Anime Series ที่ซื้อมาดู ปี 2013

ถ้าใครตามมาตั้งแต่สมัยอยู่ exteen คงจำกันได้ว่าพอสิ้นปีผมจะต้องเอ็นทรี่สรุปว่าปีนั้น ๆ ซื้อการ์ตูนอนิเม (เฉพาะที่เป็นหลายตอนจบ ไม่นับพวกภาคหนังโรง) อะไรมาบ้าง ซึ่งจริง ๆ ก็ควรเลิกเขียนได้แล้วนะครับ ทำไมยังเขียนอยู่ก็ไม่รู้....

ปีนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นปีที่เริ่มมีการรณรงค์ให้อุดหนุนของแท้กันอย่างเข้มข้น (หรือดราม่าเข้มข้น?) ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วที่เริ่มมีการนำคำว่าปลิงดิ้นมาใช้กันอย่างแพร่หลาย พวกค่ายที่ซื้อ LC มาจำหน่ายเองก็แข่งขันประกาศ LC กันอย่างเข้มข้นเช่นกัน (แบบไม่เกรงใจกระเป๋าตังค์คนซื้อที่ผอมลงอย่างเข้มข้น)

สำหรับปีนี้ก็ซื้อมา 3 เรื่อง...


Toaru Majutsu no Index II (Dex)

8 แผ่นจบ

หลังจากภาคแรกออกมาในปี 2011 (ในไทย) และผมซื้อเก็บไปแล้ว และเคยบอกว่าอาจจะไม่ซื้อภาค 2 ต่อ แต่สุดท้ายแล้วก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ... ความสนุกก็มาเรื่อย ๆ ครับ ยืดเยื้อก็ยืดเยื้อครับ ตัดเนื้อหาในฉบับนิยายทิ้งไปเยอะก็คงตัดครับ... ความรู้สึกก็เหมือนเดิมคือ เนื้อเรื่องน่าติดตาม ตัวละครเยอะขึ้น เริ่มมีการเพิ่มตัวเอกใหม่ (ซึ่งมันน่าติดตามตรงนี้) แต่ให้เอามาดูซ้ำก็เหนื่อยครับ...

สรุป : ถ้าต้องเลือกระหว่างฉบับอนิเมกับฉบับไลท์โนเวล (นิยาย) ผมแนะนำว่าเลือกนิยายดีกว่า  ซึ่งฉบับนิยายนี่ออกเร็วโคตร ๆ เพราะปีเดียวล่อไป 7 เล่มแล้วครับ แต่ผมเลือกฉบับอนิเมไปแล้ว...



Accel World (Rose)

8 แผ่นจบ

ถ้าจำกันได้ นี่คืออนิเมที่เป็นดราม่าเมื่อปีที่แล้ว ข้อหาโดน LC ซะกลางเรื่อง ทำให้มีคนเดือดเนื้อร้อนใจมากมาย แล้วไม่รู้เพราะดราม่าเรื่องนี้รึเปล่า ทำให้ปีนี้ค่ายต่าง ๆ ออกมาประกาศ LC กันอย่างเข้มข้น

Accel World เป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกออนไลน์ที่เวลาเดินช้ากว่าโลกปกติ และผู้ที่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าสู่โลกนั้นต้องต่อสู้กันเพื่อรักษาสิทธิ์ในการอยู่ในโลกเร่งความเร็วเอาไว้ให้ได้  อ่านเรื่องย่อตอนแรกรู้สึกว่ามันไม่น่าสนใจอะไร แต่คนเขียนก็ผูกเรื่องราวในโลกที่เหมือนแค่เกมต่อสู้เกมนึงเข้ากับเรื่องของจิตใจและความสัมพันธ์ต่าง ๆ นา ๆ เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ  จนผมรู้สึกว่าคนเขียนกำลังจะเล่นกับคำกล่าวที่ว่า "ในโลกที่ชีวิตเร่งรีบ (ทำอะไรมากขึ้นในเวลาเท่าเดิม) จิตใจของคนเราก็จะเปลี่ยนไป" ตอนแรกผมไม่สนใจจะเก็บเรื่องนี้เลย แต่แล้วก็ไปหาไลท์โนเวล (นิยาย) เล่ม 1 มาอ่าน โอ้แม่เจ้า!! โคตรสนุกอ่ะ!!! แถมพอเล่มหลัง ๆ ก็ยิ่งเข้มข้นกดดันยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ อะไรกันเนี่ย!!

สำหรับกระแสในเน็ต ก็มีคนไม่ชอบเรื่องนี้พอสมควร เหตุเพราะพระเอกอ้วนเตี้ย (ขอโทษคนอ้วนเตี้ยทั้งโลกเดี๋ยวนี้เลยนะ!!) สำหรับแผ่นที่ออกมาก็เจอปัญหาหลายอย่าง เช่น แผ่น 2 ลงข้อมูลตัวละครบนกล่องผิดเป็นเพศชาย แต่ก็ทำตัวแก้แถมมากับแผ่น 6 แล้ว อีกอย่างคือ ปลอกสวมแผ่นไม่ได้พิมพ์เลขแผ่นไว้ที่สัน แต่ก็บอกว่าจะแก้โดยการแถมสติ๊กเกอร์แปะสันมากับแผ่น 8 .... เป็นการรับผิดชอบที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปีเลยครับ

สรุป : ถ้าเทียบกับ SAO แล้ว ผมมั่นใจว่าผมชอบเรื่องนี้มากกว่าแล้วล่ะ



Sword Art Online (Rose)

9 แผ่นจบ

เป็นอนิเมที่ฮิตถล่มทลายในปีที่แล้ว (2012) เพราะจุดประกายความทรงจำสมัยยังเล่นเกม MMORPG ของหลาย ๆ คนได้ชะงัดนัก  ตัวผมเองนั้นเล็งมาหลายเรื่องแล้ว ไอ้มุขติดในโลกเกมออนไลน์ออกไม่ได้เนี่ย... ก็เลยไปหามาดูกับเขาเหมือนกันนะตอนนั้น พอดูตอนแรกจบ ผมก็ประกาศว่าจะเก็บ DVD เรื่องนี้ทันที

แม้เรื่องนี้จะเป็นโลกของเกม MMORPG แต่พอดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ผมว่ามันทำท่าจะเป็นเกมจีบสาวซะงั้นน่ะ ยังดีที่มีตัวละครชายมาเป็นเพื่อนและศัตรูของตัวเอกบ้าง (บางเรื่องนอกจากพ่อแล้ว ก็ไม่มีผู้ชายคนอื่นนอกจากพระเอก...) โดยรวมก็ยังสนุกดี แต่ผมและหลาย ๆ คนคิดว่าน่าจะเล่นอะไรกับโลก SAO ให้มากกว่านี้  น่าเสียดายที่ภาค SAO จบแล้วก็ไปขึ้นเกมใหม่ที่ความสนุกลดลง... เขาบอกกันอย่างงั้น

สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากในเรื่องนี้คือไอ้เจ้า User Interface ในเกม SAO นี่แหละ ทำออกมาเรียบ ๆ แลดู Metro และ iOS7 มาก (UI ในอนิเมจะเล่นโทนสีขาวและเหลือง แต่ในนิยายบอกว่าสีม่วง...)

แพคเกจของ DVD เรื่องนี้ ทาง Rose ทำออกมาได้ดีมาก ใช้ดิจิเทรย์เป็นกระดาษเคลือบด้าน มีปลอกพลาสติกสวม ซึ่งจะพิมพ์ข้อความต่าง ๆ ไว้เฉพาะบนปลอก เมื่อถอดปลอกจะเหลือแต่ภาพล้วน ๆ  สันปลอกก็ทำเป็นรูปแถบพลังชีวิต ด้านหลังปลอกจะดีไซน์เป็นหน้าต่างป๊อปอัพแมสเซสในเรื่อง

เพคเกจให้คะแนนเต็ม (ของแถมก็จัดเต็มทั้ง CD เพลงและโปสการ์ด) แต่คุณภาพในแผ่นนี่สิ เริ่มกันตั้งแต่ชื่อแผ่นเวลาดูในคอมพ์จะเป็น SWORTART หน้าเมนูเวลาเปิดในบางโปรแกรมและบางเครื่องจะไม่มีไฮไลท์ตรงเมนูและไม่มีเพลงประกอบด้วย (เท่าที่ลองดู มีแต่ MPC-HC เท่านั้นที่ขึ้นครบ) จะให้รับผิดชอบก็คงไม่ไหว เพราะผลิตล่วงหน้าไปแล้ว .... โชคดีที่ได้คะแนนเพคเกจช่วย ไม่งั้นผมให้สอบตกไปแล้ว

สรุป : ถ้าชอบก็ซื้อเถอะ



ส่งท้าย

ปีนี้มี 3 เรื่องใหญ่ ๆ เกิดขึ้นในแวดวงอนิเมลิขสิทธิ์ไทย คือ... 
  • การขึ้นราคาแผ่น หลังจาก Rose แอบขึ้นนำไปแล้ว (เพราะของแถมเยอะ) ทาง TIGA ก็ประกาศขึ้นราคาอย่างเป็นทางการ (แหม่ เนียนทำ Boxset ราคาแพงมานาน) และ Dex เองก็ขอขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีเรื่องที่ใช้ระดับราคาเก่าอยู่ (คาดว่าอิงตามของแถมและความนิยม) ระดับราคาที่ขึ้นก็อยู่แถว ๆ 329 บาทครับ
  • การให้บริการสตรีมมิ่ง อันนี้ Rose ก็ทำมาก่อนอีกแล้ว แต่เดิมมีแต่เรื่องเก่า ๆ จนทาง Dex เปิด DexChannel ให้สมัครสมาชิกดูแบบออนไลน์ ทางฝั่ง Rose ก็เริ่มปรับปรุงตามบ้าง และปัจจุบันทั้งคู่ก็เริ่มมีอนิเมแบบฉายพร้อมญี่ปุ่นให้ดูกันแล้ว อ่า... ทำไมวงการนี้มันพัฒนาไปได้ขนาดนี้ล่ะเนี่ย  อ้อ ทาง TIGA ก็มีบริการสตรีมมิ่งเหมือนกัน แต่ผูกอยู่กับทาง True รายละเอียดลองไปอ่านที่กระทู้นี้ดูนะ
  • Luckpim LC อนิเม เป็นข่าวส่งท้ายปลายปี ที่จู่ ๆ ค่ายที่พิมพ์หนังสือหันมาจำหน่ายอนิเมกับเขาบ้าง แถมแต่ละเรื่องก็หามาแบบไม่เกรงใจใครกันเลย... ส่วนตัวไม่ใช่แนวนี้ แต่ก็เอาใจช่วยให้รอดหลาย ๆ อย่างไปได้...

ปีหน้าผมคงได้ลองอุดหนุนแบบสตรีมมิ่งบ้างล่ะ ส่วนแบบแผ่นก็คงต้องเป็นเรื่องที่ใช่จริง ๆ เท่านั้น ไม่ไหวแล้ว ขอเก็บตังค์บ้างอะไรบ้าง...



ของปีก่อน ๆ :

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

RPG Maker VX Ace กับภาษาไทย

Firefox 125 มีอะไรเพิ่มเยอะเหมือนกันนะนี่

เก็บตก Torchlight 2

RPG Maker MZ สอยดีมั้ย ภาษาไทยปกติรึเปล่า?

RPG Maker MV มีดีอะไร แล้วภาษาไทยล่ะ?

[บันทึก] ประสบการณ์โคลนฮาร์ดดิสก์ย้ายวินโดวส์

[บันทึก] 3 เดือนนิด ๆ กับจอย DualShock 4 (บน PC)

RPG Maker VX Ace กับการแปลไทย

อัพไม่ได้แล้วไง Windows 10 Ver. 22H2 ในปี 2023

เขียนบล็อกครบ 9 ปี แต่จะไม่มีปีที่ 10 (ที่ exteen)