avast! 2016 Free Antivirus ... โฉมใหม่พร้อมจัดการรหัสผ่าน
ปีหลัง ๆ มานี่ avast! รุ่นใหม่มักจะออกวันที่ 20 กว่า ๆ ของเดือนตุลาคม แต่คราวนี้มาช้านิดหน่อย ล่อไปเป็นราว ๆ วันที่ 3 พ.ย. วันเดียวกับที่ Firefox 42 ออก Vivaldi ปล่อยรุ่นเบต้าแรก OneDrive ประกาศลดพื้นที่ฟรีจาก 15 GB เหลือ 5 GB Twitter เปลี่ยนดาวเป็นรูปหัวใจ Activision ซื้อบริษัทผู้พัฒนา Candy Crush Saga เว็บตุรกีประกาศปิดส่วนดาวน์โหลด ..... วันอะไร ข่าวเยอะจริงวุ้ย!
และการอัพเดตแต่ละปีก็ต้องมาพร้อมกับหน้าตาใหม่หมดเสมอ (แบบว่า.. ทีม UI ต้องมีผลงานออกมาทุกปีนะเว้ย!!) ครั้งนี้เปิดมาก็ดังภาพ ตัดเมนูยุ่บยั่บและช่องช็อตคัททิ้งหมด เหลือแค่เมนูหลักแสนจำเป็นคือ Scan Tools Passwords และ Store เท่านั้น ที่เหลือเว้นไว้เป็นพื้นที่สำหรับบอกว่า เฮ้ย เครื่องคุณได้รับการป้องกันแล้วนะ กับปุ่มสำหรับรัน Smart Scan
เมื่อกดเมนูหลักก็จะมีเมนูย่อยลงมา และเมื่อกดเข้าเมนูย่อยแล้วเมนูหลักจะหายไป เหลือแต่ปุ่ม 3 ขีด ซึ่งเราต้องกดปุ่ม 3 ขีดเพื่อเรียกเมนูหลักอีกทีถึงจะสลับไปหน้าอื่น ๆ ได้ รู้สึกลำบากขึ้นจากแต่ก่อนที่กดข้ามไปข้ามมาได้ทันที แต่ไอ้โปรแกรมประเภทนี้เราก็ไม่ได้เปิดมาใช้บ่อย ๆ เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ถือว่าพออภัยได้
จุดเปลี่ยนอีกอย่างคือ สิ่งที่เคยอยู่ในหมวด Tools หลายอย่างถูกจับมาอยู่ในหมวด Scan แทน เช่น Browser Cleanup, Software Updater และ Cleanup (น่าจะเป็นตัวเดียวกับ GrimeFighter ในเวอร์ชั่น 2015 น่ะนะ ) ซึ่งพอย้ายมาแบบนี้มันก็เลยถูกจับมาอยู่ใน Smart Scan ซึ่งเป็นฟีเจอร์ "กดปุ่มเดียวสแกนทุกสิ่งอย่าง" ไปเรียบร้อย ... ก่อนใช้แนะนำให้เข้า Settings > Tools แล้วปิด Cleanup ไปเลยครับ
Home Network Security (หรือ Scan for network threats) ในเวอร์ชั่นนี้จะละเอียดขึ้นกว่าเดิม คือสามารถแสดงข้อมูลว่ามีอุปกรณ์อะไรเชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายบ้าง และสแกนแต่ละอุปกรณ์ได้ด้วยว่ามันมีรูรั่วอะไรรึเปล่า จริง ๆ ฟีเจอร์นี้แอบมีมาตั้งแต่รุ่น 2015 แล้ว แต่มาทีหลังไม่ได้มาแต่แรก (ในรีวิวคราวก่อนเลยยังไม่มี)
Avast! Passwords ของเล่นใหม่ที่
ถ้าคุณเข้าไปที่เว็บ avast! ตอนนี้ (บทความนี้เขียนวันที่ 6/11/2558) แล้วเลื่อนลงไปเรื่อย ๆ จะเห็นช่องสีขาวใหญ่ ๆ อยู่ ซึ่งช่องนั้นมันมีไว้สำหรับทดสอบความแข็งแกร่งของพาสเวิร์ดครับ ไปลองกันได้ (ผมลองกับรหัสหลักดู ได้ Crazy Level ใช้เวลาถอดรหัส 6076129385 ปี...) และนั่นเป็นวิธีโปรโมทของเล่นใหม่ของ avast! นั่นคือ Avast! Passwords นี่เอง!
เมื่อคุณเข้าไปครั้งแรกมันจะสแกนหารหัสผ่านที่จำไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ว่ามีกี่รายการ และเมื่อคุณกด Check มันก็จะขึ้นมาบอกเพิ่มว่าใช้ซ้ำกี่อัน รหัสอ่อนแอกี่อัน และ compromised (ประนีประนอม?) กี่อัน ซึ่งแต่ละหัวข้อคุณสามารถกดดูได้เลยว่ามีรหัสของเว็บไหนบ้าง ถือว่าเจ๋งเอาเรื่อง อ้อ! ถ้าคุณใส่ Master Password ไว้ใน Firefox มันจะสแกนไม่ได้นะครับ (ที่เห็นนี่ของเบราว์เซอร์อื่น ๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ซึ่งมันก็ไม่ได้บอกว่าเอามาจากตัวไหนบ้าง)
เมื่อคุณกด Activate for free จะเป็นการเปิดใช้ ซึ่งเปิดแล้วมันจะยึดติดกับ Avast! Account ไปเลย ถอดออกไม่ได้ (แต่ปิดได้) โดยขั้นตอนการเปิดมี 4 ขั้นตอน
หากข้ามขั้นตอนอะไรไปก็มาทำต่อใน Settings > Passwords ทีหลังได้ จะเปลี่ยน Master Password ติดตั้ง Extension หรือ Import รหัสผ่านเข้ามาใหม่ ก็ทำได้ทั้งนั้น
ตัว Extension ก็หน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ โดยเมื่อคุณติดตั้งมันกับเบราว์เซอร์ตัวใดแล้ว มันก็จะไปปิดระบบจำรหัสผ่านของเบราว์เซอร์นั้นโดยอัตโนมัติ หากกลับใจอยากเปิดกลับก็ตามนี้ครับ (ใครใช้เมนูอังกฤษคงหาเองเจอนะ)
สรุปว่า Avast! Passwords พยายามจะครอบครองกิจการจำรหัสผ่านในเครื่องคุณไว้เพียงผู้เดียวนั่นเอง ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคุณสะดวกกับการจำรหัสผ่านด้วยเบราว์เซอร์อยู่แล้ว ก็อย่ายกให้ Avast! Passwords เป็นตัวจัดการรหัสผ่านแทนเบราว์เซอร์ดีกว่าครับ เพราะเราไม่รู้ว่าวันไหน Avast! จะยุติบริการนี้ และวันไหนเบราว์เซอร์จะอัพเดตแล้ว extension ของ Avast! ไม่ทำงาน
แต่ Avast! Passwords ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง คือมันช่วยให้คุณรู้ว่ารหัสผ่านอันไหนอ่อนแอเกินไป ใช้ซ้ำแค่ไหน และยังจัดการได้ง่ายกว่าในเว็บเบราว์เซอร์พอดูทีเดียว นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มรหัสผ่านของเว็บไซต์เข้าไปในตัว Avast! Passwords ได้โดยตรง แถมยังก็อปปี้รหัสผ่านออกมาได้ด้วย (กดเข้าไปที่เว็บไซต์ แล้วจะมีให้กดก็อปปี้)
Avast! Passwords ที่ติดมากับ avast! 2016 นี้เป็นเวอร์ชั่นฟรีไม่เสียค่าสมัครใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็มีเวอร์ชั่น Premium ซึ่งมีบริการแจ้งข่าวรหัสผ่านรั่ว (คงหมายถึงเว็บถูกแฮก ที่ได้ยินข่าวกันบ่อย) และบริการล็อกอินแบบสะดวกยิ่งขึ้นเพียงแตะที่หน้าจอมือถือ ซึ่งตอนนี้ค่าบริการขั้นต่ำอยู่ที่ $0.78 ต่อเดือน
นอกจากการเปลี่ยนแปลงและฟีเจอร์ที่กล่าวไปแล้ว ยังมีอีกอย่างที่พัฒนาขึ้น คือปรับปรุง HTTPS scanning ให้ดีขึ้น แต่ผมว่ามันทำให้เว็บอืดขึ้นจมเลย ใครอืดเหมือนกันก็ลองปิดดูได้ โดยเข้าไปที่ Settings > Active Protection แล้วกด Customize ที่ Web Shield จากนั้นเอา Enable HTTPS scanning ออก
สำหรับ Avast! ของปีนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ปีหน้าผมอาจเปลี่ยนไปใช้ AVG ก็ได้.... รู้สึกเริ่มอยากเปลี่ยน
เอ็นทรี่ Avast! ปีก่อน ๆ :
และการอัพเดตแต่ละปีก็ต้องมาพร้อมกับหน้าตาใหม่หมดเสมอ (แบบว่า.. ทีม UI ต้องมีผลงานออกมาทุกปีนะเว้ย!!) ครั้งนี้เปิดมาก็ดังภาพ ตัดเมนูยุ่บยั่บและช่องช็อตคัททิ้งหมด เหลือแค่เมนูหลักแสนจำเป็นคือ Scan Tools Passwords และ Store เท่านั้น ที่เหลือเว้นไว้เป็นพื้นที่สำหรับบอกว่า เฮ้ย เครื่องคุณได้รับการป้องกันแล้วนะ กับปุ่มสำหรับรัน Smart Scan
มีอะไรใหม่บ้างนอกจากหน้าตา?
เมื่อกดเมนูหลักก็จะมีเมนูย่อยลงมา และเมื่อกดเข้าเมนูย่อยแล้วเมนูหลักจะหายไป เหลือแต่ปุ่ม 3 ขีด ซึ่งเราต้องกดปุ่ม 3 ขีดเพื่อเรียกเมนูหลักอีกทีถึงจะสลับไปหน้าอื่น ๆ ได้ รู้สึกลำบากขึ้นจากแต่ก่อนที่กดข้ามไปข้ามมาได้ทันที แต่ไอ้โปรแกรมประเภทนี้เราก็ไม่ได้เปิดมาใช้บ่อย ๆ เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ถือว่าพออภัยได้
จุดเปลี่ยนอีกอย่างคือ สิ่งที่เคยอยู่ในหมวด Tools หลายอย่างถูกจับมาอยู่ในหมวด Scan แทน เช่น Browser Cleanup, Software Updater และ Cleanup (น่าจะเป็นตัวเดียวกับ GrimeFighter ในเวอร์ชั่น 2015 น่ะนะ ) ซึ่งพอย้ายมาแบบนี้มันก็เลยถูกจับมาอยู่ใน Smart Scan ซึ่งเป็นฟีเจอร์ "กดปุ่มเดียวสแกนทุกสิ่งอย่าง" ไปเรียบร้อย ... ก่อนใช้แนะนำให้เข้า Settings > Tools แล้วปิด Cleanup ไปเลยครับ
Home Network Security (หรือ Scan for network threats) ในเวอร์ชั่นนี้จะละเอียดขึ้นกว่าเดิม คือสามารถแสดงข้อมูลว่ามีอุปกรณ์อะไรเชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายบ้าง และสแกนแต่ละอุปกรณ์ได้ด้วยว่ามันมีรูรั่วอะไรรึเปล่า จริง ๆ ฟีเจอร์นี้แอบมีมาตั้งแต่รุ่น 2015 แล้ว แต่มาทีหลังไม่ได้มาแต่แรก (ในรีวิวคราวก่อนเลยยังไม่มี)
Avast! Passwords ของเล่นใหม่ที่ยัดเยียดแถมมาฟรี
ถ้าคุณเข้าไปที่เว็บ avast! ตอนนี้ (บทความนี้เขียนวันที่ 6/11/2558) แล้วเลื่อนลงไปเรื่อย ๆ จะเห็นช่องสีขาวใหญ่ ๆ อยู่ ซึ่งช่องนั้นมันมีไว้สำหรับทดสอบความแข็งแกร่งของพาสเวิร์ดครับ ไปลองกันได้ (ผมลองกับรหัสหลักดู ได้ Crazy Level ใช้เวลาถอดรหัส 6076129385 ปี...) และนั่นเป็นวิธีโปรโมทของเล่นใหม่ของ avast! นั่นคือ Avast! Passwords นี่เอง!เมื่อคุณเข้าไปครั้งแรกมันจะสแกนหารหัสผ่านที่จำไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ว่ามีกี่รายการ และเมื่อคุณกด Check มันก็จะขึ้นมาบอกเพิ่มว่าใช้ซ้ำกี่อัน รหัสอ่อนแอกี่อัน และ compromised (ประนีประนอม?) กี่อัน ซึ่งแต่ละหัวข้อคุณสามารถกดดูได้เลยว่ามีรหัสของเว็บไหนบ้าง ถือว่าเจ๋งเอาเรื่อง อ้อ! ถ้าคุณใส่ Master Password ไว้ใน Firefox มันจะสแกนไม่ได้นะครับ (ที่เห็นนี่ของเบราว์เซอร์อื่น ๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ซึ่งมันก็ไม่ได้บอกว่าเอามาจากตัวไหนบ้าง)
เมื่อคุณกด Activate for free จะเป็นการเปิดใช้ ซึ่งเปิดแล้วมันจะยึดติดกับ Avast! Account ไปเลย ถอดออกไม่ได้ (แต่ปิดได้) โดยขั้นตอนการเปิดมี 4 ขั้นตอน
- อ่านคำแนะนำว่ามันทำอะไรได้บ้างเฉย ๆ
- ตั้ง Master Password (ห้ามลืม)
- ติดตั้ง Extension สำหรับช่วยหยอดและจำรหัสผ่านในเบราว์เซอร์ (ตอนนี้เห็นมีแต่ Firefox กับ Chrome)
- พร้อมใช้ (จะมีให้ติ๊กล้างรหัสผ่านในเบราว์เซอร์ด้วย ซึ่งแนะนำว่าอย่าล้าง! เพราะดึงออกมาได้ แต่ใส่กลับยากนะ)
หากข้ามขั้นตอนอะไรไปก็มาทำต่อใน Settings > Passwords ทีหลังได้ จะเปลี่ยน Master Password ติดตั้ง Extension หรือ Import รหัสผ่านเข้ามาใหม่ ก็ทำได้ทั้งนั้น
ตัว Extension ก็หน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ โดยเมื่อคุณติดตั้งมันกับเบราว์เซอร์ตัวใดแล้ว มันก็จะไปปิดระบบจำรหัสผ่านของเบราว์เซอร์นั้นโดยอัตโนมัติ หากกลับใจอยากเปิดกลับก็ตามนี้ครับ (ใครใช้เมนูอังกฤษคงหาเองเจอนะ)
- Firefox : อยู่ในหน้าตัวเลือก > ความปลอดภัย หัวข้อรหัสผ่าน กาที่ "จำรหัสผ่านของเว็บไซต์"
- Chrome : เข้าการตั้งค่า พิมพ์หา "รหัสผ่านและฟอร์ม" แล้วกา "เสนอการบันทึกรหัสผ่าน..."
สรุปว่า Avast! Passwords พยายามจะครอบครองกิจการจำรหัสผ่านในเครื่องคุณไว้เพียงผู้เดียวนั่นเอง ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคุณสะดวกกับการจำรหัสผ่านด้วยเบราว์เซอร์อยู่แล้ว ก็อย่ายกให้ Avast! Passwords เป็นตัวจัดการรหัสผ่านแทนเบราว์เซอร์ดีกว่าครับ เพราะเราไม่รู้ว่าวันไหน Avast! จะยุติบริการนี้ และวันไหนเบราว์เซอร์จะอัพเดตแล้ว extension ของ Avast! ไม่ทำงาน
แต่ Avast! Passwords ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง คือมันช่วยให้คุณรู้ว่ารหัสผ่านอันไหนอ่อนแอเกินไป ใช้ซ้ำแค่ไหน และยังจัดการได้ง่ายกว่าในเว็บเบราว์เซอร์พอดูทีเดียว นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มรหัสผ่านของเว็บไซต์เข้าไปในตัว Avast! Passwords ได้โดยตรง แถมยังก็อปปี้รหัสผ่านออกมาได้ด้วย (กดเข้าไปที่เว็บไซต์ แล้วจะมีให้กดก็อปปี้)
Avast! Passwords ที่ติดมากับ avast! 2016 นี้เป็นเวอร์ชั่นฟรีไม่เสียค่าสมัครใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็มีเวอร์ชั่น Premium ซึ่งมีบริการแจ้งข่าวรหัสผ่านรั่ว (คงหมายถึงเว็บถูกแฮก ที่ได้ยินข่าวกันบ่อย) และบริการล็อกอินแบบสะดวกยิ่งขึ้นเพียงแตะที่หน้าจอมือถือ ซึ่งตอนนี้ค่าบริการขั้นต่ำอยู่ที่ $0.78 ต่อเดือน
ส่งท้าย
ถ้าสังเกตภาพในรีวิวดี ๆ จะเห็นว่าภาพหลัง ๆ กลายเป็นรุ่น BETA ไปเสียฉิบ อันนี้เป็นบั๊กแปลก ๆ ที่หลายคนพบ (รวมทั้งผมด้วย) คืออัพเกรดเป็น 2016 แล้วดันเป็นรุ่น BETA นี่แหละ เขาบอกว่าแก้ได้โดยการ Clean Install ซะ แต่.. ของผมนี่ตอนอัพเกรดไม่เป็น มาเป็นเอาตอน Clean Install ซะงั้นนี่แหละนอกจากการเปลี่ยนแปลงและฟีเจอร์ที่กล่าวไปแล้ว ยังมีอีกอย่างที่พัฒนาขึ้น คือปรับปรุง HTTPS scanning ให้ดีขึ้น แต่ผมว่ามันทำให้เว็บอืดขึ้นจมเลย ใครอืดเหมือนกันก็ลองปิดดูได้ โดยเข้าไปที่ Settings > Active Protection แล้วกด Customize ที่ Web Shield จากนั้นเอา Enable HTTPS scanning ออก
สำหรับ Avast! ของปีนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ปีหน้าผมอาจเปลี่ยนไปใช้ AVG ก็ได้.... รู้สึกเริ่มอยากเปลี่ยน
อ้อ โหลด Avast! ได้ที่ : avast.com
เอ็นทรี่ Avast! ปีก่อน ๆ :
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น