[พาทัวร์] Vivaldi ผู้สืบทอดจิตวิญญาณดั้งเดิมของ Opera !!

หลังจากทิ้งชื่อ Vivaldi ไว้ท้ายเอ็นทรี่ Opera 27 สักพัก ผมก็รู้สึกว่าไหน ๆ ก็ว่างเว้นจากการเขียนเอ็นทรี่ Chrome แล้ว เอา Vivaldi มาลองเล่นดีกว่า (คือ แนะนำชาวบ้าน แต่ตัวเองยังไม่ได้ลองว่างั้นเถอะ) หลังจากแกะ ๆ เกา ๆ มันสักพัก อืม... น่าสนใจ เอามาลงบล็อกดีกว่า! ก็เลยเป็นเอ็นทรี่นี้อย่างที่เห็น

Vivaldi เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ Jon von Tetzchner ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Opera Software ฟอร์มทีมพัฒนาขึ้น เพื่อเอาจิตวิญญาณ (พูดเป็นรูปธรรมก็ฟีเจอร์เดิม ๆ ที่หายไป) ของ Opera ยุคก่อนกลับคืนมา!! โดยตอนนี้ได้ปล่อยรุ่น Tech Preview มาให้ลองชิมกันก่อน ไปโหลดมาลองได้ที่ vivaldi.com (มีทั้ง Windows, Mac และ Linux)

โฉมหน้าของ Vivaldi

ตัว Vivaldi ใช้ดีไซน์แบบ "โคตร Flat" คือทั้งแบนทั้งเรียบ ไอค่อนก็เป็นแบบโมโนโทนตามสมัยนิยม

ตัวแท็บและแถบนำทางจะเปลี่ยนสีไปตามไอค่อนของเว็บนั้น ๆ ครับ ซึ่งก็ไม่ใช่ไอเดียแปลกใหม่อะไร (เคยมีส่วนขยายของ Firefox ที่ทำแบบนี้ได้อยู่) แต่ช่วยทำให้ Vivaldi ดูโดดเด่นพอสมควร เสียก็แต่ถ้าเปิดเว็บที่ไม่ได้ใส่ Favicon ไว้ มันจะเป็นสีดำ ดูไม่สบายตาเท่าไหร่...

หากใครจำได้ Opera รุ่นเก่าช่วงหลัง ๆ จะสามารถปรับขนาด Tab bar เพื่อโชว์ตัวอย่างหน้าเว็บได้ จุดนี้ Vivaldi ก็รับสืบทอดมาครับ

ย้ายตำแหน่งแท็บได้ทั้ง บน ล่าง ซ้าย ขวา ถ้าไว้ข้าง ๆ หรือด้านล่าง แถบนำทางข้างบนจะดูสวยมากเลยครับ ไอค่อนที่เป็นปุ่มเมนูก็ไม่ดูลอย ๆ แบบตอนเอาแท็บไว้ข้างบน

สามารถลากแท็บมาวางซ้อนกันเพื่อยุบรวมกันได้เหมือน Opera เดิมยุคท้าย ๆ โดยจะมีขีดข้างบนให้ดูว่ากำลังอยู่แท็บไหนในแท็บย่อย (บอกตามตรงว่าโคตรชอบฟีเจอร์นี้)

มี Sidebar เหมือน Opera เดิมเลย (ไม่ชอบก็กดซ่อนได้ทั้งแถบ) ตอนนี้ที่ใช้การได้ก็มี Bookmark, Contact, Download และ Note ไว้จดบันทึกได้ ส่วน Mail ทาง Vivaldi ก็เตรียมจะมีบริการ Web Mail ครับ (คลิกเข้าไปจะบอกว่ายังไม่เสร็จ) ไม่รู้อนาคตจะทำตัวเป็น Mail Client แบบเมื่อก่อนได้มั้ย แล้วจะมี IRC ด้วยมั้ยเนี่ย?

Status bar ที่ชาวบ้านเอาออกไปหมดแล้ว Vivaldi ก็ยังเก็บไว้ โดยมุมขวาจะมีแถบให้เลื่อนปรับขนาดเว็บ ปุ่มซ่อนรูปภาพในหน้าเว็บทั้งหมด และ Page actions ไว้กดใส่ Filter ให้หน้าเว็บที่ดูอยู่ เช่น ทำเป็นสีขาวดำ สีซีเปีย เปลี่ยนเป็น 3D เป็นต้น  ลูกเล่นนี้ Opera เดิมก็เคยมีมาก่อน (แต่ตอนนั้นยังไม่มี 3D นะ) กลับมาคราวนี้รู้สึกจะทรงพลังและเนียนกว่าเก่ามาก

ที่ขาดไม่ได้แน่ ๆ คือ Speed Dial ของ Vivaldi นี้ก็ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษมาก ก็แค่สร้างโฟลเดอร์ได้ แถมยังสร้างโฟลเดอร์ในโฟลเดอร์ซ้อนเข้าไปได้เรื่อย ๆ ด้วย!! วิธีสร้างโฟลเดอร์ไม่ใช่การลากเว็บมาซ้อนกันแบบ Opera ในปัจจุบัน แต่ใช้วิธีกด New Folder แทนการ Add เว็บเข้ามาใหม่เท่านั้น

นอกจากสร้างโฟลเดอร์ใหม่แล้ว เรายังสร้าง "หน้าใหม่" ให้ Speed Dial ได้ด้วย แต่ Vivaldi ก็ยังเรียก "หน้า" ว่า Folder อยู่ดี จริง ๆ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ต่างแค่ตำแหน่งเอง

การ Add Bookmark ก็มีรูปพรีวิวให้ดูตามสมัยนิยมแล้ว (ผมชอบไอค่อนที่คั่นหนังสือแบบนี้มากกว่ารูปดาวแฮะ)

หน้า Setting มาเป็นหน้าต่าง และยังไม่มีอะไรให้ตั้งมากนัก (ภาษาไทยยังไม่มีให้เลือกเลย) ก็ออกแบบได้ฉีกดี เพราะสมัยนี้จะทำหน้า Setting เป็นเหมือนหน้าเว็บกันหมดแล้ว

Vivaldi สามารถ Import bookmarks and settings จากเบราว์เซอร์อื่นได้ตั้งแต่เป็น Tech Preview นี่แหละ!! ในขณะที่ Opera ใหม่เพิ่งจะทำได้เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง... แถมขนาดไม่ได้สั่ง Import มันก็แอบเอา History จากเบราว์เซอร์อื่นเข้ามาให้เราแล้ว

ฟีเจอร์ที่ดู Geek มาก คือ Quick Commands ให้เราพิมพ์หาทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งแท็บ เมนูคำสั่ง Bookmarks ได้จากที่นี่! แต่ก็นั่นแหละ เหมาะกับพวกลูกอีช่างพิมพ์!! (ถ้าจำไม่ผิด ผมเห็นอะไรแบบนี้ครั้งแรกใน Ubuntu นะ)

ส่งท้าย

แม้จะมีหลายสิ่งที่ทำให้คิดถึง Opera เดิม ๆ แต่สิ่งที่ไม่เดิมแน่ ๆ คือเจ้า Vivaldi นี้ใช้ Blink Engine เหมือน Chrome และ Opera ยุคใหม่ครับ ดังนั้นเรื่องการเปิดเว็บก็ไว้ใจได้เลย ถ้าไอ้ 2 ตัวนั่นมีปัญหาอะไร มันก็มีด้วยแน่ ๆ ล่ะ (Firefox Win!)

เท่าที่เล่น ๆ ดู ก็ยังรู้สึกขัด ๆ ตาหลายจุด (คือ...มันแบนไปป่ะ?) ตัว UI ยังมีการกระพริบ ๆ ให้ดูแล้วหงุดหงิดอยู่บ้าง บางครั้งก็รู้สึกว่าเบราว์เซอร์มันหนัก ๆ แต่ก็นั่นแหละ มันยังแค่ Tech Preview เอง ก็ต้องรอดูพัฒนาการต่อไปอีกยาวไกล

Vivaldi จะกุมหัวใจสาวก Opera ได้หรือไม่ หรือจะหายไปกับสายลมแบบเบราว์เซอร์ขั้วที่ 6 อื่น ๆ ... โปรดติดตามเอาเอง (ถ้าออก Stable มาแล้วเจ๋งจริง ก็จะเอามาเกาะติดรายงานการอัพเดตแทน Chrome ซะเลย!)



โหลดมาลองเองได้ที่ : vivaldi.com