avast! 2014 Free Antivirus ... เปลี่ยนใหม่จนจำไม่ได้
ปกติแล้ว avast! จะปล่อยเวอร์ชั่นใหม่มาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่งวดนี้ไม่ทันข้ามปีก็ปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ออกมาแล้ว (ออกมาเมื่อ 15 ตุลาคม) แถมให้มึนเล่น ๆ ด้วยการเรียกเวอร์ชั่นเป็นปี ค.ศ. แทน และมันก็ออกมาเป็น avast! 2014 ที่ผมจะมารีวิวในวันนี้นี่เอง!
*ถ้า exteen ไม่ล่ม คุณสามารถกลับไปดูเวอร์ชั่นเก่าเทียบได้ในเอ็นทรี่ avast! 8 Free Antivirus โดยในนั้นจะมีลิ้งค์ไปดูรีวิวเวอร์ชั่นก่อน ๆ อยู่ด้วย
แบนมากเลยใช่มั้ยครับ... และจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการจัดเมนูใหม่ที่ทำให้งงพอสมควรสำหรับคนที่ใช้ avast! มานาน คุณจะไม่เจอเมนูสำหรับปิดบรรดา shield ต่าง ๆ ไม่เจอเมนูสำหรับลงทะเบียน ไม่เจอเมนูสำหรับอัพเดต ในที่เดิม ๆ อีกต่อไป..
ที่หน้า Status จะมีช่องให้คุณตั้ง shortcut ได้ 4 ช่อง (ส่วนไอ้ 5 ช่องข้างล่างมันคือโฆษณาครับ) สามารถคลิกขวาแล้วเลือกได้เลย ได้แค่ 4 ช่องเท่านั้นนะ!
หน้า Scan คราวนี้ใช้ง่ายขึ้น แค่กดเลือกโหมดการสแกนแล้ว Start ได้เลย และยังคงมี Boot-time scan ให้ใช้เหมือนเดิม
เมนู Tools ยังคงมีเครื่องมือเดิม ๆ ยกมาจากเวอร์ชั่นที่แล้ว ได้แก่...
เมนู Statistics (ขอข้ามเมนู Store, My Devices กับ Help ไปเลยละกัน) เมื่อคลิกจะเปิดหน้าต่างใหม่ใหญ่ ๆ ขึ้นมา ใช้ดูสถานะการทำงานและข้อมูลสถิติต่าง ๆ ซึ่งถ้าดูดี ๆ จะเห็นว่ามี Shield อยู่แค่ 3 ตัว (เวอร์ชั่นก่อนมี 8 ตัว) คิดว่าคงตัดตัวอื่นทิ้งเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงานลง
สามารถดูได้ว่า avast! บล็อคไวรัสไปกี่ตัว จับเข้า Virus Chest ไปกี่ตัว ได้ที่เมนู Component status ซึ่งหน้าจอนี้ยังไม่วายมีแอบขายของอีก...
มี Global stats ให้ดูสถิติต่าง ๆ จากผู้ใช้ avast! ทั่วโลกได้ แหม่... คนใช้ WinXP ยังเยอะไม่เบาแฮะ
โดดมาดูที่เมนู Settings คราวนี้จัดระเบียบใหม่ใช้งานง่ายขึ้น สามารถมาปิดและตั้งค่า shield ต่าง ๆ ได้ที่นี่ พวกเมนูเช็คอัพเดตหรือลงทะเบียนก็ย้ายมาอยู่นี่หมด สะดวกง่ายดาย
การ Register หรือลงทะเบียนในเวอร์ชั่นนี้สะดวกขึ้น เพราะสามารถใช้บัญชี Facebook ลงทะเบียนได้เลย (ลงทีใช้ได้ 1 ปี หมดแล้วมาลงใหม่) ขั้นตอนการลงทะเบียนดูได้จากเว็บ avast! เลย โดยตอนแรกจะมีขึ้นมาหลอกให้เลือกเวอร์ชั่นไม่ฟรีทีนึง ก็ดูดี ๆ พอลงทะเบียนเสร็จก็มีขึ้นมาหลอกอีกรอบนึง (ตามภาพข้างบน) ตรงนี้ต้องกดลิ้งค์ Stay with basic protection เล็ก ๆ ข้างล่าง แหม่ เกือบหาไม่เจอ
Pop-up แจ้งเตือนในเวอร์ชั่นนี้เปลี่ยนไปตามภาพ คือจะไม่มีแบ่งหน้าต่างสี ๆ ตามการแจ้งเตือนแล้ว เป็นหน้าต่างขาวหัวดำปุ่มฟ้าหมด แต่ถ้าดูดี ๆ ตรงเส้นที่แบ่งระหว่างสีขาวกับดำจะยังมีสีตามการแจ้งเตือนอยู่ (ไม่สังเกตไม่รู้เลยนะ)
สุดท้ายนี้ขอเก็บตกฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ที่เหลืออยู่อีก ได้แก่...
คราวนี้ผมไม่แน่ใจว่าสั่งอัพเดตผ่าน avast! 8 ได้มั้ย เพราะผมลองแล้วมันแค่บอกว่ามีเวอร์ชั่นใหม่แต่ไม่อัพเดตให้ จนกระทั่งอัพเกรดไปใช้ Windows 8.1 ก็โดน Windows เอาออกไปซะก่อน ก็เลยต้องลงใหม่หมด...
*ถ้า exteen ไม่ล่ม คุณสามารถกลับไปดูเวอร์ชั่นเก่าเทียบได้ในเอ็นทรี่ avast! 8 Free Antivirus โดยในนั้นจะมีลิ้งค์ไปดูรีวิวเวอร์ชั่นก่อน ๆ อยู่ด้วย
หน้าตาใหม่แกะกล่องจริง ๆ
แม้จะเพิ่งออกแบบหน้าตาโปรแกรมใหม่หมดไปตอนเวอร์ชั่น 8 แต่ทางทีมออกแบบก็ยังไม่หมดไฟ ลงมือออกแบบเวอร์ชั่น 9 หรือ 2014 นี่ใหม่หมดจดเช่นกัน และคราวนี้มาในสไตล์แบน ๆ เหมือน Windows 8 ตามเคย เพียงแต่ดูเหมือนจะแบนยิ่งกว่าเดิมอีกแบนมากเลยใช่มั้ยครับ... และจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการจัดเมนูใหม่ที่ทำให้งงพอสมควรสำหรับคนที่ใช้ avast! มานาน คุณจะไม่เจอเมนูสำหรับปิดบรรดา shield ต่าง ๆ ไม่เจอเมนูสำหรับลงทะเบียน ไม่เจอเมนูสำหรับอัพเดต ในที่เดิม ๆ อีกต่อไป..
ที่หน้า Status จะมีช่องให้คุณตั้ง shortcut ได้ 4 ช่อง (ส่วนไอ้ 5 ช่องข้างล่างมันคือโฆษณาครับ) สามารถคลิกขวาแล้วเลือกได้เลย ได้แค่ 4 ช่องเท่านั้นนะ!
หน้า Scan คราวนี้ใช้ง่ายขึ้น แค่กดเลือกโหมดการสแกนแล้ว Start ได้เลย และยังคงมี Boot-time scan ให้ใช้เหมือนเดิม
เมนู Tools ยังคงมีเครื่องมือเดิม ๆ ยกมาจากเวอร์ชั่นที่แล้ว ได้แก่...
- Software Updater ไว้เช็คการอัพเดตโปรแกรมในเครื่อง
- Browser Cleanup ล้างพวกโฆษณา ทูลบาร์ขยะ ออกจากเบราว์เซอร์
- AccessAnywhere ไว้เชื่อมต่อไปยังคอมพ์เครื่องอื่นที่ลง avast! Premier (เสียตังค์) ไว้
- SecureLine เป็นระบบ VPN ของ avast! ซึ่งเสียค่าบริการรายเดือนครับ...
- Rescue Disk เป็นของใหม่ในเวอร์ชั่นนี้ครับ เอาไว้สร้างแผ่นสแกนแบบที่คนสมัยก่อนทำกันง่าย ๆกับแผ่น Floppy Disk ครับ เลือกได้ทั้งแบบ CD (ใช้แผ่น DVD ก็ได้ สร้างเป็น ISO ไว้ก่อนก็ได้) และ USB Flash drive
เมนู Statistics (ขอข้ามเมนู Store, My Devices กับ Help ไปเลยละกัน) เมื่อคลิกจะเปิดหน้าต่างใหม่ใหญ่ ๆ ขึ้นมา ใช้ดูสถานะการทำงานและข้อมูลสถิติต่าง ๆ ซึ่งถ้าดูดี ๆ จะเห็นว่ามี Shield อยู่แค่ 3 ตัว (เวอร์ชั่นก่อนมี 8 ตัว) คิดว่าคงตัดตัวอื่นทิ้งเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงานลง
สามารถดูได้ว่า avast! บล็อคไวรัสไปกี่ตัว จับเข้า Virus Chest ไปกี่ตัว ได้ที่เมนู Component status ซึ่งหน้าจอนี้ยังไม่วายมีแอบขายของอีก...
มี Global stats ให้ดูสถิติต่าง ๆ จากผู้ใช้ avast! ทั่วโลกได้ แหม่... คนใช้ WinXP ยังเยอะไม่เบาแฮะ
โดดมาดูที่เมนู Settings คราวนี้จัดระเบียบใหม่ใช้งานง่ายขึ้น สามารถมาปิดและตั้งค่า shield ต่าง ๆ ได้ที่นี่ พวกเมนูเช็คอัพเดตหรือลงทะเบียนก็ย้ายมาอยู่นี่หมด สะดวกง่ายดาย
การ Register หรือลงทะเบียนในเวอร์ชั่นนี้สะดวกขึ้น เพราะสามารถใช้บัญชี Facebook ลงทะเบียนได้เลย (ลงทีใช้ได้ 1 ปี หมดแล้วมาลงใหม่) ขั้นตอนการลงทะเบียนดูได้จากเว็บ avast! เลย โดยตอนแรกจะมีขึ้นมาหลอกให้เลือกเวอร์ชั่นไม่ฟรีทีนึง ก็ดูดี ๆ พอลงทะเบียนเสร็จก็มีขึ้นมาหลอกอีกรอบนึง (ตามภาพข้างบน) ตรงนี้ต้องกดลิ้งค์ Stay with basic protection เล็ก ๆ ข้างล่าง แหม่ เกือบหาไม่เจอ
Pop-up แจ้งเตือนในเวอร์ชั่นนี้เปลี่ยนไปตามภาพ คือจะไม่มีแบ่งหน้าต่างสี ๆ ตามการแจ้งเตือนแล้ว เป็นหน้าต่างขาวหัวดำปุ่มฟ้าหมด แต่ถ้าดูดี ๆ ตรงเส้นที่แบ่งระหว่างสีขาวกับดำจะยังมีสีตามการแจ้งเตือนอยู่ (ไม่สังเกตไม่รู้เลยนะ)
สุดท้ายนี้ขอเก็บตกฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ที่เหลืออยู่อีก ได้แก่...
- DeepScreen - เป็นการสแกนไฟล์ที่ไม่รู้จักแบบ Real-time ทำให้ปลอดภัยสุด ๆ แต่ผมโดนมันจับแอพ Facebook ของ Windows 8.1 ยัดเข้า Virus Chest เฉย ... เธอดีเกินไป
- Hardened Mode - เป็นโหมดโหดสำหรับตอนที่ต้องการความปลอดภัยแบบเข้ม เข้มจนต้องปิดไว้ เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์เท่านั้น สามารถปรับได้ 2 ระดับคือ Aggressive ที่ไม่ยอมให้ไฟล์โปรแกรมที่ไม่อยู่ใน White list ทำงานเลย และ Moderate ยังยอมให้ไฟล์โปรแกรมอื่นในฐานข้อมูลทำงานได้ ยกเว้นไฟล์ที่คนใช้น้อย
ส่งท้าย
นาน ๆ ทีจะได้เห็นโปรแกรมสักตัวเปลี่ยน UI ใหม่หมดเลยภายในเวลาไม่ถึงปี แถมด้วยแนวคิดในการลดจำนวน Shield ที่ซ้ำซ้อนลงจนเหลือแค่ 3 ตัว (ไม่ได้กั๊กไว้ให้เวอร์ชั่นเสียตังค์หรอก...มั้ง) ทำให้ทาง avast! ออกมาโม้ว่าใช้หน่วยความจำได้เต็มประสิทธิภาพ แถมสแกนเว็บได้เร็วขึ้น 10 เท่า และสแกนไฟล์ได้เร็วขึ้น 2 เท่าเลยนะ จะเป็นยังไงก็ลองดูกันคราวนี้ผมไม่แน่ใจว่าสั่งอัพเดตผ่าน avast! 8 ได้มั้ย เพราะผมลองแล้วมันแค่บอกว่ามีเวอร์ชั่นใหม่แต่ไม่อัพเดตให้ จนกระทั่งอัพเกรดไปใช้ Windows 8.1 ก็โดน Windows เอาออกไปซะก่อน ก็เลยต้องลงใหม่หมด...
(ระวังโดนหลอกให้คลิกเวอร์ชั่นไม่ฟรี)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น