ความทรงจำกับนิตยสาร IT (ภาค 1)

ก็มาพบกับเอ็นทรี่ความทรงจำ หมวดเอ็นทรี่ที่มักทำบอทกูเกิลสับสนแล้วไม่ให้ขึ้นเป็นผลการค้นหาในกูเกิลบ่อย ๆ  (ปกติก็ทำใจไป ไหน ๆ เราก็เขียนไว้อ่านเองอยู่แล้ว 😅) แต่คราวนี้อยากให้มีคนมาค้นเจอเยอะ ๆ เพราะตอนที่ผมคิดจะเขียนเรื่องนี้ ผมไปค้นกูเกิลหาข้อมูลนิตยสารในอดีต ก็แทบไม่พบที่ไหนพูดถึงเลย เว็บสำนักพิมพ์หลายแห่งหายไปแล้ว หรือถ้ายังอยู่ก็ไม่เหลือข้อมูลนิตยสารไว้แล้ว นอกนั้นก็จะเป็นพวกเว็บขายหนังสือเก่า 

ที่จั่วชื่อเอ็นทรี่ไว้ว่า "ภาค 1" เพราะหลังจากไปขุดนิตยสารต่าง ๆ มาถ่ายภาพแล้ว ก็ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมที่ลืมไปแล้วมากมาย แต่ถ้าจะเอามาเขียนมันต้องใช้เวลาขุดค้นเพิ่มอีกมากมาย ซึ่งด้วยเวลาและพื้นที่ว่างตอนนี้มันยังทำไม่ได้  ก็ขอเน้นเขียนจากความทรงจำล้วน ๆ (แบบมีเปิดอ่านทบทวนนิดนึง) ก็แล้วกัน ส่วน "ภาค 2" นั้น ไม่ต้องรอก็ได้ เพราะที่นี่ไม่เคยเขียนภาคต่อตามสัญญาได้ซะที 😄 เอาเป็นว่าถ้ามันได้เขียนก็มีให้อ่าน ถ้าไม่ได้เขียนก็ไม่มี ดังนั้นคิดซะว่าไม่มีภาคต่อไปก่อนเถอะ


จุดเริ่มต้นของผมกับนิตยสารไอที

ก่อนจะได้แตะคอมพิวเตอร์ ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือคอมพิวเตอร์มากมายผ่านห้องสมุดโรงเรียนที่แม่ทำงานอยู่ แต่อ่าน ๆ ไปก็ไม่รู้เรื่องหรอกตอนนั้น แล้วในห้องสมุดก็มีนิตยสารคอมอยู่ด้วย ตอนนั้นผมได้อ่านนิตยสารชื่อ IT ตามด้วยอะไรสักอย่าง (ถ้าดูจากหน้าโฆษณาในนิตยสารเกมที่แตกตัวมา น่าจะชื่อ IT Soft ที่ไม่แน่ใจเพราะค่ายนี้เหมือนจะมีนิตยสารหลายหัวที่ขึ้นต้นด้วย IT ทั้งนั้นนี่แหละ) แล้วตอนนั้นผมก็เริ่มเข้าถึงโลกไอทีผ่านคอลัมน์บทสรุปเกม ซึ่งช่วงนั้นเป็นยุคของเกม Adventure Point and Click ซึ่งมีความต่างจากเกมในฝั่งคอนโซลโดยสิ้นเชิง

ต่อมาช่วงปี 2537 (1994) ผมก็เริ่มมีโอกาสได้ใช้คอมครั้งแรกผ่านการเรียนวิชาเลือกเสรี รวมถึงไปนั่งเล่นที่สำนักงานพ่อ และยุคตื่นนิตยสารไอทีของผมก็เริ่มตั้งแต่บัดนั้น (สังเกตจากนิตยสารที่ขุดมา เล่มเก่าสุดจะอยู่ที่ปี 2537 ทั้งนั้น ไม่มีเก่ากว่านี้) 



IT Games นิตยสารเกมที่เกิดใหม่หลายรอบ

ที่ผมจับนิตยสารเกม PC เข้ามารวมในหมวดนิตยสารไอทีด้วย เพราะยุคนั้นเกม PC ต่างจากเกมคอนโซลแบบคนละโลกเลย ความต่างก็ระดับสะพานเหล็กกับพันธุ์ทิพย์นั่นแหละ (ขออภัยคนเกิดไม่ทัน ตอนนี้เปลี่ยนสภาพไปแล้วทั้ง 2 ที่ 😄) คือเกมคอนโซลมันจะดูเป็นของเล่นหน่อย ๆ หาซื้อได้ทั่วไป มีร้านเกมเปิดมากมาย ร้านเช่าก็มี ส่วนเกม PC มันเฉพาะกลุ่มมาก ๆ แล้วตอนนั้นคนจะเล่นเกม PC ได้ต้องมีความ Advance นิดนึง ขนาดตัวเกมยังต้องไปที่เฉพาะเพื่อซื้อ และวิธีขายแปลก ๆ อย่างมีตารางรายชื่อเกมหน้าร้าน แต่ละเกมมีระบุจำนวนแผ่น ก็ต้องสั่งกับร้านว่าเอาอะไรบ้าง จากนั้นไปเดินเล่นรอเขาก็อป หรืออาจจะส่งทางไปรษณีย์ทีเดียว ต่างจากเกมคอนโซลที่หยิบเลือกได้เลย  แต่ตอนนั้นเกม PC แบบเป็นแพ็คเกจก็มีขายนะ จะขายตามร้านหนังสือใหญ่ ๆ ก็มีทั้งแท้และไม่แท้แหละ

มากันที่ตัวนิตยสาร IT Games นี่อาจเป็นนิตยสารแรกที่ผมซื้อมา ตอนนั้นจำได้ว่าซื้อที่แผงหนังสือหน้าตลาดบางปะกอก และเล่มเก่า ๆ บางเล่มก็เหมือนจะไปซื้อจากงานนิทรรศการเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในย่านบางมด (ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัย) โดย IT Games จะเป็นนิตยสารที่แตกตัวมาจากคอลัมน์เกมในนิตยสาร IT ตามด้วยสักอย่างดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ สำหรับคนที่อ่านนิตยสารเกมคอนโซลมาก่อนอย่างผม พอมาเจอนิตยสารเกม PC มันเปลี่ยนโลกมาก เพราะเกมแนวไม่เหมือนกันเลย แถมเนื้อหาในนิตยสารก็ไม่ได้มีแต่เกมอย่างเดียว ยังมีสอนการใช้งานคอมพิวเตอร์ แนะนำฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ รวมถึงสอนเขียนเกมด้วย ซึ่งตรงสอนเขียนเกมนี่แหละทำให้ผมต้องตามเก็บนิตยสารเล่มนี้ เพราะถือว่าเป็นที่แรกเลยที่มีสอนเขียนเกม (ตอนนั้นสอนด้วยภาษา Pascal) ช่วงแรก ๆ IT Games จะเป็นนิตยสารเล่มบางเย็บแม็กซ์ แต่เวลาผ่านไปก็หนาขึ้นอีกหน่อยและเริ่มใช้สันกาว

สุดท้าย IT Games ก็ต้องยุติการตีพิมพ์ไปเพราะปัญหาทางต้นสังกัด (ไม่รู้ยุติเฉพาะ IT Games หรือยกค่าย) แต่ทีมงานเขาไม่หยุดแค่นี้ ยังไปต่อ...



Computer Time นิตยสารไอทีสำหรับผู้เริ่มต้น

ในตอนนั้นนิตยสารคอมมักเจาะกลุ่มคนในภาคธุรกิจ หรือคนใช้คอมทำงานจริง ๆ จัง ๆ แล้ว (และมักมาพร้อมโฆษณาแทรกทั้งเล่ม 😄) แต่ก็มี Computer Time เล่มนึงละที่สร้างความแตกต่าง จะเรียกว่าอินดี้ก็ได้มั้ง อย่างแรกที่แตกต่างเลย คือการประกาศว่าเป็นนิตยสารไทยฉบับแรกที่ออกแบบด้วย PC ทั้งเล่ม เนื่องจากยุคนั้นสื่อสิ่งพิมพ์จะจัดรูปเล่มด้วย Mac มากกว่า (น่าจะตั้งแต่การวางเลย์เอาท์ อาร์ตเวิร์ค จนถึงกระบวนการตีพิมพ์เลยมั้ง) พอเล่มนี้มาออกแบบด้วย PC มันก็ให้ฟีลลิ่งที่แตกต่างจากนิตยสารอื่นพอสมควร (คือรู้สึกตั้งแต่หน้าปกเลย) นอกนั้นก็ยังจั่วหัวด้วยว่าเป็นนิตยสารเพื่อผู้เริ่มต้นและนักค้นคว้า ซึ่งก็เป็นจริง เพราะผมได้ความรู้เบื้องต้นหลายอย่างจากเล่มนี้เยอะมาก และเวลากลับมาค้นอ่านก็ง่ายเพราะเล่มบาง (โฆษณาน้อยน่ะ 😄) เปิดหาอะไรแป๊บ ๆ ก็เจอ

เนื้อหาหลัก ๆ ของ CT (ขอย่อ) ก็เป็นการแนะนำความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากมาย มีสอนเขียนโปรแกรม และสอนเขียนเกมด้วย (แต่ผมว่าคอลัมน์สอนเขียนเกมเขาไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่นะ) และที่อยู่คู่นิตยสารมาตลอดคือการสอน Photoshop กับ 3DS Max บางทีก็เอาภาพหน้าปกนั่นแหละมาสอน อีก 2 สิ่งที่ CT พยายามนำเสนอมาก ๆ ในยุคแรกคือ การแนะนำให้รู้จัก Shareware และ BBS โดยฝั่ง Shareware จะมีการทำหนังสือรวม Shareware พร้อมแผ่นออกมาขายหลายชุด และถ้าใครสมัครสมาชิกก็จะมีการแถมแผ่นดิสก์โปรแกรมประจำเล่มให้ด้วย น่าจะเป็นนิตยสารเล่มแรก ๆ เลยที่มีการแถมแผ่นโปรแกรม (เขาให้เหตุผลที่ไม่แถมไปกับฉบับที่ขายตามแผงว่า ไม่สามารถหาวิธีรักษาแผ่นไม่ให้พังระหว่างขนส่งได้ แต่ถ้าไปเปิดบูธตามงานคอมพิวเตอร์ ก็จะมีการแถมแผ่นด้วย ซึ่งผมก็ซื้อมาหลายเล่มเลย) ส่วน BBS จะเป็นการใช้โมเด็มเชื่อมต่อไปยังเครื่องผู้ให้บริการโดยตรง (ไม่ผ่านอินเทอร์เน็ต) บริการที่มีก็กระดานข่าว (เว็บบอร์ดนั่นแหละ) และมีโปรแกรมหรือเกมให้โหลด การเชื่อมต่อแต่ละรอบจะจำกัดเวลาเพราะคู่สายมีจำกัด ต้องสลับให้คนอื่นใช้บ้าง ผมชอบแนวคิดของ BBS มาก ฝันอยากทำ BBS เป็นของตัวเอง แต่ตอนนั้นอินเทอร์เน็ตมาแล้วตลาดเลยวาย ผมเคยลองเชื่อมต่อ BBS ที่ทางนิตยสารแนะนำดู แต่ก็พบว่าต่อไม่ติดหรือบางทีมีเสียงคนรับสายดังขึ้นมาผ่านโมเด็ม เขาเลิกกันไปหมดแล้วสินะ 😅

คอลัมน์นึงที่อยู่ในความทรงจำผมเลยคือ หมอคอมพิวเตอร์ตอบจดหมาย ก็ตามชื่อแหละตอบคำถามผู้อ่านทางบ้าน มีครั้งนึงในยุคที่คนเล่นเกมซูเปอร์แฟมิคอมด้วยแผ่นดิสก์ผ่านหัวโปรกัน ด้วยความที่แผ่นดิสก์มันเปิดในคอมได้ คนเลยพยายามทำให้รันในคอมได้กัน แล้วก็เลยมีคนส่งคำถามมาบ่อยว่าจะแปลงยังไง ตอนนั้นหมอฯ ตอบว่า "ลำเค็ญละครับซีพียูคนละเบอร์กัน" หรือไม่ก็ตอบว่าต้องมีคนทำฮาร์ดแวร์เฉพาะออกมา แต่เวลาผ่านไปอีมูเลเตอร์ดันเกิดมา แล้วในที่สุด CT เองนี่แหละที่เอาอีมูเลเตอร์มาใส่แผ่นแถม 😅 (เล่มซ้ายล่างในภาพข้างบนเลย)

ตอนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง นิตยสารแทบทุกเล่มต้องปรับตัวลดต้นทุน ที่เคยมีหน้าสีทั้งเล่มก็ลดหน้าสีลง เคยใช้กระดาษขาวอย่างดีก็ต้องเปลี่ยนเป็นกระดาษเหลืองบาง ๆ บางหัวก็เปลี่ยนจากรายเดือนเป็นรายสองสามเดือน ฝั่ง CT เองที่เล่มบางอยู่แล้วก็ต้องบางไปอีก และมีการทำแบบหนังสือพิมพ์คือให้หน้าปกใช้กระดาษแบบเดียวกับเนื้อหาในเล่มและเป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งไปเลย จากสันกาวก็เปลี่ยนไปเย็บแม็กซ์แทน  จากนั้นก็มีการเปลี่ยนรูปแบบอีก คือกลายเป็นพ็อคเก็ตบุ็คเล่มบาง แต่กลับมามีปกและสันกาวแล้ว โดยตอนเป็นพ็อคเก็ตบุ็คนี้เนื้อหาดูดร็อปลงไปมาก ทำให้ผมไม่ค่อยได้ซื้อแล้ว หรือมันหายากก็จำไม่ได้นะ

นอกจากทำนิตยสาร Computer Time แล้ว Computer Age Technology ก็ยังพัฒนาซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาขายด้วย เช่น โปรแกรมฝึกพิมพ์สัมผัส เกม CAI  แล้วยังเคยทำโปรแกรมเมนูสำหรับ DOS ขายด้วย (ยุคนั้นคอมที่ลง DOS ร้านมักจะติดโปรแกรมเมนูให้ ทำให้กดเลือกรันโปรแกรมต่าง ๆ จากเมนูได้เลย ไม่ต้องพิมพ์คำสั่ง) 



Computer Time Games นิตยสารเกมบ้าง

ตอนแรก ๆ Computer Time ก็มีคอลัมน์แนะนำเกมบ้างนิดหน่อย แต่เวลาผ่านไปเหมือนจะไม่พอ ก็เลยแตกนิตยสารเกมออกมาอีกหัวนึง ราคาเท่าร่างต้นแต่บางกว่า 😂 นิตยสาร Computer Time Games ก็เป็นนิตยสารเกม PC ที่เริ่มผุดกันมามากขึ้นในยุคนั้น เนื้อหาภายในก็เน้นแนะนำเกมใหม่ รีวิวเกม เทคนิคการเล่น และบางทีก็มีสูตรโกงแบบใช้คำสั่ง Debug พิมพ์โค้ดเป็นเลขฐาน 16 สร้างโปรแกรม Cheat ขึ้นมาเลย (ผมเคยใช้กับเกม Jurassic Pack บน PC ซึ่งเกมยากโคตร ๆ โดยเฉพาะตอนอยู่ในฉากทางวงกตแบบ 3 มิติ) และเช่นเดียวกับเล่มหลัก CTG ก็มีการแถมแผ่นเกม Shareware สำหรับสมาชิกเช่นกัน แต่ก็เป็นพวกเกมเล็ก ๆ ที่ยัดใส่แผ่นเดียวได้น่ะนะ ไม่ใช่เกมที่อยู่บนปกหรอก 😅

เนื้อหาพิเศษของ CTG ก็คือ เคยมีการจัดประกวดออกแบบเกมอยู่ โดยจะลงเนื้อหาที่ผู้เข้าประกวดส่งมาให้ได้อ่านได้ดูกัน แล้วเหมือนมีแผนจะเอาเกมที่ชนะไปพัฒนาจริงด้วย แต่สุดท้ายเหมือนจะล่มไปนะ

ยุคท้าย ๆ ของ Computer Time Games ก็มีการเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นปกแบบมีกรอบสีขาวพร้อมโลโก้ใหม่ ซึ่งผมก็เคยมีอยู่แต่ยังขุดออกมาไม่ได้ และตอนท้ายสุดก็กลายเป็นหนังสือคู่มือพร้อมเกม Shareware ขายเป็นชุด ๆ แทน ไม่ได้ลงเนื้อหาเกม PC กระแสหลักอีกต่อไป (อันนี้ไม่แน่ใจว่าจำผิดรึเปล่า ใครจำได้ก็เม้นแก้ได้) จากนั้น CTG ก็หายไปจากวงการในที่สุด....



Winmag นิตยสารโปรดอีกเล่ม

ในช่วงแรก Winmag จะใช้ชื่อเต็มว่า Windows Magazine เพราะซื้อลิขสิทธิ์จากหนังสือชื่อเดียวในต่างประเทศมา เนื้อหาในเล่มก็จะปะปนกันทั้งไทยและเทศแหละ (ถึงมีชื่อคนเขียนแต่ละคอลัมน์ลงไว้ แต่บางทีก็แยกไม่ออกว่าคนไทยเขียนเองหรือมาจากต้นฉบับ เพราะบางทีเป็นนามปากกา) และเป็นนิตยสารที่ผมหลงรักสุด ๆ เพราะภาพประกอบเยอะดี เนื้อหาในเล่มก็จะเป็นข่าวและเนื้อหาอัพเดตทั้งฝั่งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ และคอลัมน์โปรดของผมคือ Visual Guide ที่จะแนะนำการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ แบบมีสกรีนช็อตให้ดูเป็นขั้น ๆ และเป็นแนวทางในการเขียนบล็อกเน้นภาพของผมจนถึงทุกวันนี้นี่แหละ  จุดเด่นของ Windows Magazine คือการมีเนื้อหาเจาะลึกอะไรสักอย่าง เช่น การแนะนำวินโดวส์รุ่นใหม่ ก็จะแนะนำแบบสะใจ แนะนำซีพียูใหม่ ก็จะอธิบายถึงสถาปัตยกรรม ทดสอบการทำงาน ฯลฯ เอาเป็นว่าผมอ่านจุใจมากตอนนั้น จนต้องพยายามตามเก็บทุกเล่มทุกเดือน แต่ก็มีพลาดไปบ้าง เพราะจัดเป็นหนังสือขายดี ถ้าไปช้าก็หมด

ยุคต่อมา จู่ ๆ ทาง Windows Magazine ต้นสังกัดก็เลิกตีพิมพ์หนังสือซะงั้น ก็เลยไม่ได้ต่อลิขสิทธิ์และไม่สามารถใช้ชื่อ Windows Magazine ได้ จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อย่อ Winmag แทน  แต่พอเปลี่ยนเป็น Winmag เนื้อหาก็เหมือนจะดร็อปลง และบางทีทิศทางก็เปลี่ยนไป เช่น กลายเป็นนิตยสารสำหรับผู้หญิงไปซะงั้น หรือช่วงท้าย ๆ เนื้อหาจะเริ่มไปฟีลลิ่งเดียวกับ Computer.Today ที่เน้นจับอีกกลุ่มแทน และยังมีการรวมร่างกับนิตยสาร Commart ในเครือเดียวกันด้วย โดยจะมีปก Commart แทรกอยู่กลางเล่ม และเนื้อหาหลังจากปกก็จะเป็น Commart ทั้งหมด และในบทบรรณาธิการของ Commart กลางเล่มที่ผมสุ่มตัวอย่างมาได้ ก็เขียนว่าเล่มหน้าจะเปลี่ยนจาก 2 in 1 เป็น 4 in 1 แต่ผมจำเรื่องราวหลังจากนั้นไม่ได้แล้วว่า 4 in 1 นี่รวมอะไรมาอีกบ้าง เพราะช่วงนั้นอาจจะเลิกซื้อไปแล้ว 😑



Commart ก่อนจะเป็นงานคอมพิวเตอร์

สมัยนี้ถ้าพูดถึง Commart คนก็น่าจะนึกถึงงานคอมพิวเตอร์ที่จัดปีละหลายครั้ง และคนนิยมไปจัดคอมเครื่องใหม่ทั้งในและนอกงานนี้ เพราะพวกร้านค้าอื่น ๆ ก็จะจัดโปรลดราคาพร้อมงาน Commart ไปด้วย แต่ตอนแรก Commart เป็นนิตยสารในเครือของ ARIP เจ้าเดียวกับ Winmag และ Computer.Today  โดยเนื้อหาของ Commart ก็ตามชื่อ คือเหมือนเป็นคู่มือในการซื้อฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เพราะเนื้อหาจะเน้นการรีวิวพวกฮาร์ดแวร์นี่แหละ นอกจากรีวิวเดี่ยว ๆ ก็มีการเอาฮาร์ดแวร์เดียวกันหลาย ๆ ยี่ห้อมาเทียบกันด้วย นอกจากเรื่องฮาร์ดแวร์แล้ว บางทีก็มีแนะนำซอฟต์แวร์แถมมาบ้างพอเป็นน้ำจิ้ม 

ที่ภาพประกอบถ่ายมาเล่มเดียว เพราะเทียบกับเล่มอื่นแล้วผมซื้อน้อยกว่า และเพราะไม่ได้มีคอลัมน์ที่อยากอ่านซ้ำนัก ก็เลยคัดทิ้งไปพอสมควร ที่เหลือไม่กี่เล่มก็น่าจะเอาไปรวมไว้ที่ไหนสักแห่งที่ยังเข้าไปหยิบไม่ได้  เลยขุดมาได้เล่มเดียวนี่แหละ 😅



Computer Today?

ใครที่เกิดทัน Computer.Today น่าจะมีภาพจำเป็นนิตยสารขนาดพ็อคเก็ตบุ็คหน้าปกสีสดใส ซึ่งผมก็จำได้แบบนั้น แต่ระหว่างไปขุดนิตยสารมาถ่ายภาพก็ไปเจอ 2 เล่มในภาพเข้า.. ก็น่าจะเป็น Computer.Today ร่างแรก ๆ ก่อนวิวัฒนาการล่ะนะ น่าจะซื้อมาช่วงยุคตื่นนิตยสารคอมนั่นละ เจออะไรก็ซื้อหมด 😄 ซื้อเยอะจนจำไม่ได้  ดูจากปก (กระดาษข้างในเหลืองจัดจนอ่านลำบากแล้ว) เนื้อหาก็น่าจะคล้าย ๆ Computer.Today ในยุคหลัง ที่เน้นผู้เริ่มต้นนั่นละ 

ส่วนความทรงจำกับ Computer.Today ยุคพ็อคเก็ตบุ็คก็คือ ผมซื้อมาอ่านน้อยมาก ๆ เพราะเนื้อหามันเหมาะกับผู้เริ่มต้นเกินไป ไปอ่านก็แบบ โอ้ย พวกนี้รู้หมดแล้ว มันก็เลยมีตัวอย่างเหลือให้ขุดมาถ่ายน้อยมาก ๆ (มันต้องเยอะพอที่จะกระจายตัวอยู่หลายที่ แต่นี่น่าจะน้อยจนรวมอยู่ที่เดียว) หลัก ๆ ผมจะอ่านในห้องสมุดโรงเรียนมากกว่า ไอ้ที่ชอบอ่านคือการ์ตูนท้ายเล่ม รู้สึกจะชื่อนายละมุนนี่แหละ (บุคลิกจะคล้าย ๆ วาริโอ้) แล้วก็เคยซื้อหนังสือที่เป็นฉบับรวมเล่มของคอลัมน์ใน Computer.Today มาบ้าง



COMP KIDS นิตยสารคอมสำหรับเด็กจริง ๆ

ก่อนจะหลุดไปหนังสือยุคใหม่กว่านี้ กลับไปตามเก็บเล่มเก่า ๆ กันต่อ ก็มาถึงนิตยสารจากสำนักพิมพ์ในตำนานอย่างดอกหญ้า  COMP KIDS เป็นนิตยสารคอมสำหรับเด็กจริง ๆ  เนื้อหาก็จะมีทั้งแนะนำวิธีใช้งานคอมพิวเตอร์ แนะนำเกม รวมถึงสอนเขียนโปรแกรม (ภาษา BASIC) ด้วย ซึ่งถ้าจำไม่ผิดมีถึงระดับสอนเขียนเกมยานยิงแบบตัวยานและศัตรูเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งผมก็เคยลองเขียนตาม นั่นน่าจะเป็นการเขียนเกมครั้งแรกของผมเลย (หลังจากเขียนโค้ดตามเขา ในที่สุดผมก็คิดโค้ดเองได้ และลองดัดแปลงหลาย ๆ อย่าง) นอกจากนี้ยังมีเรื่องสั้นลงให้อ่านด้วย จำได้อยู่เรื่องนึงที่เป็นคนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ แล้วจะมีการเขียนล้อคำสั่ง DOS และหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ (เช่น Driver ก็จะมาในรูปคนขับรถ คือมันจะคล้าย ๆ หนัง Pixar Inside Out แต่เปลี่ยนจากในหัวคนเป็นในคอม) อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นนิตยสารเด็กแต่ไม่มีการ์ตูนมาลงเลยนะ  นิตยสาร COMP KIDS นี่จะตีพิมพ์แค่ช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ปีก็ยุติไป แล้วเหมือนผมจะเก็บครบทุกเล่มด้วยมั้ง

ถ้าสงสัยว่า ขนาดดอกหญ้ายังมาทำนิตยสารคอม (และเคยเป็นแหล่งขายโปรแกรมคอมและฟอนต์ของคนไทยด้วย) แล้วสำนักพิมพ์คู่แข่งอย่างซีเอ็ดมีบ้างมั้ย? ซีเอ็ดมีนิตยสารคอมเก่าแก่อย่าง "ไมโครคอมพิวเตอร์" อยู่ครับ แล้วน่าจะอยู่นานที่สุดด้วย แต่ผมไม่ชอบอ่านเท่าไหร่เพราะมัน Advance มาก ๆ (ให้พูดบ้าน ๆ ก็คือเข้าใจยากมาก) แต่ผมก็มีอยู่เพราะเคยสมัครสมาชิกนิตยสาร Update (เป็นนิตยสารวิทยาศาสตร์) แล้วพอยุติการตีพิมพ์ เขาก็ให้เลือกว่าจะเอาเล่มที่เหลือเป็นไมโครคอมพิวเตอร์แทนมั้ย ผมก็โอเคไป ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย  แต่เพราะไม่ชอบอ่านนี่แหละ เลยไม่ขอขุดมานะ



วัฏจักร COMPUTER เมื่อหนังสือพิมพ์มาทำนิตยสารคอม

ถ้าคุณดูภาพรู้สึกว่าไซส์มันใหญ่ ใช่ มันไซส์เกิน A4 ใหญ่พอ ๆ กับหนังสือพิมพ์แหละ แต่มีปกเย็บแม็กซ์นะ แม้ว่านิตยสารหัวนี้จะมาจากฝั่งหนังสือพิมพ์ ที่น่าจะลงเนื้อหาอะไรที่เป็นแนว ๆ ภาคธุรกิจ แต่เอาจริง ๆ เนื้อหาใช้ได้เลยนะ เหมือนผมจะจำได้ลาง ๆ ว่าเห็น Windows 95 ครั้งแรกก็จากนิตยสารนี้  อีกเนื้อหานึงที่ผมพอจะจำได้คือ การแนะนำยูติลิตี้สำหรับยกระดับให้ Batch File คือ Batch File จะเป็นไฟล์พิเศษที่เขียนด้วย Text แต่สั่งรันได้ โดยข้างในก็จะเป็นการสั่งให้รันโปรแกรมตามลำดับ แต่เราสามารถใส่ตัวช่วยเพื่อทำเป็นเมนูเลือกชุดคำสั่ง หรือใส่รหัส ASCII เพื่อทำเป็น UI แบบสวยงามก็ได้  

ด้วยความที่เล่มใหญ่ ผมก็เลยซื้อมาแค่ไม่กี่เล่ม และมักจะเอากระดาษ A4 มาเก็บในนิตยสารนี้เพื่อกันฝุ่นกันงอ เพราะมันเล่มใหญ่ไง ใส่กระดาษ A4 ได้มิด ขนาดเล่มที่หยิบมานี่ยังมีกระดาษ A4 อายุ 20 กว่าปีแต่ขาวจั๊วะอยู่ข้างในเลย 😄  วัฏจักรคอมพิวเตอร์เลิกพิมพ์ไปตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ไม่เห็นในยุคหลัง ๆ เลย



Interactive Computer Games การกลับมาของเจ้าเก่า

ตอนแรกเห็นเป็นนิตยสารหัวใหม่ในแผงหนังสือ ก็ลองซื้อมาอ่าน แต่พออ่านแล้วรู้สึกคุ้นอย่างประหลาด พอเปิดกลับไปดูบทบรรณาธิการก็พบชื่อเดิมที่คุ้นเคย ใช่แล้ว นี่เป็นนิตยสารเกม PC โดยอดีตทีมงาน IT Games นั่นเอง  เนื้อหาโดยรวมก็แบบ IT Games เลย แต่จุดต่างคือนิตยสารนี้มาในยุค CD-ROM เต็มขั้นแล้ว และเดิมตามแนวทางแถมแผ่นเฉพาะสมาชิกแบบ Computer Time แต่แทนที่จะเป็นแผ่นดิสเก็ตก็เปลี่ยนเป็น CD-ROM แทน เนื่องจากผมไม่ได้สมัครสมาชิก เลยไม่รู้ว่าในแผ่นมีอะไรบ้าง แต่ก็คงเป็นเดโม่เกมล่ะมั้ง

และนอกจากการมาของยุค CD-ROM ก็ยังเป็นยุคเกมลิขสิทธิ์ด้วย ผมได้ซื้อเกม PC ลิขสิทธิ์แท้ครั้งแรกก็จากรีวิวของนิตยสารนี้ (เกมที่ซื้อคือ Time Commando ที่อยู่ปกเล่มขวาสุดในภาพ ตอนนี้เกมนี้มีขายในสตีมแล้วนะ) คอลัมน์สอนเขียนโปรแกรมก็ยังมีเหลืออยู่บ้าง แต่ดูไม่เข้มข้นเหมือนก่อนแล้ว และบางเล่มก็หายไป

แล้วสุดท้ายนิตยสารนี้ก็ปิดตัวไปอีกก่อนเวลาอันควร อะไรเนี่ย อย่าให้มีครั้งที่สามนะ... 



QuickPC ค่ายใหม่ไฟแรง

QuickPC โผล่มาหลัง Windows Magazine แต่มาก่อน PC Today เป็นนิตยสารแนวครบเครื่องทั้งฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์ และมีเรื่องเกมแถมนิด ๆ หน่อย ๆ ข้อดีคือรูปเล่มสวยมาก ยิ่งเล่มที่รีวิววินโดวส์เนี่ย ผมชอบมาก ๆ  แต่ข้อเสียของนิตยสารนี้คือ ถึงเล่มจะบางแต่โฆษณาแทรกเยอะมาก 😄 และนี่เป็นนิตยสารคอมเล่มเดียวที่ช่วงท้ายยุคดันหนาขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่ชาวบ้านเขาบางลง ๆ และนั่นแหละ โฆษณาทั้งนั้น แต่ผมชอบนะ มีโฆษณาเคสคอมเยอะดี ผมชอบเปิดดูเคสคอมในโฆษณามากตอนนั้น 😂

ตอนหลัง QuickPC ก็กลายเป็นบริษัท ควิกพีซี เน็ตเวิร์ค จำกัด และเริ่มออกหนังสือหลายหัวมาก ๆ มีกระทั่งสายการ์ตูนอย่าง Comic Quest หรือ Quest News (สองเล่มนี้เจ้าเดียวกันรึเปล่านะ จำไม่ได้ ใครรู้มาแก้ที) และนิตยสารการ์ตูนไทย CX ที่ลง Angel Delivery ของคนเขียน Executional ด้วย แต่อยู่มาวันนึงจู่ ๆ QuickPC Network ก็ปรับโครงสร้างองค์กร และตัดนิตยสารสายการ์ตูนทิ้งหมด แต่ลิขสิทธิ์การ์ตูนไทยทุกเรื่องใน CX ก็ยังอยู่ในมือของ QuickPC ทุกคนเลยไม่ได้อ่าน Angel Delivery ต่อ

QuickPC ยุคท้าย ๆ นอกจากเล่มหนาขึ้น ยังรู้สึกจะเน้นไปทางฮาร์ดแวร์มากกว่า ทำให้ดูคล้าย ๆ กับ Commart แล้วผมก็เริ่มซื้อน้อยลง แต่เหมือนจะอยู่ต่อมานานพอสมควรก่อนสิ้นยุคนิตยสารไอที



Future Gamer เล่มแรกที่แถม CD ในแผง

หลังจากมีนิตยสารมากมายแถมแผ่นเมื่อสมัครสมาชิก Future Gamer ก็มาเหนือด้วยการแถมแผ่น CD ไปกับทุกเล่มที่วางขายในแผงหนังสือเลย และแผ่น CD ที่แถมมานี้ก็เป็นแผ่น CD-ROM แผ่นแรกของผมเลย ตอนนั้นยังไม่มีไดรฟ์ซีดีเลยเอาไปเปิดกับเครื่องเล่นซีดีเพลง แล้วเหมือนมันจะมีเสียงแปลก ๆ ออกมานะ 😅  แผ่นนั้นจำได้ว่ามีเดโม่ของเกม Rayman อยู่ แล้วหลังจากได้ไดรฟ์ซีดี แล้วเล่นเดโม่ ผมก็ได้ซื้อ Rayman เป็นเกมแท้เกมที่ 2 (ตอนนั้นราคาราว ๆ 800 บาท มาสมัยนี้ซื้อเกมสตีมราคา 300 คิดแล้วคิดอีก 😂)

Future Gamer ช่วงแรกเป็นการซื้อลิขสิทธิ์จาก PC Gamer มาทำอีกที ดังนั้นในเล่มจะมีบทความแปลจากต้นฉบับอยู่ด้วย และแผ่น CD-ROM ที่แถมมาก็เหมือนจะเอาคอนเทนต์มาจาก PC Gamer เช่นกัน เพราะจะมีโปรแกรมมัลติมีเดียแปลก ๆ ให้เล่นด้วย ถ้าใครทันน่าจะจำได้ดีกับ Coconut Monkey 😄

ตอนหลัง Future Gamer ก็ไม่ได้ใช้ลิขสิทธิ์จาก PC Gamer อีกต่อไป แต่เนื้อหายังคงรักษามาตรฐานได้ดีนะ และพออะไร ๆ เริ่มใหญ่ขึ้น ก็เปลี่ยนจากแถม CD เป็นแถม DVD แทน แต่ก็ต้องคิดราคาเพิ่มด้วย สำหรับคนที่ไม่สนแผ่น ตอนนั้นก็มี Solo Editions ที่ราคาถูกกว่าให้เลือกซื้อ  Future Gamer เป็นนิตยสารที่ผมซื้อยันเล่มสุดท้าย และสุดท้ายก็มี CD และ DVD เก็บไว้เต็มบ้าน 😄  ปัจจุบันทีมงานหลายคนก็ยังวนเวียนอยู่ในโลกออนไลน์นี่แหละ คิดว่านะ (ตอนนู้นคุ้น ๆ ว่าเคยเจอคนนึงใน Exteen นะ)



PC World นิตยสารที่มาพบผมถึงบ้าน

ดูจากที่มี Thailand ห้อยท้ายชื่อแล้ว ก็น่าจะเป็นอีกเล่มที่ซื้อลิขสิทธิ์มาทำ และมาจากค่ายใหม่ The Aspirer Group หรือมีอักษรย่อว่า TAG ซึ่งเป็นตัวย่อเดียวกับชื่อสตูดิโอและเว็บที่ผมตั้งไว้ในตอนนั้น แล้วผมไม่ได้เจอนิตยสารนี้ในแผงหนังสือ แต่เจอในตู้จดหมาย เป็นเล่มตัวอย่าง จ่าหน้าส่งถึงผมโดยตรง นี่มันอะไรกัน?  เปิดดูบทบรรณาธิการ ก็เจอคนที่ชื่อและหน้าเหมือนเพื่อนสนิทตอนเรียนอนุบาล แต่เพื่อนตอนอนุบาลจะรู้ชื่อที่อยู่ผมได้ไง ขนาดนามสกุลเขาผมยังจำไม่ได้ (แต่จำชื่อเล่นได้ เหมือนจะชื่อเดียวกันซะด้วย) ปริศนาเรื่องโชคชะตาเล่นตลกอะไรนี่ช่างมันเถอะ แต่นี่เป็นเรื่องที่ผมรอจะเล่ามาตลอดเลยนะ 😄

สำหรับเนื้อหาของ PC World ก็เรียกได้ว่าเนี้ยบ น่าอ่านมาก สมเป็นหนังสือที่ได้ลิขสิทธิ์มา หลัก ๆ แนว ๆ จะคล้าย ๆ Windows Magazine แต่ดูกระชับกว่า  และตามสมัยนิยม คือจะมีแผ่น CD แถมมาด้วย โดยรู้สึกจะใส่ซองสอดไว้กลางเล่ม แล้วในเล่มมีปกให้ตัดใส่กล่องด้วย

สำหรับนิตยสารเล่มนี้ผมก็ซื้อมาหลายเล่มพอสมควร แต่หลัก ๆ จะไม่เน้นเก็บทุกเล่ม เลือกจากปกที่สนใจมากกว่า  และสุดท้ายด้วยการมาของ The Aspirer Group ผมก็เลิกใช้ชื่อ TAG ในทุกกิจกรรมของตัวเอง (ไม่งั้นป่านนี้บล็อกนี้ก็ชื่อ TAG แล้ว 😄) ซึ่งก็พบว่าคิดถูก เพราะคนใช้ชื่อ TAG เยอะมากเลยตอนนี้ 😃



PC Today ค่ายเดียวกับตะกี้

วันนึงผมไปกิน MK กับครอบครัว แต่ก่อนไปกินผมแวะร้านหนังสือก่อน แล้วก็เจอหนังสือแปลก ๆ ขนาดพ็อคเก็ตบุ็คแต่ใส่มาในถุงที่มีแผงยื่นมาข้างบน (อธิบายยังไงดี เคยซื้อปากกาแบบใส่ซองแขวนไว้มั้ย เออตรงที่มีรูแขวนนั่นแหละ มันยื่นแบบนั้น) ถ้าจำผิดขออภัย อาจไปสับสนกับเล่มอื่น และหนังสือนี่มันมี 2 ด้าน ซ้ำยังแถม CD ด้วย!! (ยุคนั้นอะไร ๆ ก็แถม CD 😄)

มันคือ PC Today โดย The Aspirer Group เช่นเคย โดยด้านหน้าจะเป็น PC Today ปกติ มีเนื้อหาด้านไอทีทั่วไป มีทิปเทคนิคมากมาย (โดยเฉพาะทิปของวินโดวส์ ที่ลงต่อเนื่องตั้งแต่ Vista ยัน Windows 8) มีแนะนำซอฟต์แวร์และสอนอะไรหลาย ๆ อย่าง เนื้อหาเหมาะกับคนเล่นคอมในยุคนั้น ๆ (ตอนหลังยุคมือถือ ก็เริ่มลงเรื่องแอปมือถือ) แล้วถ้าพลิกไปด้านหลังแล้วจับตีลังกา ก็จะกลายเป็น Street Shopper ก็คือเน้นรีวิวและเปรียบเทียบฮาร์ดแวร์ ไว้เป็นแนวทางให้คนที่กำลังจะซื้อ  ผมจำได้ว่าเคยมีคอลัมน์นึงที่เจ๋งมาก คือ ตั้งโจทย์ฮาร์ดแวร์มาอย่างนึง จากนั้นไปสัมภาษณ์คนที่ใช้ฮาร์ดแวร์นั้นในรุ่นและยี่ห้อต่าง ๆ กัน แบบเหมือนฟังรีวิวจากผู้ชมทางบ้านนั่นแหละ  ที่เหลือโดยรวมก็เป็นนิตยสารที่อ่านง่ายและเต็มอิ่มพอดีคำดี

ตอนหลัง PC Today ก็ขึ้นราคา เปลี่ยนโลโก้ และเหลือแค่ด้านเดียว ผมก็ซื้อน้อยลงเพราะขึ้นราคาโดยไม่ยอมพูดถึงนี่แหละ เอาจริง ๆ นิตยสารยุคท้าย ๆ จะชอบขึ้นราคาเงียบ ๆ ต่างจากยุคแรก ๆ ที่บทบรรณาธิการต้องมาแล้ว "ด้วยสภาพเศรษฐกิจ เราจึงจำเป็นต้องขอขึ้นราคาเป็น XX บาท ตั้งแต่ฉบับ NNN เป็นต้นไป" อะไรงี้  แต่พอใกล้จบยุคนิตยสาร จะขึ้นก็ขึ้นเลย คนอ่านเข้าใจอยู่แล้ว พูดมากทำไม 😅



Gamecom ครั้งที่สาม... 

แล้วพวกเขาก็กลับมา ทีมงาน IT Games และ Interactive Computer Games นั่นแหละ (แต่เหมือนจะไม่ได้มาทุกคน) คราวนี้มาแปลกคือมาโผล่ที่สำนักพิมพ์ฝั่งคอนโซล การ์ตูน และของเล่น  อย่าง Animate Group ที่ทำนิตยสาร Gamemag และ ทีวีแมกกาซีน (เผื่อใครไม่รู้ ตอนเขียนนี่ทีวีแมกกาซีนยังอยู่นะครับ แต่เล่มอื่น ๆ ไปหมดละ) โดยเล่มแรก ๆ ยังให้ฟีลลิ่งคล้าย ๆ เล่มเดิมอยู่ แต่หลัง ๆ งานอาร์ตและอะไรต่อมิอะไรก็ดูเป็นนิตยสารในเครือ Animate Group เต็มขั้นละ 

จุดที่แตกต่างจากเดิมผมว่าเป็นความแน่น เพราะผมรู้สึกว่าเขาลงบทสรุปเกมแน่นมาก ๆ ทำให้คอลัมน์ข้างเคียงอื่น ๆ เช่น แนะนำฮาร์ดแวร์ และการเขียนโปรแกรม โดนลดน้อยลงหรือหายไปเลย แต่ตอนนั้นเกม PC เข้าถึงคนทั่วไปมากขึ้นแล้ว พวกบทความเฉพาะทางมันไม่จำเป็นแล้วละ ลงเรื่องเกมเน้น ๆ ไปเลยดีแล้ว 

เป็นนิตยสารเล่มนึงที่ผมตามเก็บประจำ จนสิ้นยุคนิตยสารไป แล้วหลังจากนี้ก็ไม่รู้ทีมงานไปทำอะไรต่อแล้ว และก็ไม่มีนิตยสารเล่มที่สี่โผล่มา..



CHIP นิตยสารจากเยอรมัน

ถ้าให้ผมจัดลำดับสุดยอดนิตยสารคอม ผมคงยกให้ CHIP นี่แหละ CHIP เป็นนิตยสารจากค่ายใหม่ VBT Communications ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากนิตยสาร CHIP จากเยอรมัน ทำให้เนื้อหามีความเยอรมันหน่อย ๆ เช่น ซีเรียสเรื่อง Privacy กับ Security เป็นพิเศษ และบ้าการ Tweak สุด ๆ

เนื้อหาและรูปเล่มของ CHIP เรียกได้ว่าสวยงามไปหมด และมักจะชอบใช้ Info Graphic ประกอบอยู่บ่อย ๆ  และถ้าดูในภาพดี ๆ ใช่ เล่มนี้ก็แถม CD ตามสมัยนิยมอีกแหละ เนื้อหาก็มีทั้งซอฟต์แวร์ฮาร์ดแวร์ครบเครื่อง ดีไปหมดแหละ เรื่องนึงที่จำได้คือ มี 2 สิ่งที่นิตยสาร CHIP เชียร์เป็นพิเศษในยุคนั้นคือ Panda Anti-virus และ ฮาร์ดดิสก์ยี่ห้อซัมซุง (ปัจจุบันแผนกฮาร์ดดิสก์ซัมซุงโดนซื้อไปแล้วโดยซีเกท) 

ช่วงยุคท้าย ๆ ผมรู้สึกว่าต้องลดรายจ่ายลง เลยเปลี่ยนไปสมัคร CHIP เป็นอีบุ็คเพราะถูกกว่า แต่อีบุ็คตอนนั้นจะผูกอยู่กับเว็บของ VBT และก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น นั่นคือจู่ ๆ ทาง CHIP เยอรมันก็ไม่ต่อสัญญากับ VBT ทำให้นิตยสาร CHIP ในไทยยุติการจำหน่ายทันที และอีบุ็คที่ซื้อไว้ก็ถูกปิดไม่ให้โหลดทันทีด้วย (ดีที่โหลดมาอ่านส่วนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ครบทุกเล่ม) 

แต่ตอนที่เขียนอยู่นี่ยังมีนิตยสาร CHIP บางเล่มเปิดให้โหลดฟรีใน MEB อยู่นะ ใครสนใจลองอ่านให้ค้นคำว่า chip magazine หลังจากนั้นกดเข้าไปดูสักเล่มแล้วให้กดที่ชื่อสำนักพิมพ์ จะมีพวกเล่ม Plus ให้อ่านเพิ่มอีก



กลุ่มนิตยสารสำหรับนักพัฒนา

คราวนี้ขอจัดเป็นกลุ่มบ้าง ช่วงยุค CD เฟื่องฟู ยุค PDA ยุค .NET เป็นขาขึ้นของการทำนิตยสารเลย ก็เลยมีนิตยสารหัวใหม่ ๆ เข็นมาแข่งกันมากมาย  เริ่มจากทาง Winmag ได้แตกนิตยสาร Dr.Winmag มาเป็นนิตยสารสำหรับนักพัฒนาโดยเฉพาะ รู้สึกว่าผมจะตามเก็บได้ครบทุกเล่มนะ  ส่วนฝั่ง QuickPC ก็ออก @DEV มาแข่ง (อาจจำผิดว่าใครออกก่อนหลัง) แล้วมีทั้งแบบพร้อม CD และไม่มี CD ให้เลือก โดยใน CD ก็จะเป็นพวก Source Code และ Tools ต่าง ๆ นั่นแหละ

ตอนหลัง Dr.Winmag ก็ยุติการตีพิมพ์ไป (น่าจะไปก่อนคู่แข่ง) แต่ไปโผล่เป็นชื่อคอลัมน์ตอบจดหมายใน Winmag แทน (ไม่สิ นิตยสารมาก่อนหรือหน้าตอบจดหมายมาก่อนเนี่ย?) แต่ก็เป็นการตอบคำถามทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เกี่ยวกับนักพัฒนา



Quick Lnux นิตยสารลินุกซ์เขาก็มี

ดูจากชื่อก็คงรู้ว่าเป็นนิตยสารในเครือ QuickPC อีกแล้ว ค่ายนี้เขาออกยิบ ๆ จริง ๆ สมัยนั้น ก็เป็นนิตยสารที่มาพร้อม CD สองแผ่น แล้วมักจะมีแผ่นนึงเป็นลินุกซ์ดิสโทรต่าง ๆ ให้ลองบูตเล่น (ยุคนั้นยังมี Live CD อยู่) ผมก็จำอะไรไม่ค่อยได้ละ แต่ก็ซื้อมาหลายเล่มเหมือนกัน น่าจะเป็นยุคที่ยังใช้ Windows XP อยู่ แล้วอยากหนีไปหาอย่างอื่นซะทีเลยหาลินุกซ์มาเล่นล่ะมั้ง 



กลุ่มนิตยสาร CD

มาถึงหัวข้อสุดท้าย ก็รวมนิตยสารที่คอนเทนต์หลักอยู่ใน CD เลยเรียกว่านิตยสาร CD โดยหลัก ๆ จะมี 2 แบบคือ แบบมีวิดีโอหรือสื่ออย่างอื่นให้ดูในแผ่น กับแบบเน้นไฟล์ดาวน์โหลดอย่างเดียว ซึ่งตอนนั้นนิตยสารดาวน์โหลดจะออกมาหลายหัวมาก เพราะเน็ตตามบ้านยังไม่แรง ก็ต้องฝากพวกมีเน็ตบริษัทอย่างสำนักพิมพ์พวกนี้แหละ ดาวน์โหลดมาใส่แผ่นให้

แบบมีสื่อในแผ่นก็ EasyCD ของ QuickPC (อีกแล้ว) ในแผ่นจะมีโปรแกรมเมนูตอบโต้ไว้กดดูวิดีโอและเนื้อหาเพิ่มเติม รวมทั้งเข้าถึงไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาให้ในแผ่นด้วย แบบกึ่ง ๆ ก็ maxCD ของ Computer.Today ที่นอกจากไฟล์ดาวน์โหลดแล้ว ก็มีการ์ตูนนายละมุนแบบ Flash ให้ดูเป็นพิเศษด้วย (จะว่าไป เหมือนไม่เคยเปิดดู 😅)

ส่วนอีกเล่มที่ยกตัวอย่างมา ก็ X Download จาก QuickPC อีกนั่นแหละ อันนี้เน้นไฟล์ดาวน์โหลดล้วน ๆ แล้วมีมาให้ถึง 2 แผ่นจุก ๆ  นอกจากพวกโปรแกรมต่าง ๆ แล้ว ยังมีไดร์เวอร์ล่าสุด ตัวอย่างหนัง ตัวอย่างเกม แล้วบางทียังใส่ภาพสาว ๆ มาด้วย (ใช่หัวนี้รึเปล่านะ หรือเล่มอื่น 😅) 

นอกจากพวกนี้ยุคนั้นมีหนังสือแถม CD แบบนี้มาอีกเพียบ ทั้งแบบถูกและผิด อย่างเช่นพวกแผ่นอีมูเลเตอร์เนี่ย เยอะมาก ๆ 



ส่งท้าย

ก็จบไปแล้วกับการทบทวนความทรงจำนิตยสารไอทีรอบแรก (แต่ไม่ต้องหวังรอบต่อไป) ซึ่งจริง ๆ ก็มีตกหล่นอีกหลายเล่ม อย่าง PC Magazine Thailand ที่ ARIP ซื้อลิขสิทธิ์มา (น่าจะใช่นะ มีร่องรอยเหลือในเน็ต แต่บางที่ก็บอกว่าของ แมน กรุพ) อันนี้ผมมีอยู่เหมือนกันแต่หาไม่เจอ แทบจะจำไม่ได้ด้วย  หรือจะเป็น Computer Review ของบริษัท แมน กรุพ จำกัด ที่เป็นหนังสือคอมที่อยู่มานานมาก ขนาดเล่มที่ขุดเจอเป็นของปี 1997 แต่นั่นเป็นเล่มของปีที่ 13 แล้ว และมีเล่มเล็กเล่มน้อยอีกมากมาย ที่บางเล่มก็แถมมากับนิตยสารพวกนี้อีกที

สุดท้ายถ้าตกหล่นหรือผิดพลาดหรือเข้าใจอะไรผิด ใครรู้สามารถทักทายมาแก้ได้นะครับ แล้วคงไม่มีนักเขียนในหนังสือพวกนี้แวะมาเจอนะ แอบอาย 😂



ป.ล. อย่าขโมยภาพไปเนียนโพสต์ขายละ จะขายอะไรถ่ายของตัวเองครับ


ความคิดเห็น

  1. ชอบนิตยสาร Gamecom มาก เล่มแรกที่ได้น่าจะเป็นปกสีแดงเกม Alice และก็ตามซื้อมาตลอด

    นิตยสาร Futrue Gamer ซื้อบ้าง ไม่ซื้อบ้างเพราะมันแพง
    แต่ นิตยสาร Gamecom ซื้อตลอด ชอบมาก ๆ เสียดายที่ปิดตัวลงไปแล้ว

    ตอนนิตยสาร Futrue Gamer ประกาศเล่มสุดท้ายก็ใจหายนะ แม้จะไม่ค่อยได้ซื้อก็ตาม

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[ลอง 3 เดือนนิด ๆ แล้วรีวิว] จอย 8BitDo SN30 Pro+

RPG Maker VX Ace กับภาษาไทย

กลเม็ดเคล็ดลับ FarmVille 2 (ตอนที่ 1)

[ลองลวก ๆ] SMILE GAME BUILDER เครื่องมือสร้างเกม RPG แบบบล็อค ๆ

เก็บตก RPG Maker MV ฉบับลองใช้จริง.....

RPG Maker MZ สอยดีมั้ย ภาษาไทยปกติรึเปล่า?

[รีวิวสาย ๆ] Mega Man Legacy Collection 2

RPG Maker MV มีดีอะไร แล้วภาษาไทยล่ะ?

15 ปี Windows ME ใครไม่จำเราจำ!

[บันทึก] เมื่อผมไปอบรมประสบการณ์วิชาชีพ มสธ.