อได้สีเดียวต้องกลุ้มใจเล่นทุกครั้งไป...

แล้ว Mk-II นี่มีอะไรดี? ก็ไม่มีอะไรดีหรอก เกราะก็ไม่แข็งเท่ากันดั้มตัวแรก อาวุธก็งั้น ๆ คอร์ไฟท์เตอร์อะไรก็ไม่มี แถมแม้จะชื่อ Mk-II แต่ก็ไม่ได้เป็นกันดั้มตัวที่ 2 ในประวัติศาสตร์ UC ซะอีก จุดเด่นเพียงอย่างเดียวคือ มันเป็นหุ่นตัวแรกที่ใช้โครงสร้างแบบ Movable Frame หรือโครงในที่รวมกลไกการเคลื่อนที่ไว้เรียบร้อย แค่เอาเกราะ อาวุธ แหล่งพลังงาน มาแปะเพิ่มก็พร้อมใช้แล้ว แต่ตอนหลังไอ้โครงสร้างนี้ก็ใช้กันแพร่หลายอ่ะนะ เฮ้อ.... อ้อ มีดีอีกอย่าง คือ พระเอกขับ! (แค่ช่วงแรก)



อะไรคือ Ver. Revive

เป็นโปรเจ็คของบันได ที่เอากันพลาในซีรี่ส์ HGUC ตัวดัง ๆ เด่น ๆ ที่ออกมาหลายปีแล้ว มาทำใหม่โดยใช้เทคโนโลยีและแนวคิดในปัจจุบัน เช่น หุ่นเพรียวขึ้น สัดส่วนลงตัวขึ้น แยกสีดีขึ้น ซ่อนรอยประกบได้ดีขึ้น จุดขยับดีขึ้น และไม่แถมของโง่ ๆ อย่างบีมเซเบอร์ที่ติดตายเป็นชิ้นเดียวกับมือ...

แรกเริ่มเดิมทีซีรี่ส์ HGUC ก็มีแต่หุ่นจากจักรวาล UC จนปี 2010 จู่ ๆ บันไดก็เริ่ม All Gundam Project เอากันดั้มของตัวเอกในภาคต่าง ๆ กลับมาทำใหม่ แล้วเรียกรหัสตามจักรวาลนั้น เช่น HGAW (กันดั้ม X), HGFC (G Gundam), HGAC (กันดั้ม Wing), HGCE (Seed/Seed Destiny/Astray), HGCC (Turn-A) แต่จะนับเลขลำดับรวมกับ HGUC ไปเลย คนก็เลยเรียกซีรี่ส์นี้รวม ๆ ว่า HGUC นั่นแหละ

Mk-II Titans Ver. Revive เป็น HGUC ลำดับที่ 194 นะครับ


น่าเสียดายที่ซีรี่ส์หลัง ๆ ตั้งแต่ OO เป็นต้นไป ยังไม่เคยเคยถูกเอามารวมอยู่ใน HGUC เลย ใครที่หวังจะเห็นหุ่นในซีรี่ส์ OO กับ AGE กลับมาทำใหม่เป็น Ver. Revive ก็คงต้องฝันไปก่อน (แต่รู้สึกปีหน้า OO จะครบ 10 ปี OO แล้ว อาจจะมีข่าวดีก็เป็นได้...)



ทำไมเลือก Gundam Mk-II (Titans) ?

จุดเริ่มต้นมันมาจากการที่ผมมีแต่กันพลาที่อาวุธอลังการ ทำให้เริ่มอยากได้กันดั้มที่มีอาวุธแบบพื้น ๆ บ้าง จึงเริ่มเล็ง RG Mk-II ตั้งแต่ปลายปี 2014 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ แถมตอนหลังยังเข็ดขยาดจาก RG อีก จึงผ่านเลยไป...

จนในที่สุดบันไดก็ประกาศ HGUC Gundam Mk-II Ver. Revive ออกมา.. ตอนแรกมาสีเดียว (สีเอวโก้) แต่ตอนหลังก็ประกาศสี Titans ตามมา และสุดท้ายก็วางขายพร้อมกันทั้ง 2 สี  โอกาสเป็นเจ้าของกันดั้มแบบพื้น ๆ มาถึงแล้ว ทำไมผมจะไม่คว้า! แต่...

แล้วทีนี้มันก็เป็นปัญหาละ จะเอาสีไหนดี? (คือ นาน ๆ จะซื้อกันพลาที เลยไม่บ้าพอที่จะซื้อกันพลาที่ต่อเหมือนกันเปี๊ยบมา 2 ตัวหรอกนะ...) ผมเที่ยวถามเขาไปทั่ว แต่ผลออกมาคือเสมอกัน สุดท้ายพอมันออกวางขาย ผมก็เช็คตามเว็บรีวิว คลิปรีวิว แล้วพบว่า... คนญี่ปุ่น ถ้าเลือกแค่ตัวเดียว เขาจะเลือกสีเอวโก้ ส่วนประเทศที่เหลือ จะเลือกรีวิวสี Titans ก่อน อืม สรุปเลยว่า

ข้อดี/เสีย สี AEUG (ขาว)
  • สีพระเอก
  • ไม่ค่อยเห็นรอยตัด
  • ไม่มืด
  • ฝุ่นเกาะไม่ค่อยเห็น
  • เก็บไว้นาน ๆ จะเหลือง
  • กันดั้มก็สีแบบนี้ทั้งนั้น ไม่เบื่อรึไง
ข้อดี/เสีย สี Titans (น้ำเงินเข้ม)
  • นาน ๆ ทีจะมีกันดั้มสีนี้
  • มีมาร์คกิ้งตัวเลขให้ติดด้วย
  • แลดู Strong!
  • ไม่มีปัญหาตัวเหลือง
  • สีเหลืองตามตัวดูโดดเด่น
  • มืดเกิน บ้านมืด ๆ มองไม่เห็น
  • รอยตัดมองเห็นง่าย
  • ฝุ่นเกาะมองเห็นง่าย
สุดท้ายผมก็เลือกสี Titans ด้วยเหตุผล "นาน ๆ ทีจะมีกันดั้มสีนี้" ส่วนคุณ (ถ้าสนใจจะซื้อสักตัว) ก็เอาข้อดีข้อเสียข้างบนนี้ไปพิจารณาดูครับ...



ดองกล่องแล้วก็ลองต่อ

คราวนี้ก็ซื้อร้านเดิมกับ 3 ตัวที่แล้ว ตัวต่อ ๆ ไปก็คงซื้อร้านเดิม คงซื้อร้านเดิมไปจนกว่าจะปิดกิจการกันไปเลยล่ะมั้ง...

เปิดกล่องมาก็เจอสีน้ำเงินออกมาต้อนรับ (ถ้าเอวโก้ก็เจอสีขาวแทน) ชิ้นส่วนดูไม่เยอะเท่าไหร่ ของต่ำกว่า 600 บาทก็แบบนี้แหละ เอาไรมาก

ที่ลุ้นมานานคือ สีน้ำเงินเนี่ยมันจะออกมาโทนไหน เพราะดูรีวิวบางเว็บก็สวยแต่บางเว็บดูมืด ๆ ดิบ ๆ สรุปว่า เป็นสีน้ำเงินเข้มที่สวยทีเดียวครับ มันเข้มแบบซอฟต์ ๆ ลงนิดนึง แต่ถ้าแสงไม่พอมันจะมืดมนมองแทบไม่เห็นไปเลย..

ผิดหวังก็อีตรงแผงสีดำนี่แหละครับ เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นพลาสติกสีดำสนิทจากบันไดมาก่อน กันพลากี่ตัว ๆ ที่ผมเคยต่อมันก็ให้มามากสุดแค่เทาเข้มสุด ๆ เท่านั้น (ซึ่งเป็นสีที่ผมชอบมาก) เลยคิดว่าตัวนี้ก็คงเป็นงั้น แต่มันดันดำสนิทเลยซะงั้นน่ะ

ก็ให้ดูแผงแค่นี้ละ อยากดูแผงทั้งหมดก็ไปดูที่ Dalong กับ Kenbill แทนละกัน

สี Titans จะไม่มีสติ๊กเกอร์สีเหลืองติดโล่แบบสีเอวโก้ มีแค่ที่ตากับเซนเซอร์ตาม หัว ไหล่ ตู.. เอ้ย! อาวุธ เท่านั้น แต่จะได้มาร์คกิ้งตัวเลข 01 02 03 มาติดที่ไหล่ เข่า และ ตูด (ใช่ ตูด...)

อุปกรณ์ในการต่อครั้งนี้ นอกจากคอตตอนบัดกับไม้จิ้มฟันแล้ว ก็มี 3 สหายนี้ ซึ่งเป็นหน้าเก่า 1 หน้าใหม่ 2 ได้แก่...
  • มีด OLFA รุ่น AK-1 : ราคา 200 กว่า ซื้อที่ B2S (Officemate ก็มี แต่จะอยู่ตรงตู้แคชเชียร์ และ ของชอบหมด..) เป็นมีดมีชาติตระกูลครับ คมมาก เซ็ทนี้แถมใบมีด 25 ใบกันเลยทีเดียว
  • คีมตัดไดโซ : หน้าเก่าที่ใช้มาหลายครั้ง ลองไปหามาสำรองอีกอัน แต่ไม่เห็นมีขายแล้ว มันไม่ใช่คีมเทพนะครับ แต่ตัดดีกว่าคีมราคาต่ำกว่า 100 ด้วยกัน ข้อเสียคือ เป็นสนิมง่ายและยางตรงที่จับชอบเลื่อนหลุด
  • ที่คีบ : 40 บาท เจอที่แผงในตลาด ปลายแหลมกว่าที่คีบทั้งหมดที่พบในไดโซ เวลาเลือกซื้อดูดี ๆ ว่าปากมันประกบสนิท
ซ้าย-ใบมีดของ OLFA  ขวา-ใบมีดไดโซ (และร้านเครื่องเขียนใกล้โรงเรียนทั่วไป) จะเห็นว่ามีดไดโซใบมีดใหญ่มาก มิน่า... รู้สึกมันบัง ๆ ตอนติดสติ๊กเกอร์ (มีดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แงะสติ๊กเกอร์และนำไปติด)

ที่คีบ... จริง ๆ ปลายแหลมนะ แต่นี่คงซูมมากไปหน่อย ก็ใช้ได้ดี แต่ไม่รู้ทำไมมันดูดสติ๊กเกอร์จัง เวลาคีบสติ๊กเกอร์ไปแปะมันจะชอบติดกลับมา...

เริ่มต่อจากลำตัวตามประสา HG ส่วนนี้มันธรรมดา ๆ เลย เห็นยังไงก็มีแค่นั้น สมใจอยากเลยสิ ข้อต่อคอจะใช้ชิ้นส่วนเฉพาะ ไม่ได้ใช้ชิ้น Polycap แบบ HG ตัวอื่นเขา ทำให้เงยหน้าได้มากกว่าชาวบ้าน

ส่วนตาให้มาเป็นชิ้นใสครับ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Ver.Revive ที่จะให้ตากันดั้มมาเป็นชิ้นใส และให้เลือกว่าจะติดสติ๊กเกอร์สีเงินสะท้อนแสงไว้ข้างหลังเพื่อช่วยให้ตาแวววาว หรือจะเอาสติ๊กเกอร์ตาแบบเดิม ๆ ปิดทับชิ้นใสไปเลย  ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกแบบหลังเพราะเห็นตาชัดกว่า แต่ไหน ๆ เขาก็ให้ชิ้นใสมาแล้ว ผมขอโชว์ชิ้นใสละกัน (ปกติเป็นคนถ่ายตากันดั้มไม่ค่อยติดอยู่แล้วด้วย)

แล้วก็ได้ส่วนหัวมาในเวลาอันสั้น...

ส่วนแขนก็เหมือน HG รุ่นหลัง ๆ คือมีโครงในทั้งแขนแล้ว ตอนต่อแขนนี่ ผมได้ทดสอบความคมของมีด OLFA เรียบร้อยครับ บาดนิ้วชี้ซ้าย (ของผมไม่ใช่ของกันพลา) ไปเต็ม ๆ ซึ่งแผลที่ได้มันโค้งมนสวยงามมาก ของเขาดีจริง ๆ ครับ (ระวังตอนเฉือนติ่งตรงเกราะแขนส่วนบนไว้ครับ)

ครึ่งตัวผ่านไป... โปรดสังเกตว่าแขนสามารถยกขึ้นได้ ยกได้จนเกราะไหล่ไปติดหัวเลย แต่ต้องชดเชยโดยแขนจะขยับมาข้างหน้าได้น้อยลง

เท้า... ใหญ่มากครับ ขนาด Ver. Revive นี่ลดขนาดเท้าลงจากรุ่นเก่าแล้วนะ ส่วนหนึ่งคงผิดที่ผมดันเก็บแต่พวกเท้าเล็กอย่าง Exia, OO Gundam เลยรู้สึกว่ามันใหญ่มากกกกก

ขานี่เซอร์ไพรส์มาก เพราะมีโครงในกับเขาด้วย ไม่น้อยหน้าซีรี่ส์ IBO (Iron Blooded Orphants) ที่ออกมาช่วงเดียวกัน

เอวก็ธรรมดา แต่แปลกตรงแกนที่ใช้เชื่อมขามันไม่เหมือนที่เคยเห็น HG ที่เคยต่อมาแกนจะเป็นท่อสำหรับเสียบฐานแล้วมีเดือยเสียบขาออกมา 2 ข้างแค่นั้น แต่คราวนี้เป็นชิ้นส่วนใหญ่เลย อาจจะเพราะขาหนัก

ส่วน Backpack ลืมถ่ายมา จริง ๆ ถ่ายใหม่ได้ แต่ก็ขี้เกียจถ่ายนั่นแหละ

อาวุธต่อไม่ยาก แต่พวกสติ๊กเกอร์เซนเซอร์นี่ลำบากไปนิด มันเล็ก ๆ แคบ ๆ เล็งยากมาก อาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมดได้แก่...
  • บีมไรเฟิล : ปืนมาตรฐานกันดั้ม ใคร ๆ ก็มีกัน แต่ผมเพิ่งมีกระบอกแรก! (ที่ไม่พ่วงดาบ)
  • ไฮเปอร์บาซูก้า : บาซูก้าที่จักรวาล UC ชอบใช้กัน (จักรวาลอื่นชอบเล่นบีมแคนนอน) นี่ก็กระบอกแรกของผม
  • โล่ : โล่ธรรมดา หดให้สั้นได้โดยการถอดแล้วเปลี่ยนช่องเสียบ
  • ตัวติดโล่ 2 แบบ : อันนึงใช้ติดให้โล่อยู่ด้านข้างแขน ส่วนอีกอันใช้ติดให้อยู่หลังแขน
  • บีมเซเบอร์ x2 : ปกติด้ามจะติดอยู่กับ backpack ก็ต้องถอดมาติดบีม
  • วัลแคนพอด : ปืนเม็ดถั่วที่เห็นกันดั้มตัวอื่นชอบยิงจากหัว แต่ Mk-II ไม่มีติดหัว เลยทำออกมาเป็นอุปกรณ์สำหรับติดหัวแทน
  • มือ : มีแค่คู่เดียว เป็นมือแบบมีรูสำหรับถืออาวุธ .... งกจริง ๆ

ต่อเสร็จใช้เวลา 4 ชั่วโมงนิด ๆ ส่วนใหญ่เสียเวลาเล็มติ่งที่เหลือจากการตัดนั่นแหละ ยิ่งตัวสีเข้ม ๆ งี้นะ ไม่อยากจะพูด เคลียร์รอยตัดยากสุด ๆ เฉือนแหว่งไปหลาย ตัวนี้พอต่อเสร็จตอนยกขึ้นมาครั้งแรกนี่รู้สึกเลยว่าขามันหนักมาก ก็มีโครงในนี่นะ...



โพสท่า ถ่ายรูป

อย่างที่เคยบอกไว้ตอนต่อ OO-Raiser ว่า ถ้าจัดแสงไม่ดีพอจะยังไม่เอาลงบล็อก ครั้งนี้ผมเลยทดสอบอย่างหนักเพื่อให้ได้สภาพแสงที่พึงพอใจมากที่สุด ภายใต้งบที่ไม่เกินเลย และที่สำคัญคือไม่รกบ้าน...

สภาพจุดถ่ายรูปก็เลยออกมาแบบนี้ ฉากเป็นสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่เอามากางทั้งอย่างงั้น ไม่มีกำแพงให้พิง? เอาเก้าอี้มา ทางซ้ายเป็นโคมติดหลอดเกลียวฟลูออเรสเซนส์ 20 วัตต์ ซึ่งเทียบเท่าหลอดไส้ 100 วัตต์ ส่วนทางขวาเป็นหลอด LED ที่ใช้คราวก่อน (6.3 วัตต์ เทียบเท่าหลอดไส้ 37 วัตต์) และเอากระดาษ A4 มาบังไว้ลดการกระจายแสงทั้ง 2 หลอด

กล้องยังคงเป็น Lumia 520 แต่ครั้งนี้ตัวกันพลามันมืดเกิน เลยต้องเลิกเป็นพวก Auto นิยม หันมาปรับกล้องโดยปรับ White Balance เป็นกลางแจ้ง และความสว่างเป็น 1.0


และก็ถ่ายออกมาได้แบบนี้แล... ผมตัดสินใจติดมาร์คกิ้งหมายเลข 02 เพราะว่าไม่อยากแข่งเป็นเลข 1 กับใครเขา (แบบช่องทีวีดิจิตอลบางช่อง) และ ใคร ๆ ก็ติดเลข 03 กันเพราะมันเป็นตัวที่ถูกเอาไปย้อมเป็นสีเอวโก้ไง สุดท้ายเอาเลข 02 นี่แหละ

พอต่อเสร็จ ลองเอาตั้งโชว์ ผมก็พบว่า... เลือกสีผิดแท้ ๆ เพราะบ้านมันมืด ทำให้พอมองไกล ๆ แทบมองอะไรไม่เห็นเลย นอกจากไอ้พวกสีเหลือง ๆ นั่น ไอ้นี่มันมืดยิ่งกว่า Exia Dark Matter อีก

ด้านหลังจะเห็นทรัสเตอร์ 4 อันตรง backpack ดูแข็งแกร่งมาก มาร์คกิ้งตัวเลขอันเล็กสุดจะติดที่กระโปรงหลัง ซึ่งผมติดพลาดไปนิดนึงเลยลอกติดใหม่ทำให้ดูไม่เนียนเท่าข้างหน้า แถมดันเอานิ้วลูบ ๆ จนตัวเลขเลือนไปนิดนึงอีกต่างหาก (แต่มาร์คกิ้งอันนี้สกรีนแน่นกว่าของ RG เยอะนะ ไม่ลบเลือนง่าย ๆ ต้องขูดแรงจริง ๆ)

จุดขยับดี บาลานซ์ดี อาจเพราะขาหนัก เท้าใหญ่ ตัวกลวง แขนแน่นมาก มากขนาดแทบถอดไม่ออก (กลัวหัก) แต่ขาถ้าขยับแบบผาดโผนมาก ๆ จะหลุดบ่อย หลุดมาทั้งขาเลย.... อีกจุดที่เป็นข้อด้อยคือ ลำตัวหมุนได้น้อยมาก ราว ๆ 30 องศา เพราะติดเกราะตรงเอว

นั่งได้สบายเลย....

ขางอได้ขนาดไปแตะ backpack นู่นเลย

สีน้ำเงินเข้ม+ดำมิดดูแข็งแกร่งมาก

backpack จะติดกับหลังโดยวิธีเสียบแล้วเลื่อนลง แต่ที่หลังจะมีรู 2 รูไว้เผื่อเอาไปติด backpack หรือพาร์ทเสริมอื่น ๆ

ตรงขามีท่อไฮโดรลิกอยู่ แต่เป็นท่อดัมมี่แบบลอย ๆ ไม่ได้เชื่อมกับเท้าแต่อย่างใด (ซึ่งก็ดีแล้ว)

ตรงเท้าจะมีข้อต่ออีกจังหวะ ทำให้งอไปข้างหลังได้มากขึ้น

ข้อต่อตรงเข่าถ้างอจนสุดจะเห็นดีเทลเพิ่ม ไม่ได้มีแค่แท่งตัน ๆ

ขาตรงหลังเข่ามีดีเทลเป็นท่อ และ ให้ดูเลข 02 ที่ติดพลาดชัด ๆ ....

ด้ามบีมเซเบอร์จะติดกับ backpack ด้วยเดือยแบน ๆ ยาว ๆ แกะออกยากพอสมควร แต่ก็ไม่แน่นเกินไป กำลังพอดี (ดีกว่าหลวม)

ถือบีมเซเบอร์...

บีมไรเฟิลที่โหยหามานาน... มือจับด้านหน้าของปืนกางออกได้เพื่อให้มือซ้ายมาจับ แต่ผมจนปัญหาที่จะให้มันจับถึงจริง ๆ แถมไอ้ตัวนี้ก็ดันไปเน้นจุดขยับยกแขนแทนด้วย แขนเลยมาข้างหน้าได้น้อยลง

เอาบีมไรเฟิลมาติดข้างเอวได้ แต่จะทำให้เอี้ยวตัวได้น้อยลง เพราะจะชนท้ายปืนหล่นตลอด

โล่แบบใช้ตัวติดด้านข้าง

ถ้าติดข้างหลังก็งี้...

โล่โหมดพับ (ถอดชิ้นส่วนเปลี่ยนรูเสียบ) คือ... ดูหนาเกิน เกะกะกว่าตอนไม่พับอีก ไม่ใช้ได้ป่ะ

ด้านในโล่จะมี Energy Pack ติดอยู่ 2 อัน (ที่เป็นแท่งเทา ๆ) มันคือของแบบเดียวกับที่ติดอยู่ตรงบีมไรเฟิล ซึ่งในรุ่น RG จะถอดได้หมด แต่ HG เรอะ? ติดตายไปเลย...

วัลแคนพอด เวลาใส่ต้องดันข้างหลังให้ชิดหัวก่อน แล้วขยับไปมา มันจะลงล็อคเอง

ไฮเปอร์บาซูก้า ก็ตามภาพ..

กระโปรงหลังจะมีบานพับให้เปิดเพื่อเก็บไฮเปอร์บาซูก้าได้ (RX-78-2 Revive ก็มีงี้ แต่ที่เก็บเป็นแบบถอดเปลี่ยน)

ที่แปลกใจคือ ตรงท้ายของไฮเปอร์บาซูก้าจะมีเดือยแบบเดียวกับที่ใช้ติดบีมไรเฟิลไว้ข้างเอว และมันก็เอามาติดได้จริง ๆ ซะด้วย แต่ติดแล้วน่าเกลียดมาก ทำมาทำไมหว่า? (ส่วนนี้ของ Gundam Mk-II รุ่น RG จะเป็นแมกกาซีนของไฮเปอร์บาซูก้าที่ถอดออกได้ แล้วก็เอามาติดเอวเป็นกระสุนสำรอง แต่ไม่รู้ทำไมพอเป็น HG Revive ถึงยังเหลือไว้ทั้ง ๆ ที่ถอดไม่ได้)

นี่อาจจะเป็นกันพลาไม่กี่ตัวที่เราสามารถเอาทุกชิ้นส่วนในกล่องมาติดไว้กับตัวได้หมดเกลี้ยง โดยมีข้อแม้ว่าต้องถือบีม 2 มือ เอาไรเฟิลกับบาซูก้าติดที่เอว ตัวติดโล่ที่เหลือก็เสียบหลังแขนอีกข้าง เท่านี้เอง...

เทียบกับ Exia Dark Matter จะเห็นว่า ไอ้สีดำของ Mk-II Titans นี่มืดกว่าเยอะ....

ดำปะทะขาว

หมดแค่นี้แหละครับ...



ส่งท้าย

ระหว่างถ่ายทำ มีกันพลาบาดเจ็บเล็กน้อย ก็เจ้า Mk-II นี่แหละครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนกำลังถอดชิ้นสีน้ำเงินที่มือซ้าย (ถ้าถือปืนต้องถอดไม่งั้นถือไม่ได้) ผมดันไปแงะตรงมุม ทำให้มุมของเกราะมือนั่นบิ่นไป จึงเป็นบทเรียนว่าเวลาแงะเกราะมืออย่าแงะมุม พยายามแงะขอบหรือดึงทั้งชิ้นจะดีกว่านะครับ โชคดีที่จุดที่บิ่นไปไม่เลวร้ายมาก ไม่งั้นคงสลดได้แบบ RG .... Orz

สำหรับ Mk-II Titans นี่ บอกเลยว่า เข็ดแล้วกับพวกตัวมืด ๆ อย่างน้อยก็ขอสีเทาเข้มเหอะ นี่ตั้งหลังตู้มองอะไรแทบไม่เห็นเลย ถ่ายก็ยาก ว่าแล้วก็อยากได้ Mk-II AEUG ตงิด ๆ แต่เรื่องอะไรจะซื้อตัวที่ต่อเหมือนกันทุกอย่างเล่า!! (RG ก็ไม่เอา)

ตัวต่อไป ไม่ได้คิด แต่อยากได้พวกปีก ๆ บ้าง เออ ยังไม่มีพวกแปลงเป็นยานได้เลยนี่นะ แต่ไม่ใช่ RG Wing Gundam EW ที่เพิ่งออกหรอก บอกแล้ว ไม่เอา RG !!


ภาพส่งท้าย... โชว์ตาแบบชิ้นใสตอนเรืองแสง (ต้องจัดแสงแรง ๆ มาจากด้านตรงข้ามถึงจะเห็น)


ข้อมูลเพิ่มเติม :

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

RPG Maker MV มีดีอะไร แล้วภาษาไทยล่ะ?

RPG Maker VX Ace กับภาษาไทย

[ลอง 3 เดือนนิด ๆ แล้วรีวิว] จอย 8BitDo SN30 Pro+

RPG Maker MZ สอยดีมั้ย ภาษาไทยปกติรึเปล่า?

เล่นแล้วมาเล่า... Torchlight 2 ตัวจริงเต็ม ๆ !!

เก็บตก RPG Maker MV ฉบับลองใช้จริง.....

เก็บตก Torchlight 2

[ดองเกือบปีแล้วรีวิว] จอย 8BitDo Pro 2 Wired (มีสาย)

อัพแล้วเป็นไง Windows 11 ver. 24H2

กลเม็ดเคล็ดลับ FarmVille 2 (ตอนที่ 1)